จากกรณีที่ในโลกโซเชียล เพจ Social Hunter Reb orn v3 ได้มีการโพสต์ รูป และวีดีโอ พร้อมข้อความ โดยระบุว่า "นางอรัญญาพักอาศัย อยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุได้ฝากถามมาว่า มีตำรวจ5นายบุกเข้ามาค้นในบ้าน โดยที่ไม่มีหมายค้น ไม่มีเหตุน่าสงสัย ไม่มีเหตุร้ายภายในบ้าน การตรวจค้นบ้านในลักษณะนี้ สามารถกระทำได้หรือไม่?

โดยในกล้องวงจรปิดภายในบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏภาพชายฉกรรจ์จำนวน 5 ราย ได้เข้ามาทางประตูด้านหน้า จากนั้นได้มีการกระจายกำลัง ออกโดยรอบตัวบ้าน เข้าตรวจค้น ก่อนที่จะมีเสียงหมาเห่า

ล่าสุด วันที่ 8 เมษายน 67 เบื้องต้นทางผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายจำรัส เจ้าของบ้าน กล่าวว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในวันนั้นซึ่งเราเป็นชาวบ้านธรรมดา คือการเข้าตรวจค้นในรูปแบบนี้ มันเหมาะสมไหม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจค้นก็คงจะมีเหตุผลของท่าน ไม่แสดงบัตรไม่แสดงหมายได้ไหม เอาลักษณะการเข้า เดี๋ยวจะต้องปรึกษาผู้หลักผู้ใหญ่ว่าจะดำเนินการยังไงต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นจากการตรวจค้นในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงหมายตรวจค้นอะไร ซึ่งในวันนั้นตัวผมเองและภรรยาที่เป็นเจ้าบ้าน ก็ไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนั้น ก็มีแต่ลูกที่เป็นวัยรุ่นนอนอยู่แต่นั้นก็มีเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นตำรวจเข้ามาตรวจค้น โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไร ลักษณะการเข้าไปซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ทำอะไร แต่ที่ติดใจก็คือการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ โดยในความรู้สึกของเรา คือมันไม่ถูกต้อง

ทางด้าน พ.ต.อ.ศิวัชณัฏฐ์ คุ้มทรัพย์ ผกก.สภ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าบ้านหลังนี้มีพฤติกรรมมั่วสุมเสพยากันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปบ้านหลังนี้ แล้วก็หายไป 4-5 เดือนได้มีชาวบ้านไปร้องเรียนคือมีพฤติกรรมเหมือนเดิมคือมั่วสุมเสพยาและมีข่าวเชิงลึกว่ามีการจำหน่ายจ่ายแจก ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้พยายามสืบสวนจับกุม วันเกิดเหตุก็ได้เข้าไปตามยุทธวิธีทางเป้าหมายคนที่มีพฤติกรรมที่ได้รับแจ้งได้วิ่งหนีไปทันที ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปก็ไม่พบเจออะไร เจอแต่ทางผู้อาศัยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปก็ได้มีการแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขอเข้าตรวจค้นตรวจสอบบุคคลตามเป้าหมายทางผู้พักอาศัยได้แจ้งว่าตัวคนดังกล่าวไม่อยู่แล้วหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เดินทางกลับ ก่อนกลับทางเจ้าหน้าที่ยังได้พูดคุยกับทางเจ้าของบ้านว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำตามหน้าที่ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปรอได้รับแจ้งข้อมูลจากชาวบ้านโดยตรง และตนได้มีการประสานกับผู้นำชุมชน ตลอดเวลาว่าเป็นหมู่บ้านที่มีการแพร่ระบาด ก็ได้พยายามดำเนินการ ขอรับรองว่าตำรวจของเราไม่มีการไปเรียกรับผลประโยชน์เด็ดขาด ส่วนวิธีการก็ได้เข้าตามยุทธวิธีอาจจะมีบ้างที่กระทบกระทั่งกัน ตรงไหนที่มันเกินเลยตนก็ต้องขอโทษและจะไปกำชับผู้ใต้บัญชาให้ปฏิบัติงานด้วยความรัดกุม

ส่วนชาวบ้านอย่างด้านนางดี (นามสมมติ) ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าหลังจากที่เห็นคลิปวีดีโอตนก็ไม่มีความคิดอะไรแต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บุกรุกเข้าไปนั้นตนไม่มีความคิดเห็น แต่ตนยอมรับว่าในพื้นที่ของตนนั้นมีการระบาดของยาเสพติด แต่ต้นก็ไม่รู้ว่ามีใครเสพบ้าง