รองผู้ว่าฯ บึงกาฬ ลงพื้นที่สำรวจ-ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน หลังเกิดพายุลูกเห็บถล่ม บ้านเรือนเสียหาย-หลังคาทะลุ

จากกรณีพายุฤดูร้อนนำลูกเห็บพัดถล่ม 2 ตำบล ทำให้หลังคาบ้านไม่ว่าจะเป็นมุงด้วยสังกะสีหรือกระเบื้องหรือแม้แต่เมทัลชีทไม่ว่าเก่าหรือใหม่ก็ยังทะลุได้ ทำเอารองผู้ว่าที่รุดเยี่ยมชาวบ้านถึงกับตะลึงและเอ่ยปากไม่เคยพบเห็นลูกเห็บที่ใหญ่ขนาดเท่าไข่ไก่สร้างความเสียหายให้แก่หลังคาบ้านจำนวนมาก ล่าสุดทราบว่ามีความเสียหายเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตำบล คือตำบลท่ากกแดงรวมความเสียหายกว่า 1,000 หลังคาเรือน

ผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬรายงานมาว่า จากเหตุการณ์พายุฤดูร้อนได้พัดกระหน่ำ 2 ตำบล คือตำบลน้ำจั้นและตำบลบ้านต้อง หลังได้รับรายงาน นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งไปราชการต่างจังหวัด ได้สั่งการให้ นายวินัยโตเจริญ รองผู้ว่าฯ และหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยกำนันผู้ใหญ่บ้านและนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นนำส่วนเกี่ยวข้องออกตรวจสอบความเสียหายในการเกิดพายุลูกเห็บถล่มบ้านชาวบ้านในครั้งนี้

ซึ่งเบื้องต้นทางผู้ว่าฯ ได้รับรายงานความเสียหายเพียง 2 ตำบลเท่านั้น แต่พอช่วงดึกเวลาประมาณ 21.00 น. หลังจากที่รองผู้ว่าได้ออกตรวจสอบความเสียหายในตำบลน้ำจั้นและตำบลบ้านต้องแล้ว ระหว่างนั้นก็ได้รับรายงานว่าที่ตำบลท่ากกแดงก็ได้รับแจ้งว่ามีพายุลูกเห็บพัดถล่มหลังคาบ้านพังเสียหายไปหลายหลัง โดยนายวินัยรองผู้ว่าได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าถ้าหากออกตรวจเยี่ยมชาวบ้านต่อในตอนกลางคืนนี้ ก็จะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนซ้ำหนักเข้าไปอีก เนื่องจากว่าบ้านถูกลูกเห็บตกใส่จนทะลุเป็นรูโบ๋ไม่ว่าจะเป็นมุงด้วยกระเบื้องหรือมุงด้วยสังกะสีหรือแม้แต่เมทัลชีท ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ก็ยังทะลุได้สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับรองผู้ว่าเป็นอย่างมาก ถึงกับเอ่ยปากว่าไม่เคยพบเห็นความรุนแรงของลูกเห็บที่สร้างความเสียหายให้กับหลังคาบ้านชาวบ้านถึงขนาดนี้

นายวินัย รองผู้ว่าฯ กล่าวต่อไปว่าพายุลูกเห็บตกครั้งนี้ ยังโชคดีที่ไม่สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินอย่างอื่น เช่น รถยนต์และสวนยางพาราเนื่องจากการที่เกิดพายุในครั้งนี้ เป็นเพียงพายุลูกเห็บฝนก็ไม่ตกหนักและก็ไม่ได้เกิดพายุหมุนอย่างทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับตัวบ้านหรือหลังคาบ้านพังยุบเสียหายนอกจากนั้นก็ยังสร้างความเสียหายให้กับสวนยางพาราที่พายุหมุนพัดหักโค่นเหมือนที่ผ่านมาอีกด้วย

หลังสำรวจความเสียหายเบื้องต้นแล้วนายวินัยได้เดินทางกลับมายังบ้านพักและกล่าวว่าพรุ่งนี้เช้าจะรีบเดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนกับพี่น้องชาวบ้านผู้ประสบวาตภัยอีกครั้งหนึ่ง และก็คงจะเป็นการระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกให้ความช่วยเหลือกับชาวบ้านและปลอบขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านต่อไป