จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ข้อความร่ายยาวเพื่อขอทวงความยุติธรรมให้กับน้องสาว ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์จมน้ำในวันที่ 14 เมษายน 2566 โดยผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ “น้องแพรว” นางสาววรกานต์ อายุ 24 ปี โดยระบุข้อความไว้ว่า

"อยากให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์ มีลูกสอนลูกมีหลานสอนหลาน อย่าไว้ใจคนที่รู้จักกันเพียงไม่กี่วัน เกิดอะไรขึ้นมาก็ไม่มีใครช่วยได้ ไม่มีคนรับผิดชอบ อยากร้องขอความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิตค่ะ ผู้เสียชีวิตคือน้องสาวคนเล็กของพลอยค่ะ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 เวลา 07.00 น. แฟนแพรว (เจมส์) มารับแพรว (ผู้เสียชีวิต) โดยมีการนัดรับก่อนจะถึงบ้าน ทำให้ที่บ้านไม่รู้ ต่อมาช่วงเวลา 13.00 น. ทางด้านของแพรว (ผู้ตาย) , เจมส์ (แฟน) , เพลง (เพื่อน) ทั้งสามคนได้มาเล่นน้ำที่คลองชลวังมะนาวหมู่ 5 อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

ต่อมาเวลา 14.00 น. ตำรวจได้มาแจ้งแม่ที่บ้านว่า แพรวได้จมน้ำ ยังหาร่างไม่เจอ ส่วนคำให้การกับตำรวจทั้งคู่ (เจมส์และเพลง) บอกว่าแพรวกับเพลงลื่นตกน้ำ ต่อมาเจมส์เห็นเลยลงไปช่วยเพลงก่อน แต่ช่วยแพรวไว้ไม่ทัน ซึ่งเพลงเล่าว่าตอนแรกเพลงลงเล่นน้ำก่อนแล้วเกิดจมน้ำ แพรวเห็นเพื่อนจมเลยลงไปช่วย ส่วนเจมส์บอกว่าตอนนั้นตัวเองเดินไปปัสสาวะ แต่บางทีก็บอกว่าขับรถไปที่อื่น ทางญาติเลยติดใจว่าทำไมพูดไม่ตรงกันและติดใจสาเหตุการตายของแพรว เลยเดินทางไปตรงจุดเกิดเหตุ เห็นมีกล้องวงจรปิดเลยไปบอกกับทางตำรวจไปดูกล้องให้ และตำรวจก็บอกว่าเดี๋ยวส่งคลิปกล้องวงจรปิดให้ทีหลัง แต่พอส่งคลิปมาดูกลายเป็นว่าในวงจรปิดเป็นคนละอย่างกับที่สองคนให้การเลย ซึ่งก็มีเรื่องแปลกตรงที่ว่าคลิปบางส่วนที่เหมือนจะเป็นเหตุการณ์สำคัญได้ถูกตัดหายไป ตั้งแต่เวลา 13.18 - 13.23 น.

โดยมีการอธิบายว่า ภาพจากวงจรปิดจะเห็นว่าแพรว (ผู้ตาย) กึ่งยืนกึ่งนั่งบนเสาปูน ส่วนเพลงไม่ได้ลงน้ำด้วย จากนั้นเวลา 13.23 น. ทางด้านเจมส์เดินบนเสาสะพานปูน และจากนั้นภาพในเวลา 13.23 - 13.27 ก็หายไป ต่อมาก็เห็นว่าเจมส์ลงไปอยู่ในน้ำกับเพลง ส่วนแพรวก็อยู่ในน้ำเหมือนกัน

โดยทางด้านพี่สาวของคนตายก็ได้อธิบายในโพสต์ว่า ตัวเองได้ยินเสียงพูดในคลิปกล้องวงจรปิด ลักษณะคือแพรวพูดกับเพลงว่า “ไอ้สั-มึงมายุ่งกับผัวกูทำไม” ต่อมาเพลงก็พูดว่า “นึกว่ามึงมีผัวคนเดียวหรือไงอีเหี้-” แล้วก็ได้ยินแพรวตะโกน “อย่าทำกู” พร้อมกับสำลักน้ำในช่วง 13.29 - 13.33 น.

และสิ่งที่ครอบครัวติดใจอีกอย่างคือสภาพศพหลังผ่าชันสูตร ปรากฏว่าหน้าผากมีแผลเหนือคิ้วข้างขวา มีรอยช้ำที่หนังศรีษะ โดยแพทย์แจ้งว่าต้องผ่าเปิดกระโหลกออกถึงเห็นรอยช้ำ คอเขียว ท้ายทอยซ้ำ ตอนนี้คดีก็ครบ 1 ปีเต็ม ทางศาลก็เงียบ ร้องสื่อไปเป็นสิบแล้วก็เงียบ ร้องไปตั้งแต่น้องตายได้เดือนกว่า ๆ อยากไปรายการโหนกระแส อยากเอาอีกสองคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไปออกด้วย อยากฟังความจริงค่ะ วอนสังคมช่วยกันแชร์คนละ 1 แชร์ค่ะขอบคุณมาก"

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับนางสาวพลอยไพลิน ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ในวันที่ 14 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 07.00 น. ทางด้านของนายเจมส์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นแฟนของนางสาววรกานต์ หรือ แพรว (ผู้เสียชีวิต) ได้มารับน้องสาวของตน แต่สิ่งที่แปลกคือนายเจมส์นั้นไม่ได้มารับถึงบ้าน กลับเรียกให้น้องสาวของตนออกไปเจอกันนอกบ้าน ซึ่งน้องสาวของตนกับนายเจมส์ก็เพิ่งจะคบหากันได้เพียง 9 วันเท่านั้น ซึ่งตนก็ได้เอ่ยปากถามน้องสาวว่าจะไปไหน แพรวก็บอกว่าจะไปเล่นสวนน้ำที่อำเภอปากท่อกับเพื่อนที่ชื่อ น.ส.เพลง ซึ่งน้องสาวก็เพิ่งจะรู้จักกับเพื่อนคนนี้ได้ประมาณ 1 เดือนเท่านั้น แต่หลังจากที่น้องสาวออกไปจากบ้าน

ในเวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาแจ้งข่าวร้ายว่าน้องสาวของตนจมน้ำเสียชีวิตและยังค้นหาร่างไม่เจอ ในตอนนั้นตนทั้งช็อกทั้งเสียใจกับสิ่งที่ได้ยินและรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุทันที ซึ่งเมื่อไปถึงก็เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำ น.ส.เพลง โดยเธอก็ได้บอกกับตำรวจว่า “เพลงกำลังจะจมน้ำ แพรวเห็รเลยลงมาช่วย ทำให้แพรวจมน้ำไปเสียเอง” ซึ่งส่วนตัวในฐานะพี่สาวตนไม่เชื่อกับคำให้การนั้น เพราะน้องสาวเป็นคนว่ายน้ำไม่เป็นและกลัวน้ำ จึงเป็นไปไม่ได้ที่น้องจะลงไปช่วยคนอื่น ส่วนทางด้านของนายเจมส์ก็ให้การว่า “ตอนนั้นผมไม่อยู่ ผมขับรถออกไปที่อื่น” ซึ่งคำให้การนั้นก็ไม่เป็นความจริงเพราะกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าทั้ง 3 คนอยู่ด้วยกันตลอดเวลา

อีกทั้งพฤติกรรมสุดแปลกของนางสาวเพลงและนายเจมส์ เพราะหลังจากที่แพรวได้เสียชีวิต ตนได้เห็นว่าเพลงนั้นมีการโพสต์เฟซบุ๊กประมาณว่า จะขอทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแพรว ตนจึงส่งข้อความไปถามว่าคือสัญญาอะไร และคำตอบที่ได้กลับมาก็ทำเอาตนแทบช็อกเพราะทางด้าน น.ส.เพลง บอกว่า “ถ้าหากแพรวตาย เพลงจะต้องเลิกกับแฟน แล้วหันมาคบกับนายเจมส์แทน” ซึ่งตนคิดว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เพื่อนจะคุยกัน ทำไมต้องพูดถึงเรื่องตาย แล้วการจะยกแฟนให้เพื่อนคบต่อ มันเป็นไปได้ด้วยหรอ

และหลังจากที่น้องสาวของตนเสียชีวิตได้ 1 เดือนก็มีคนตาดีไปเห็นว่า น.ส.เพลง และนายเจมส์ ได้พากันเดินเที่ยวอยู่ตามตลาด ซึ่งทั้งคู่ก็ดูมีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวต่อกัน ยิ่งทำให้ครอบครัวคิดว่าแพรวไม่น่าจะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ แต่คงจะถูกทำร้ายจากฝีมือของใครสักคนมากกว่า ในตอนนี้ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยรื้อคดีขึ้นมาอีกครั้ง โดยต้องเรียกตัวนายเจมส์ และ น.ส.เพลง เข้ามาสอบปากคำใหม่อีกครั้ง ในฐานะพี่สาวของผู้เสียชีวิต ตนอยากให้ทั้งสองคนพูดความจริงเพราะที่ผ่านมาทั้งคู่เอาแต่พูดจาวกไปวนมา ไม่ยอมตอบความจริง และในอีกไม่กี่วันก็จะครบรอบ 1 ปีในการจากไปของแพรว ตนจึงอยากจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับน้องสาวผู้ล่วงลับ

ด้านของนางสุนีย์ แม่ของแพรว ก็ได้เล่าเหตุการณ์แปลก ๆ ให้ฟัง โดยเล่าย้อนไปในวันที่ 13 เมษายน 2566 เป็นเวลาก่อนเกิดเหตุเพียง 1 วัน โดยวันนั้นทางด้านของนายเจมส์ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาหาลูกสาวตนที่บ้าน และหลังจากนั้นไม่นานทางด้านของ น.ส.เพลง ก็ได้ตามเข้ามาหาลูกสาวที่บ้านเช่นเดียวกัน ซึ่งในตอนนั้นตนก็กำลังทำกับข้าวอยู่หลังครัว แต่หลังจากที่ตนเดินออกมาหน้าบ้านก็เห็นว่านายเจมส์กำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน และที่แปลกคือ น.ส.เพลง ซึ่งเป็นเพื่อนของแพรวได้นั่งอยู่บนขาของนายเจมส์ ทั้งสองคนกำลังนั่งถ่ายรูปด้วยกันสองคนในลักษณะแนบชิด ทำให้ลูกสาวของตนก็ได้ออกมาเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้าเช่นเดียวกัน เมื่อเห็นดังนั้นทางด้านของนายเจมส์ก็ได้ดึงแพรวไปนั่งบนขาอีกข้าง พร้อมกับถ่ายภาพร่วมกัน 3 คน เพราะ น.ส.เพลง ก็ไม่ยอมลุกและยังคงนั่งอยู่แบบนั้น โดยจากภาพก็จะเห็นว่านายเจมส์มีการใช้มือโอบเอวของ น.ส.เพลง ซึ่งมองว่าคนที่ไม่ใช่แฟนและเพิ่งรู้จักกันคงไม่น่าจะสนิทกันขนาดนั้น

จากนั้นนางสุนีย์ก็พูดด้วยเสียงสั่นเล่าเหตุการณ์ตอนตำรวจมาแจ้งข่าวร้ายว่า “มีเด็กผู้หญิงจมน้ำเสียชีวิต ชื่อว่าแพรว” ซึ่งตนก็ยังเสียใจมาถึงทุกวันนี้ ที่ผ่านมาตนอดทนต่อสู้ทำงานเพื่อส่งให้ลูกเรียนจนจบปริญญา และหวังว่าจะได้หวังฝากชีวิตไว้กับลูก แต่สุดท้ายลูกก็ต้องมาจากไปด้วยสาเหตุที่คลุมเครือ ซึ่งตนก็อยากจะให้ตำรวจมอบความเป็นธรรมให้กับคนตายด้วย เพราะคนตายคงไม่สามารถลุกขึ้นมาต่อสู้อะไรได้อีกแล้ว ในตอนนี้ตำรวจบอกว่าได้ส่งเรื่องไปที่ศาลแล้ว แต่ตนก็ยังไม่ได้รับความคืบหน้าเลย จึงต้องหันมาพึ่งพาสื่อให้ช่วยมอบความเป็นธรรมให้กับครอบครัวด้วย โดยนางสุนีย์ก็มีการก้มลงไปมองรูปภาพในมือพร้อมกับบอกว่ารักลูกและจะทวงความเป็นธรรมมาให้ได้