จากกรณีคดีอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน คือ นายธนาสันต์ หรือ ใหม่ อายุ 33 ปี แล้วถูกนำร่างไปทิ้งข้างทางเลียบมอเตอร์เวย์ ซึ่งคนก่อเหตุคือ นายกิตติโชติ หรือ ช่างกิต บางบ่อ อายุ 37 ปี กิ๊กของ น้องพร ภรรยาของคนตาย ซึ่งเจ้าตัวสารภาพก่อเหตุเพราะหึงหวง นั้น


น้องพร โผล่งานศพรับนอกใจ แต่ไม่ได้บงการสังหาร


วันที่ 3 ก.พ. 2567 ช่วงเย็นที่ผ่านมา มีรายงานว่า น.ส.วรรณพร หรือ น้องพร ทำกับข้าวมาที่งานศพ นายใหม่ สามีตัวเองที่จัดขึ้นที่วัดปลัดเปรียง จ.สมุทรปราการ เพื่อแจกจ่ายให้คนที่มาร่วมงานพร้อมของชำร่วย เมื่อมาถึงบอกทีมข่าวแต่ละช่องที่ปักหลังว่า “ขอจัดงานศพสามีก่อนยังไม่พร้อมคุย”




จากนั้นเดินเข้าครัวแล้วไปจัดเตรียมอาหารเย็นเพื่อนำไปให้สามีที่บริเวณหน้าโลงศพ แล้วเคาะโลงบอกสามีว่า “ทานข้าวนะ กะเพราหมูสับไข่ดาวที่เมียทำมานะ” ก่อนเคาะโลงศพบอกสามี แล้วเดินออกไป อาหารที่นางสาวพรนำมาวางหน้าโลง คืออาหารง่าย ๆ ที่นายใหม่ทานประจำ ข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว น้ำดื่มและเบียร์


น้องพร ยอมเปิดใจ ยอมรับว่าเครียดมากทั้งเรื่องที่สามีเสียชีวิต และตนเองยังถูกสังคมโจมตีว่ามีกิ๊กนอกใจผัว แถมชักศึกเข้าบ้านเอากิ๊กมาฆ่าสามีตัวเอง เผยยอมรับตนเองมีชู้แต่ปฏิเสธเรื่องที่ร่วมกับชู้ฆ่าสามี ยืนยันตนไม่มีส่วนร่วมและไม่เคยคิดฆ่าสามีตัวเอง


เมื่อถามถึงจำนวนกิ๊ก น้องพรไม่ตอบ โบ้ยให้ไปถามตำรวจเองเพราะตนจะไปให้ปากคำกับตำรวจ อยากทราบอะไรให้ไปถามตำรวจ ตนไม่มีความกังวลใจอะไร เพราะตนไม่ได้ทำให้สามีเสียชีวิต ตอนนี้ขอจัดงานศพให้ผ่านพ้นไปก่อน เมื่อทีมข่าวจี้ถามความสัมพันธ์ “พร” กับ “กิต” ชู้สาวหรือไม่ น้องพร บอกเรื่องนี้จะไปให้ปากคำกับตำรวจ ก่อนจะเดินหนีนักข่าวไม่ตอบในประเด็นดังกล่าว




ส่วนประเด็น ช่างกิตที่นอนบ้านน้องพร ทีมข่าวพยายามจี้ถามเพื่อให้สังคมหมดข้อสงสัย แต่น้องพรไม่ตอบก่อนจะรีบเดินไปจัดเตรียมสิ่งของภายในงานศพ ระหว่างเตรียมของงานศพทีมข่าวยังสังเกตเห็นว่าที่ข้อมือซ้ายของน้องพร สวมใส่นาฬิกาเรือนสีเงินเพียงเรือนเดียวเท่านั้น


เพื่อนใหม่ บุกจะรุมตบน้องพร แค้นหักหลังผัว


ระหว่างที่น้องพรกำลังเปิดใจกับสื่อมวลชน ก็เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์ มีเพื่อนของนายใหม่ไม่พอใจตะโกนโพล่งออกมาถามน้องพรว่า “แล้วเรื่องคีย์การ์ดจะตอบว่ายังไง” ประเด็นนี้น้องพรก็ตอบอีกว่า คีย์การ์ดของพรหายออกไปจากรถของตัวเธอเอง โดยที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน ตัวเองไม่ได้อนุญาตให้ช่างกิตเอาคีย์การ์ดเข้า-ออกหมู่บ้านติดตัว ส่วนรถเก๋งสีแดง ยืนยันเคยเห็นช่างกิตขับคันนี้แต่ไม่บ่อยนัก


ยอมรับจุกอกที่เห็นรถเก๋งสีแดงเป็นรถของคนร้าย และพูดไม่ออกหลังจากที่รู้ว่าช่างกิตเป็นคนฆ่าสามีตัวเอง ตนขอโทษเพื่อน พี่น้องใหม่ทุกคน แต่หนูไม่ได้ทำหนูไม่ได้ไปสั่งให้ใครมาฆ่าสามี ไม่ได้ไปหยิบยื่นหรือบอกใครให้ทำ ขอยืนยันความบริสุทธิ์ตรงนี้




ขณะเดียวกันหลังที่น้องพรให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ก็ปรากฏว่าเกิดเหตุชุลมุนเมื่อเพื่อนของนายใหม่ที่อยู่ในงานแล้วรับฟังคำที่พรให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว เกิดความไม่พอใจและเกิดความโกรธแค้น ตะโกนด่าพรต่อหน้าสื่อหลายช่องที่อยู่ในงานศพว่า “ไม่จริง ๆ มึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนกูตาย มึงมีส่วนร่วมตั้งแต่มึงมีชู้แล้ว เอาคีย์การ์ดเข้าไปในหมู่บ้านได้ขนาดนั้น มันไม่ใช่หรอก มันรู้ทุกอย่างมันรู้เห็นทุกอย่าง” เหตุการณ์เริ่มชุลมุนหนักขึ้นจนสื่อต้องห้ามเพื่อนของนายใหม่ให้สงบสติอารมณ์ จากนั้นก็มีญาติของนายใหม่พยายามกันเพื่อนออกจากจุดที่น้องพรให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว เพราะหวั่นเกิดเหตุไม่คาดคิด


น้องพรขอโทษรับคบซ้อน มีสัมพันธ์กับไอ้กิต


น้องพรเปิดใจครั้งแรก ถึงทุกประเด็นหลังเสร็จสิ้นพิธีสวดพระอภิธรรมศพของสามีเป็นคืนสุดท้าย น้องพรยกมือไหว้ขอโทษแล้วบอกว่า “ก่อนอื่นหนูขอโทษต่อสังคม ขอโทษญาติพี่น้องขอโทษเพื่อน ๆ ทุกคนที่หนูประพฤติตัวไม่ดี ที่ไม่ซื่อสัตย์กับแฟน หนูยอมรับมีความสัมพันธ์กับคนอื่นจริงจึงเป็นเหตุชนวนให้มันเกิดเรื่องนี้ แต่หนูไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของสามีหนู ไม่รู้เรื่องเลยมาตั้งแต่แรก หนูขอขอโทษยอมรับว่าผิดประพฤติตัวไม่ดี หนูขอโทษ”


นอกจากนั้น น้องพรยังชี้แจงหลายเรื่องที่สังคมตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเธอ ยอมรับมีความสำพันธ์กับช่างกิต แล้วฝ่ายชายมาที่บ้านของตนเองจริง วันที่ 26 มกราคม ตนไปบ้านของช่างกิต เพื่อไปล้างรถ ในวันนั้นช่างกิตมีท่าทีปกติและไม่ได้ถามเรื่องที่เธอแอบโกหกว่าเธออยู่กับพ่อ แต่แท้จริงแล้วเธออยู่กับสามีคือ ใหม่ และในวันที่ 27 มกราคม ก็ยืนยันว่าเจอช่างกิต แต่ช่างกิตไม่ได้พูดเรื่องที่จะลงมือฆ่าสามีตนเอง




หลังสามีหายตัวปริศนาออกจากบ้านพักก็ช่างกิตอีก ที่พาตนเองไปแจ้งความที่โรงพัก จากนั้นตำรวจก็เรียกตนเองไปสอบปากคำเรื่องสามี แล้วช่างกิตก็เป็นคนพาตนไปห้องสอบปากคำ แล้วช่างกิตก็อยู่ด้วยตลอดตอนที่ตนไปสอบปากคำ กระทั่งวันที่พบศพสามี ช่างกิตก็อยู่ข้าง ๆ ตลอด แล้วหลังเจอกับสามีช่างกิตก็เป็นห่วงตนเอง เพราะกลัวว่าตนเองอยู่บ้านคนเดียวแล้วจะไม่ปลอดภัยและเครียดจมกับความทุกข์ ช่างกิตก็มาอยู่เป็นเพื่อน ยืนยันตั้งแต่เกิดเรื่อง ช่างกิตอยู่ข้าง ๆ ตนเองตลอด และไม่มีท่าทีที่บ่งบอกว่ามีพิรุธหรือเป็นคนฆ่าสามีตน ตนจึงไว้ใจมาก


หากจะกล่าวหาว่าตนร่วมมือกับช่างกิตมันไม่ใช่ความจริง สังคมกำลังกล่าวหาตนแต่ถ้าสังคมบอกว่าตนผิดที่มีชู้เป็นเรื่องจริง ที่ตนหักหลังสามีทำสามีช้ำใจ ปฏิเสธไม่ได้ว่าตนเป็นชนวนการฆ่า ส่วนที่ถูกขุดคุ้ยเรื่องตนมีชายมากหลายคน ตนผิดตนยอมรับ ตนขอโทษสังคมและญาติคนตาย

เดือด! บุกตบน้องพรในงานศพ ยอมรับนอกใจคบไอ้กิต ชวนมานอนไม่รู้เป็นฆาตกร