หญิงโพสต์เพื่อนถูกจับที่สนามบินฮ่องกง หลังไปเที่ยวกับชายที่เพิ่งเจอโดยอ้างว่าหากไปด้วยจะได้รับส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบิน ก่อนขึ้นเครื่องตีเนียนฝากกระเป๋ากับเพื่อนตนเพื่อขอให้ช่วยโหลดขึ้นเครื่อง ปรากฏว่าเมื่อถึงสนามบินฮ่องกงตรวจพบกระเป๋าใบดังกล่าวมีกัญชา 2 กิโลกรัม ส่วนหนุ่มที่ฝากกระเป๋าหายตัวทันที

 

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งได้โพสต์ข้อความถึงเหตุการณ์ที่เพื่อนของตนถูกชายรายหนึ่ง ชวนไปฮ่องกงด้วยกัน ก่อนเพื่อนใจดีรับฝากโหลดกระเป๋าชายดังกล่าวเป็นชื่อของเพื่อนตน แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึงฮ่องกงทาง เจ้าหน้าที่มีการตรวจค้นกระเป๋าพบกัญชา 2 กิโลกรัม แล้วเพื่อนตนถูกจับ

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง8 ได้หลักฐานภาพวงจรปิด ก่อนนาทีที่ “ซินดี้” ถูกรวบตัวที่สนามบินฮ่องกง หลังทางตม.ตรวจค้นกระเป๋าเดินทางของ “ซินดี้” ที่โหลดขึ้นเครื่องซุกกัญชา 2 กิโลกรัม ทางด้าน “ซินดี้” อ้างว่าไม่ใช่ของตน แต่เป็นของ “นายเก็ท” เพื่อนชายที่มาด้วยกัน

 

โดยกล้องวงจรปิดตัวแรกจะเห็นภาพนาทีที่ “ซินดี้ และนายเก็ท “ไปเช็กอินที่เคาน์เตอร์สายการบินแห่งหนึ่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ” เพื่อขึ้นไฟท์บินไปฮ่องกง เวลา 14.50 น. วันที่ 19 มกราคม “เก็ท “ เดินไปที่เคาน์เตอร์สายการบินก่อนจากนั้นมีการวางกระเป๋าก่อนที่จะเช็คอินตั๋ว ซึ่งเจ้าตัวมีท่าทีลุกลี้ลุกลนมีการหยิบกระเป๋าเข้าออกหลายรอบ โดยยังไม่เช็คอินสักที

 

ต่อมาเหตุการณ์ถัดมา “นายเก็ท” โหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องก่อน “ซินดี้” เจ้าตัวมีการหยิบกระเป๋าเข้าออกถึง3 ครั้งขณะที่ทำการวางกระเป๋าในตะกร้าก่อนโหลดขึ้นเครื่อง ครั้งแรก เก็บของออกจากกระเป๋า ครั้งที่สองก็หยิบของออกจากกระเป๋าเพราะเกรงน้ำหนักกระเป๋าจะเกิน แต่ครั้งที่สามหลังวางกระเป๋าใส่ตะกร้าแล้วก็หยิบออกมาเพื่อที่จะฝาก “ซินดี้”โหลดขึ้นเครื่อง ในขณะที่ซินดี้หยิบกระเป๋าวางใส่ตะกร้าโหลดขึ้นเครื่องแค่ครั้งเดียวไม่มีการเก็บกระเป๋าเข้าออก

 

จากนั้น “นายเก็ท” ได้เปิดกระเป๋าและแพ็คของในกระเป๋าเพิ่ม ก่อนฝากซินดี้โหลดกระเป๋าใบนี้ขึ้นเครื่องโดยใช้ชื่อผู้โหลดเป็นชื่อของซินดี้

  

เปิดใจเพื่อนหลัง “ซินดี้” ทักบอกถูกจับคดีซุกกัญชา จี้ “เก็ท” ลูกผู้ชายอย่าโยนผิดคนอื่น

 

วันนี้เราได้พูดคุยกับนางสาวปูเป้ (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของ “ซินดี้” เปิดเผยแชตที่ทาง “ซินดี้” ทักมาหาตนช่วงเช้าวันที่ 20 มกราคม โดย “ซินดี้” บอกว่า “กูโดนส่งกลับ กลับพรุ่งนี้” ตนตกใจก็รีบทักถามว่า “ แรงมาก แล้วต้องกลับเลยป่ะ เขาบอกว่าไง” จากนั้นซินดี้ไม่ตอบอะไรมาอีกเลย มาทราบภายหลังว่า “ซินดี้” ใจดีให้ “เก็ท” ใช้ชื่อตัวเองโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่อง แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าอีกฝ่ายซุกกัญชาไว้ในกระเป๋า จนถูกจับที่ฮ่องกงหลังลงเครื่อง

 

นางสาวปูเป้ (นามสมมติ) เพื่อนสนิทซินดี้ เล่าว่า “ซินดี้” รู้จักกับ”เก็ท” ตอนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ทำให้ทั้งคู่คุยกันเรื่อยมาจนกระทั่งมีการชักชวนกันไปทริปล่าสุดที่ฮ่องกง แต่ด้วยความไว้ใจทำให้ “ซินดี้” ใจดี รับฝากกระเป๋าโหลดของ “เก็ท” ซึ่งตอนนั้นไม่ทราบว่าอีกฝ่ายได้มีการซุกกัญชาสองกิโลกรัมไว้ในกระเป๋าเดินทาง

 

พอเครื่องออกจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังสนามบินฮ่องกง “ซินดี้” ก็ถูกตม.เรียกและคุมตัวสอบทันที ส่วน “เก็ท” หายตัวไปทันที แม้ว่า “ซินดี้” จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ของตนเองแต่เป็นของเพื่อนที่ชื่อว่า “เก็ท” แต่ทางเจ้าหน้าที่ที่ฮ่องกงก็ต้องมีการคุมตัวไว้ในคุกเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะที่นั่นคดียาเสพติดแรงมาก และทราบภายหลังว่าทางตำรวจฮ่องกงขยายผลตามจับ”เก็ท” ขณะพักที่โรงแรมในฮ่องกง ทำให้ตอนนี้ทั้ง “ซินดี้” และ “เก็ท” อยู่ในคุกที่ประเทศฮ่องกง

 

ตนอยากขอร้องให้ “เก็ท” เป็นลูกผู้ชายไม่ปฏิเสธ และไม่โยนความผิดให้กับเพื่อนตน ซึ่งหลังเกิดเรื่องทั้งตนเองและครอบครัวของ “ซินดี้” พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ฮ่องกงผู้ช่วยเหลือแต่ปรากฏว่ายังไม่สามารถประสานได้ จึงต้องขอความช่วยเหลือผ่านมูลนิธิแห่งหนึ่งในฮ่องกงเท่านั้น

 

นอกจากนั้นยังเพิ่งทราบประวัติของ “เก็ท” ว่าฉ้อโกงผู้เสียหายหลายคนโดยมีหมายจับที่ค้างอยู่ก่อนหน้านี้และกำลังมีหมายจับที่กำลังออกอยู่ ซึ่งมีผู้เสียหายแล้วประมาณ 21 คน ตอนนี้

 

แม่บ้านไทยที่สเปนเผยยอดเหยื่อ “นายเก็ท” รวม 21 ราย 7 ประเทศ ชี้ยอดเสียหายรวมมูลค่าประมาณ 600,000 กว่าบาทแล้ว

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้รับการเปิดใจจากนางอ้อม (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นแม่บ้านไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศสเปนและเป็นหนึ่งในเหยื่อของนายเก็ท ซึ่งเราพูดคุยกันทางวิดีโอคอลเนื่องจากผู้เสียหายอยู่ที่ประเทศสเปน โดยเปิดเผยรายชื่อเหยื่อในแชตซึ่งตนเองนั้นเป็นผู้รวบรวมรายชื่อผู้เสียหายของคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ จากการฉ้อโกงของนายเก็ท พบตอนนี้มีจำนวน 21 คน ที่มาแจ้งชื่อกับตน

 

โดยทั้ง 21 คนเป็นคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศจำนวน 7 ประเทศคือ ไทย สเปน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อันดาร์ร่า โปรตุเกส แคนาดา รวมยอดเงินที่เสียหายตอนนี้ หากเป็นเงินสกุลยุโรปคือ 160 ยูโร หากเป็นเงินไทยรวม 681,946 บาท โดยหนึ่งใน 21 คนที่ตกเป็นผู้เสียหายของนายเก็ท เป็นดาราไทยที่มีชื่อเสียงสองราย ทำให้ไม่ประสงค์ที่จะเปิดเผยชื่อผู้เสียหายทั้งหมดเพราะอาจได้รับความเสียหายทั้งด้านชื่อเสียง

 

โดยนางอ้อมยังได้เปิดเผยว่า ตนเองเป็นแม่บ้านไทยมาแต่งงานกับสามีและใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศสเปน ตนรู้จักกับนายเก็ททางเฟซบุ๊กเพราะมีเพื่อนของตนแนะนำมา ว่าในเก็ท ทำงานหลากหลายอย่าง ขายของออนไลน์ รับหิ้วของจากในไทยมาต่างประเทศ และขายตั๋วเครื่องบินออนไลน์ซึ่งได้ราคาถูกกว่าไปจองเอง จากนั้นตนก็มีการเช็กประวัติก็พบว่ามีคนไทยในสเปนที่ฝากนายเก็ท หิ้วของจากประเทศไทยเพื่อมาส่งที่สเปนจำนวนมากซึ่งได้รับของตรงปกและไม่ได้เผ่นเงินหนีหาย

 

ทำให้ตนเองมีการฝากในเก็ทหิ้วสินค้าจากประเทศไทยมายังประเทศสเปนถึง 4 ครั้งในปี 2565 / ครั้งที่ 1 ฝากหิ้วของชุดผ้าปูที่นอนจากประเทศไทย ได้ของครบ ค่าหิ้วของ ประมาณ 6,900 บาท / ครั้งที่ 2 ฝากหิ้วของขวดน้ำปลาและน้ำปลาร้า จากประเทศไทย ได้ของครบ ค่าหิ้วของประมาณ 5,000 บาท / ครั้งที่ 3 ฝากหิ้วชุดผ้าปูที่นอนจากประเทศไทย ครั้งนี้นายเก็ทอ้างว่าถูกตม.ตรวจและต้องจ่ายเพิ่ม จึงเสียค่าหิ้วของเกือบ 10,000 บาท / และครั้งที่ 4 ฝากหิ้วยาและน้ำมันนวด โอนค่าหิ้วของ 7,200 บาท ปรากฎว่ารอบนี้นายเก็ทเงียบและชิ่งหายไป

 

จากนั้นตนเองจึงเป็นการนำในการรวบรวมชื่อผู้เสียหายที่ถูกนายเก็ทหลอก ก็พบว่าเจ้าตัวมีวิธีในการหลอกล่อเหยื่อให้มาโอนเงิน อ้างว่ามีอาชีพรับหิ้วของในไทยแล้วไปส่งให้คนไทยที่อยู่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นน้ำปลา น้ำปลาร้า เสื้อผ้า หรือสินค้าต่างๆที่อยู่ในไทย แล้วยังอ้างว่าเป็นพ่อค้าออนไลน์ รวมถึงสามารถหาตั๋วเครื่องบินที่มีราคาถูกกว่าที่จองในเว็บและเคาน์เตอร์ได้

"เกย์เก็ท" แสบ! ฝากเพื่อนหิ้วกัญชา สาวซวยติดคุกแทน เหยื่อโผล่แฉอวดรวยดูดทรัพย์