จากกรณีดาบแป๊ะ ตำรวจชุดสืบสวนสังกัด สน.สุทธิสาร ยิง นายฐิติวัฒน์ หรือ หมอก อายุ 25 ปี หนุ่มไรเดอร์เสียชีวิตที่ซอยรัชดาภิเษก 3 แยก 14 ในช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุดาบแป๊ะ ผู้ก่อเหตุ ได้ไปทำงานร่วมกับนายนิ้ว (นามสมมุติ) พ่อเลี้ยงของแอน ซึ่งเป็นแฟนของนายหมอก ผู้ตาย หลังจากเสร็จงานพ่อเลี้ยงของแอนอ้างว่าจะขอไปเอาโทรศัพท์ของตัวเองกับ เเอน ลูกสาว ซึ่งไปอาศัยอยู่กับแฟน ย่านห้วยขวาง เสร็จเเล้วจะไปส่ง ทางดาบแป๊ะจึงนั่งรถไปด้วย เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นทางผ่าน



ปรากฏว่าพอไปถึงกลายเป็นดาบแป๊ะก่อเหตุยิงหมอก แฟนของแอน เสียชีวิตหน้าบ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ทีมข่าวได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นนายนิ้วพ่อเลี้ยงของแอน (คนขับ) ลงจากรถเพียงคนเดียว หลังจากนั้นปรากฏว่าผู้ตาย ซึ่งเป็นแฟนของแอนได้วิ่งลงมาจากบ้าน โดยมีการขว้างขวดลงมาก่อนพร้อมถือมีดลงมาด้วย

จังหวะนี้พ่อเลี้ยงของแอนได้วิ่งหลบไปที่อีกฝั่งของรถ ก่อนที่ผู้ตายจะปรี่เอามีดเข้าไปเเทงกระจกรถข้างซ้าย ฝั่งที่ดาบแป๊ะนั่งอยู่ในรถ ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จนผู้ตายล้มลงกับพื้น หลังจากนั้นจะเห็นพ่อกับแม่ของผู้ตายได้วิ่งออกมาประคองร่างของลูกชาย ซึ่งในคลิปจะได้ยินเสียงดาบแป๊ะ พูดกับพ่อแม่ผู้ตายว่า "มันเอามีดมาแทงผม" จากนั้นแม่ผู้ตายได้ตะโกนขอความช่วยเหลือให้เรียกรถพยาบาล โดยทางดาบแป๊ะเองก็ไม่ได้หลบหนียืนรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ



จากนั้นทีมข่าวได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเพิ่มเติม จึงได้พบว่า มีกล้องที่สามารถบันทึกเสียงช่วงที่เกิดเหตุไว้ได้ โดยคลิปแรกในช่วงต้นคลิปจะได้ยินเสียงปืน และจะเห็นชายที่อยู่ในคลิปบริเวณใบหน้าจะเห็นแสงไฟจากระบบปืน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร เป็นช่วงที่ดาบแป๊ะยิงนายฐิติวัฒน์

โดยหลังจากนั้นจะได้ยินเสียงของแม่ของนายฐิติวัฒน์ กรีดร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากว่าเห็นชายถูกยิงล้มลงต่อหน้าต่อตา ส่วนในคลิปที่ 2 จะได้ยินเสียงของแม่ของนายฐิติวัฒน์ กรีดร้องขอความช่วยเหลือ ให้ชาวบ้านช่วยเรียกรถกู้ภัยและต่อว่าดาบแป๊ะ ซึ่งเป็นผู้ลงมือยิงลูกชายจนเสียชีวิต

จากนั้นคลิปที่ 3 จะเห็นแสงไฟของรถกู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุ และจะเห็นชาวบ้านเริ่มเดินเข้ามาดูบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงที่ทีมกู้ภัยอยู่ระหว่างทำการยื้อชีวิตของนายฐิติวัฒน์ จากคมกระสุนของดาบแป๊ะ



จากนั้นทีมข่าวจึงได้รับรายงานว่า วันที่ 25 มกราคม ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้ควบคุมตัว ด.ต.เกียรติพงษ์ หรือดาบแป๊ะ ผบ.หมู่สืบสวน สน.สุทธิสาร ผู้ต้องหาใช้อาวุธยิงผู้อื่นถึงแก่ความตาย มาขออำนาจศาลฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม - 5 กุมภาพันธ์ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยดาบแป๊ะ ยอมรับว่า ยิงผู้ตายจริงแต่เป็นเหตุสุดวิสัย เพราะตนตกใจเป็นการป้องกันตัว

ขณะที่แม่ของหมอก ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อติดต่อขอเอกสารรับร่างลูกชายที่โรงพยาบาลรามาธิบดี หลังถูกดาบแป๊ะยิงเสียชีวิตท่บริเวณหน้าบ้าน



โดยทีมข่าวได้สอบถามเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ แม่ของหมอก เปิดเผยว่า นางสาวแอนมาอาศัยอยู่กับลูกชาย ซึ่งไป ๆ มา ๆ ได้ประมาณ 1 ปี ซึ่งตนไม่ได้สอบถามถึงที่มาที่ไปหรือเรื่องทางครอบครัวของนางสาวแอนแต่อย่างใด และไม่ทราบความสัมพันธ์ระหว่างแอนกับพ่อเลี้ยงเป็นอย่างไร เพราะส่วนตัวแอนกับลูกชายก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังถึงเรื่องนี้ด้วย

ส่วนกรณีลูกชายของแม่นั้นติดยาเสพติดหรือไม่ ยอมรับว่า ลูกชายเคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ในวันเกิดเหตุนั้นจะเป็นอาการเมายา หรือควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ก็ต้องขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนสอบสวน หาพยานหลักฐานมาชี้แจงอีกครั้ง



ด้านนายนิ้ว (นามสมมุติ) พ่อเลี้ยงของนางสาวแอน เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.ห้วยขวาง เผยว่า เมื่อวานนี้ตนโทรศัพท์นัดแนะกับลูกเลี้ยงคือ นางสาวแอน ว่าจะเข้าไปเอาโทรศัพท์ที่ยืมไปใช้ เพราะมีข้อมูลเรื่องงานอยู่ในโทรศัพท์ ซึ่งได้เดินทางไปกับดาบแป๊ะ รุ่นพี่ที่ตนช่วยทำงาน ซึ่งทันทีที่ไปถึงเจอแม่ของผู้ตายยืนล้างจานอยู่หน้าบ้าน จึงได้ถามถึงนางสาวแอน ลูกเลี้ยง และแม่ผู้ตายก็ไปตามแต่ระหว่างนั้นผู้ตายได้ขว้างขวดเครื่องดื่มใส่รถ และวิ่งลงใส่มาที่รถตนซึ่งเป็นจังหวะที่ก้าวขึ้นรถฝั่งคนขับ ก่อนที่ผู้ตายจะวิ่งไปทางดาบแป๊ะแล้วทุบรถใช้มีดพยายามจะแทงตัวดาบแป๊ะเพราะกระจกเปิดค้างอยู่

ขณะนั้นดาบแป๊ะก็ถามว่าทำอะไร แต่ผู้ตายไม่พูดและพยายามจะแทงถึงหน้าดาบแป๊ะ ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืน 1 นัด จากนั้นตนจึงลงมาจากรถและโทรศัพท์ตามรถพยาบาล ยืนยันว่าตนกับดาบแป๊ะไม่รู้จักกับผู้ตายมาก่อน และไม่เคยมีปัญหาอะไรมาก่อนเลย แค่ต้องการเอาโทรศัพท์คืนจากลูกสาวเท่านั้น ตนรู้สึกเสียใจที่ทำให้ดาบแป๊ะต้องได้รับความเดือดร้อน เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็ว ถ้าเป็นตนก็ต้องตัดสินใจยิงเพื่อป้องกันตัว

และขอยืนยันว่า ตนเป็นเพียงพ่อเลี้ยงไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับลูกเลี้ยงที่จะมีเรื่องหึงหวงแต่อย่างใด ลูกเลี้ยงจะคบหาผู้ตาย ตนเองไม่ได้ติดใจอะไรเลย แต่ส่วนตัวมองว่าผู้ตายมีการคลุ้มคลั่งเคยตบตีลูกเลี้ยงมาแล้วก่อนหน้านี้ เท่าที่ลูกเลี้ยงเคยเล่าให้ฟัง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องยาเสพติดหรือไม่

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังห้องสืบสวน สน.สุทธิสาร และได้ไปการสอบถามเพื่อนร่วมงานของ ด.ต.เกียรติพงษ์ หรือ ดาบแป๊ะ ทราบว่าก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งกองกำกับการ 5 ที่ดูแลงานด้านปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา และหลังจากยุบหน่วยนี้ ดาบแป๊ะ ได้ย้ายดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่งานสืบสวน สน.สุทธิสาร และปัจจุบันไปช่วยชุดปราบปรามยาเสพติด ของ บก.น.2 และมีเครือข่ายและสายลับจำนวนมาก ปกติจะทำแต่งาน โดยบุคลิกส่วนตัวเป็นคนเฮฮา เข้ากับคนง่าย และเป็นคนพูดจาเสียงดังแต่ไม่เคยทะเลาะกับใคร มีนิสัยใจเย็น ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจที่เคยร่วมงานด้วยกัน ยังรู้สึกแปลกใจว่าทำไมดาบแป๊ะหรือเพื่อน ๆ เรียกฉายา แป๊ะยิ้ม เพราะเป็นคนที่ยิ้มง่าย ถึงได้ลงมือลั่นไกก่อเหตุยิงในครั้งนี้



ต่อมาเวลา 18.15 น. พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจฝ่ายสืบสวน ป้องกันและปราบปราม งานจราจรของ สน.สุทธิสารเดินทางมาร่วมสวดพระอภิธรรมศพเป็นคืนแรก ซึ่งหลังจากที่ พ.ต.อ.พรเทพ เดินทางมาถึงศาลาแห่งนี้ก็ได้มีการพูดคุยกับนางทองใบ และ นายอนุเดช ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตว่า ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพจนถึงวันฌาปนกิจ ทาง สน.สุทธิสาร จะเป็นผู้รับผิดชอบเป็นเจ้าภาพทั้งหมด ในส่วนของคดีความทางคุณแม่ก็ไม่ต้องมีความกังวล เพราะต่อให้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา หลังจากที่ฌาปนกิจศพเสร็จสิ้นแล้วจะคุยกับคุณแม่อีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องเงินเยียวยา

โดยในวันนี้ทางผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร ได้มอบเงินเพื่อร่วมทำบุญ โดยทางญาติจะมีพิธีสวดพระอภิธรรม 3 คืนและจากฌาปนกิจในวันอาทิตย์ ที่ 28 มกราคม

ต่อมามีรายงานว่า ญาติของดาบแป๊ะได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 3 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราว ด.ต.เกียรติพงษ์ ระหว่างฝากขัง ซึ่งศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว



ด้านนางทองใบ และนายอนุเดช บอกว่า “ได้บอกกล่าวดวงวิญญาณลูกชายให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีและกลับมาเกิดเป็นลูกอีกในชาติหน้า และจนถึงตอนนี้ตนเองยังไม่ได้เจอตัวนางสาวแอน แฟนของลูกชายเลย เพราะหลังเกิดเหตุนางสาวแอนและนางสาวมิ้น ที่เป็นเพื่อนก็ออกจากบ้านไปพร้อมกับคนที่บอกว่าเป็นพ่อเลี้ยง ตนเองพยายามถามแล้วแต่ไม่รู้สึกว่านางสาวแอนจะรู้สึกผิดอะไรเลย

ส่วนตัวมองว่าเป็นไปได้อยากให้นางสาวแอนมาร่วมงานของลูกชาย มาส่งลูกชายเพราะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะอยากให้นึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ ที่ลูกชายตนเองอยู่ดูแลช่วยเหลือเวลาลำบาก ลูกชายตนเองก็จะไม่เคยทิ้งไปไหน วันนี้งานศพลูกชายก็อยากให้มาร่วมงานและออกมาพูดเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน

ส่วนเรื่องกระแสข่าวว่ามีตำรวจมาเจรจาขอเคลียร์คดีนั้น ยืนยันว่าไม่มีใครติดต่อเข้ามาขอเคลียร์อะไรเลย มีแต่ตำรวจเข้ามาบอกจะช่วยจัดการเรื่องงานศพ