จากกรณีเมื่อเวลา 04.30 น. มีผู้พบร่างผู้เสียชีวิตในคอนโดแห่งหนึ่ง ภายในซอยประชาอุทิศ 24 ภายในห้องพบร่าง นางสาวธมลวรรณ เฉลิมชัยศรี หรือเจี๊ยบ อายุ 23 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน สภาพเปลือย ไม่ใส่เสื้อผ้า ส่วนที่มือซ้ายพบปืนแม็กกาซีน วางไว้ในมือ สภาพบาดแผล พบรอยถูกยิงบริเวณเหนือกกหูด้านซ้าย โดยเพื่อนผู้เสียชีวิตแจ้งให้ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ

เพื่อนผู้เสียชีวิตได้ให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ภายในคอนโดแห่งนี้กับแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบหาได้ประมาณสองปี ก่อนเกิดเหตุนั้น ตามปกติ ผู้เสียชีวิตจะออนไลน์ในโซเชียลมีเดียอยู่ตลอดเวลา แต่เพื่อนๆ ได้ผิดสังเกตเนื่องจากผู้เสียชีวิตได้ออฟไลน์ไปประมาณ 24 ชั่วโมง เพื่อนของผู้เสียชีวิตจึงเดินทางมาหาที่ห้อง และได้ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไป ก็พบเห็นสภาพกล่องพัสดุภายในห้องกระจัดกระจาย และพบร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตกับแฟนหนุ่มก็ได้มีปัญหาทะเลาตบตีกันบ่อย แต่ฝ่ายผู้ตายไม่สามารถเลิกได้เพราะฝ่ายชายไม่ยอม โดยฝ่ายชายเข้าไปพัวพันกับธุรกิจสีเทา ซึ่งเมื่อปีที่แล้วฝ่ายชายก็เคยก่อเหตุรุมทำร้ายดีเจชายคนหนึ่งที่ถูกว่าจ้างไปเล่นที่บ่อนในประเทศเพื่อนบ้าน

ต่อมาเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง และ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้เดินทางไปยังคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านสนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อควบคุมตัวนายติณห์ อายุ 40 ปี แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงห้องพักได้เคาะเรียกให้เปิดห้อง แต่ไม่มีผู้ตอบรับจึงทำการพังประตูเข้าไป พบว่า นายติณห์ ได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองชีวิตบนที่นอนไปแล้ว

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่ 20 มกราคม 2567 เวลา 17.46 น. จะเห็น น.ส.ธมลวรรณ ดีเจสาวที่เสียชีวิต และนายติณห์ เข้าห้องครั้งสุดท้าย ที่คอนโดนย่านห้วยขวาง กทม.

ต่อมา วันที่ 21 ม.ค.67 เวลา 06.37 น. จะเห็นว่า นายติณห์ เดินถือกระเป๋าออกจากห้อง น.ส.ธมลวรรณไป

ภาพต่อมาเป็นภาพที่เจ้าตัวไปขึ้นรถที่ลานจอดรถ ก่อนเกิดเหตุยิงตัวเองเสียชีวิต

ต่อมา ทีมข่าวได้วงจรปิด เพื่อนผู้เสียชีวิตมาหา หลังติดต่อผู้เสียชีวิตไม่ได้เกิน 24 ชั่วโมง เวลา 03.57 น. วันที่ 21 มกราคม 2567 ก่อนจะ ออกไป เวลา 04.35 น.

ก่อนจะกลับมาพบศพอีกครั้ง 04.40 วันที่ 22 มกราคม 2567

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เกิด พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด สอบสวนพยาน แต่มีภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า แฟนผู้ก่อเหตุออกจากห้องพักในเวลา 06.00 น. วันที่ 21 มกราคม จากนั้นจึงให้ฝ่ายสืบสวนหาข้อมูลจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีที่พักอาศัยอยู่ที่คอนโดย่านนนบุรี จึงได้นำกำลังเข้าติดตามตัว เมื่อถึงห้องพักเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้าห้องพักเรียกอยู่ประมาณ 3 ครั้งแต่ก็ไม่มีการเปิด

จากนั้นจึงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด จึงได้ประสานขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เมื่อเข้าไปในห้องก็พบว่านายติณห์นอนหายใจรวยริน มีปืนขนาด.38 ตกอยู่ข้างตัว เจ้าหน้าที่จึงได้ปฐมพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนเหตุจูงใจ คาดว่า น่าจะเกิดจากปัญหาส่วนตัว เรื่องหึงหวง และอีกหลายๆ เรื่อง ทำให้ตัดสินใจก่อเหตุ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นคราบเขม่าดินปืนที่ร่างของผู้ตาย และมีปืนขนาด 9 มม.อยู่ที่มือซ้าย แต่เชื่อมั่นว่าผู้ก่อเหตุคือนายติณห์ เป็นการทำให้เห็นว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบเพื่อให้สิ้นข้อสงสัย

ต่อมาทีมข่าวได้คุยกับคุณรัก เพื่อนของนายติณห์ได้บอกทีมข่าวว่า ตนรู้จักติณห์มา 4 ปี แล้ว เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ไม่ได้ติดต่อกันมา 3-4 เดือนแล้ว รถเบนซ์ที่เห็นในกล้องวงจรปิดที่ติณห์ใช้คือรถที่ตนเอามาให้ใช้ เป็นรถที่จำนำมา และเพิ่งทราบเรื่องที่เกิดขึ้น

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้เปิดเผยว่า สำหรับกรณีนี้นั้น เกิดเหตุที่ห้องพักย่านห้วยขวาง พร้อมอาวุธปืนอยู่ในมือ

และต้องบอกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ ต้องตำหนิฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง เนื่องจากนายติณห์ หรือเสี่ยชัช เจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ ผู้ก่อเหตุ เป็นผู้มีคดีติดตัว และเคยมีผู้เสียหายเข้าร้องที่เพจก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 เดือนก่อน คือ กรณีดีเจบอย โดนลวงรุมกระทืบที่กัมพูชาและคดีอยู่ที่ สน. ห้วยขวาง

จากนั้นพนักงานสอบสวน สน. ห้วยขวาง ก็ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อขออนุมัติในการสอบสวน ซึ่งอัยการสูงสุดก็มีการอนุมัติให้ สน.ห้วยขวาง ดำเนินการสอบสวนแล้ว แต่ไม่เข้าไปพบ จนต้องขอออกหมายจับ จนถึงวันนี้ก็ตามจับไม่ได้

จนกระทั่ง เกิดเหตุเมื่อคืนกับดีเจสาว และเมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด และเพื่อนของผู้ตายได้ให้รายละเอียดว่า แฟนของน้องมีการเดินเข้าห้องและออกจากห้องหลังจากที่เกิดเหตุ เพราะฉะนั้น ความเป็นไปได้ว่าจะการฆ่าตัวตายนั้นยากมาก

ซึ่งจากรายละเอียดเบื้องต้น อาจจะมีการทะเลาะกันด้วยคดีก่อนหน้านี้ ที่เสี่ยชัชหนีอยู่หรือไม่ อยากให้เข้ามามอบตัวกับตำรวจไหม เพราะทางด้านดีเจบอกก็มีติดต่อผู้ตายให้เสี่ยชัชเข้ามอบตัวหรือไม่ แต่จากข้อมูลเชื่อได้ว่าเป็นการจัดฉากอย่างแน่นอน ต่อมาได้ทราบว่า ทางด้านเสี่ยชัชผู้ก่อเหตุ ได้มีการยิงตัวตายที่ห้องพักแถวนนทบุรี และได้เสียชีวิตเช่นกัน

ซึ่งวันนี้ ญาติของดีเจสาวมองว่า ถ้ามีการดำเนินคดีตั้งแต่ครั้งก่อนก็จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ครอบครัวมีเขาเป็นเสาหลัก มาทำกับลูกสาวเขาแบบนี้ได้อย่างไร อยากให้ทางตำรวจจัดการและอย่าปล่อยให้คดีลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย จริงๆ ถ้าจะบอกว่า ตามหาเสี่ยชัชไม่เจอ ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ หรือเพราะผู้ก่อเหตุมีเงิน ตำรวจถึงจับไม่ได้ จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

แชตของการพูดคุย ระหว่างผู้ตายกับเพื่อนก่อนเกิดเหตุ

และช่วงบ่ายของวันนี้ ทางเพจสายไหมต้องรอด และครอบครัวได้มีการเข้าไปที่ห้องเกิดเหตุ เพื่อทำการเชิญวิญญาณเพื่อนำร่างไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดบ้านเกิด

นางสาวอิสรีย์ อายุ 25 ปี และนางสาวสโรชา อายุ 25 ปี เพื่อนสนิทและเป็นคนที่เปิดเข้าไปพบร่างเพื่อน บอกว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ภายในคอนโดนี้กับเสี่ยชัช แฟนหนุ่ม ประมาณ 2 ปี ซึ่งในวันก่อนเกิดเหตุตนยังมีการพูดคุยกับโทรคุยกันปกติ เพราะกลุ่มเพื่อนไปคอนเสิร์ตกัน แต่ครั้งนี้เพื่อนตนไม่ได้ไปด้วย เพราะแฟนไม่ให้ไป และเมื่อเที่ยวกันเสร็จก็เดินทางกลับมานอนที่ห้องข้างๆ ในคืนวันเสาร์ที่ 20 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. และก็นอนจนถึง 04.00 น. และก็นำคีย์การ์ดไปเปิดห้องเพื่อน เพราะเห็นเพื่อนไม่ตอบข้อความครบ 24 ชั่วโมง ก็เกิดความสงสัย เปิดประตูเข้าไปก็พบเห็นสภาพกล่องวัสดุภายในภายในห้องกระจัดกระจายและพบร่างผู้เสียชีวิต นอนเสียชีวิตอยู่

ซึ่งที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตกับแฟนหนุ่มก็ได้มีปัญหาทะเลาตบตีกันบ่อย แต่ฝ่ายผู้ตายไม่สามารถเลิกได้ เพราะฝ่ายชายไม่ยอมเลิก โดยปกติ แฟนหนุ่ม จะโอนเงินให้ทุกเดือนๆ ละ 1 แสน แต่ล่าสุด ผู้ชายมีการโอนเงินให้ 1 ล้านบาทให้เป็นของขวัญวันเกิด

แต่หลังๆ มาทางฝั่งผู้ชายติดการพนันและเสียเยอะ ก็ยิ่งทำให้ทะเลาะกันบ่อยขึ้น ซึ่งเท่าที่พวกตนทราบผู้ชายเคยทำธุรกิจเว็บพนันและเลิกไปแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นชนวนเหตุในการฆ่าครั้งนี้ เพราะทางผู้ก่อเหตุมักทะเลาะกับเพื่อนตนว่าจะเอาเงิน 1 ล้านบาทคืน แต่เพื่อนตนไม่ให้ และหลังเกิดเหตุ ได้ทราบว่า มีการเอาเงินสดในห้องออกไป 5 แสน และโอนออกผ่านทางแอปอีก 5 แสน เข้าบัญชีผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งยังมีการให้การของภรรยาและลูกของผู้ก่อเหตุว่า ก่อนที่จะยิงตนเอง มีการให้เข้าไปเอาเงินจำนวน 1 ล้านบาทก่อนยิงตัวเองดับ