เรียกผู้ปกครองแก๊งลูกตำรวจ ปมฆ่าบัวผัน

วันนี้ (18 ม.ค.) ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ตำรวจได้เชิญผู้ปกครองของเยาวชนทั้ง 5 คน มาสอบปากคำเพิ่มเติมถึงพฤติกรรมของเยาวชน ที่ก่อเหตุทำร้ายป้าบัวผัน หรือป้ากบ จนเสียชีวิต พร้อมเตรียมพิจารณาบทลงโทษตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก โดยได้เชิญพัฒนาสังคมจังหวัดสระแก้ว และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เข้าร่วมสอบด้วย เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการการสอบคำให้การครอบครัวเยาวชน

โดยผู้ปกครองเด็ก ที่เข้าพบตำรวจในวันนี้ ได้เดินทางมา 4 คน ประกอบด้วย แม่ของนายเชน, ผู้ปกครองของโก๊ะ บิ๊ก และแบงค์ ส่วนผู้ปกครองของกัส ขอเลื่อนเข้าพบ โดยคาดว่าจะมาในช่วงบ่าย

ด้าน อาของนายโก๊ะ ในฐานะ ผู้ปกครอง ที่ก่อเหตุทำลายป้ากบเสียชีวิต เผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพฤติกรรมของหลานชายตัวเอง ส่วนทางครอบครัวได้พยายามดูแลพฤติกรรมของหลานชายมาโดยตลอด โดยมีตาและยายเป็นคนคอยดูแล ส่วนพ่อกับแม่แท้ๆ ได้เลิกรากันไป และแยกย้ายไปทำงาน

ที่ผ่านมาโก๊ะมีพฤติกรรมเกเร ไม่ยอมไปเรียนหนังสือ ซึ่งในช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นช่วงเวลาที่กำลังจะหาที่เรียนใหม่ แต่กลับมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ยอมรับว่า ตนเองและครอบครัวได้รับผลกระทบจากสิ่งที่หลานชายทำลงไป ทั้งเรื่องของถูกสังคมประณาม และต้องหยุดกิจการทางครอบครัว เพื่อมาช่วยเหลือติดตามทางด้านคดี

แชตโก๊ะ ทักหาเพื่อนหลังฆ่าบัวผัน

ทีมข่าวช่อง8 ได้พูดคุยกับ น.ส.แหม่ม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เพื่อนสาวของนายโก๊ะ ที่เป็นคนทักหาโก๊ะหลังเกิดเหตุป้าบัวผัน บอกกับทีมข่าวว่า ก่อนหน้านี้โก๊ะมีนิสัยดี ไม่เกเรและไม่ด่าคนอื่น และชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่มีเพื่อนเยอะไม่ก้าวร้าวโดยหลังเกิดเหตุป้าบัวผันตาย ตนได้เห็นข่าวว่าโก๊ะเป็น 1 ในผู้ต้องหา ตนจึงได้ทักไปถามโก๊ะว่าไปทำอะไรมา โก๊ะบอกกับตนว่าไปฆ่าคนมา ส่วนตัวรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่โก๊ะทำ ไม่คิดว่าโก๊ะจะฆ่าคนอื่น ตนไม่อยากจะฝากอะไรถึงโก๊ะ

 
ก๊วนทรชนน้ำตาตก ถูกขังในสถานพินิจ

เมื่อเวลา 15:00 น. ที่ผ่านมา ภายหลังตำรวจได้มีการเชิญผู้ปกครองของเด็ก 5 คน มาสอบสวนเพิ่มเติม เพราะผู้ปกครองอาจมีความผิดตามบทลงโทษตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก โดยผู้ปกครองได้เริ่มทยอยออกจากห้องประชุม โดยใช้บันไดหนีไฟด้านหลัง บางส่วนได้รีบขึ้นรถเพื่อหนีผู้สื่อข่าว

ขณะที่นายพงษ์ ตาของนายแบงค์ หนึ่งในผู้ต้องหา เปิดใจกับทีมข่าวว่า วันนี้ตำรวจเชิญมาสอบปากคำ ตนเองก็เดินทางมาในฐานะที่เป็นเจ้าบ้าน เพราะตัวของนายแบงค์หลานชายมาอาศัยอยู่ด้วย แต่คนที่เลี้ยงดูคือยาย ซึ่งตนเองก็แค่เป็นเจ้าของบ้านจึงมาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ได้เครียดหรือกดดันอะไร และเข้าใจว่าตำรวจกำลังจะเอาผิดตามบทลงโทษตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก สำหรับในกลุ่มผู้ปกครอง แต่ตนเองยืนยันว่าไม่ใช่ผู้ปกครองเป็นเพียงแค่เจ้าของบ้านจึงไม่กังวลใจอะไร

และเมื่อวานนี้ได้มีโอกาสไปเยี่ยมหลาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยโอกาสให้นั่งพูดคุยกัน แต่หลานชายคุยเพียงแค่ไม่กี่คำ แล้วมีอาการร้องไห้ พร้อมกับกอดตนเองและพูดคำว่า “ขอโทษ” โดยส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าหลานจะสำนึกผิดหรือไม่อย่างไร แต่เห็นอาการเมื่อวานนี้แล้วก็เข้าใจว่าก็คงจะรู้สึกบ้าง