ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกล้องวงจรปิดจับภาพแก๊งชายฉกรรจ์จำนวน 8 ราย สวมโม่งปิดบังใบหน้าได้ลงจากรถมาแล้วได้นำอุปกรณ์ตัดประตูบ้านข้างหน้าแล้วเดินเข้ามาในบ้าน สำรวจบริเวณหน้าบ้านและบุกเข้าบ้านไปตอนเจ้าของบ้านไม่อยู่ ก่อนเจ้าของบ้านดูวงจรปิดทันแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ซึ่งเหตุกาณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านค่ายทะยิง หมู่ 6 ต.วังโรงใหญ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านหลังเดิมที่เคยเกิดเหตุกาณ์ตำรวจปลอมเอาปืนเข้ามาบุกบ้านตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น แต่ครั้งนี้โดนซ้ำสองมาเป็นคันรถ 2 คัน จำนวน 10 คน อาศัยตอนจังหวะเจ้าของบ้านไม่อยู่เดินบุกเข้าบ้านและหาทรัพย์สินภายในบ้านครั้งนี้อีกด้วย

 

(กล้อง1) ภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านที่เกิดเหตุ ในช่วงเวลา 12.30น.ของวันที่ 1 ธันวาคม 66 จับภาพรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ขับเข้ามาในซอยบ้านของผู้เสียหาย ในลักษณะช้าๆ ไม่ได้เร่งรีบ ก่อนจะขับผ่านหน้าบ้านผู้เสียหายไป

 

(กล้อง2) ขณะที่กล้องวงจรปิดอีกมุมในช่วงวันและเวลาเดียวกัน จะเห็นรถฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าวขับผ่านหน้าบ้านผู้เสียหายไป ตรงเข้าไปในป่าอ้อย ก่อนจะไม่เห็นรถคันนี้ขับออกมาจากบริเวณป่าอ้อยอีก

 

(กล้อง3) จนกระทั่งในช่วงเวลา 07.15น.ของวันถัดมา (2/12/66) จึงจะเห็นรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาวคันเดิม ขับออกมาจากป่าข้างบ้านผู้เสียหาย ก่อนขับผ่านหน้าบ้านผู้เสียหายไปอย่างช้าๆ ลักษณะคล้ายกับมาดูลาดเลา ก่อนลงมือ

 

(กล้อง4) จากนั้นกล้องหน้าบ้านตัวเดิม ห่างกันประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า (ช่วงเวลา 09.40น.) จับภาพรถฟอร์จูนเนอร์สีขาว ขับนำหน้า ตามด้วยรถกระบะตู้ทึบ อีซูซุ สีน้ำเงิน ขับตามหลังรถฟอร์จูนเนอร์มาจอดที่บริเวณข้างบ้านของผู้เสียหาย ก่อนที่รถกระบะตู้ทึบจะถอยมาจอดที่บริเวณหน้าบ้านของผู้เสียหาย จากนั้นไม่นานจะเห็นกลุ่มคนร้ายสวมใส่เสื้อผ้ามิดชิด ปิดบังใบหน้าทยอยออกมาจากด้านหลังกระบะตู้ทึบ ส่วนรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวถอยเข้าไปจอดแอบอยู่ด้านในสุด

 

(กล้อง5) ขณะที่ในช่วงเวลา 09.43 น. กล้องวงจรปิดอีกมุมจะเห็นภาพ กลุ่มคนร้ายที่ลงมาจากท้ายรถกระบะตู้ทึบและเดินตรงไปหน้าบ้านของผู้เสียหาย เพื่อลงมืองัดประตูบ้านเข้าไปก่อเหตุ ส่วนรถฟอร์จูนเนอร์จอดอยู่ที่ข้างบ้าน เมื่อเห็นกลุ่มคนร้ายกำลังก่อเหตุได้ขับรถออกจากบ้านผู้เสียหายมุ่งหน้าไปที่ป่าอ้อยเช่นเดิม

 

(กล้อง6) ส่วนกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในบ้านของผู้เสียหายสามารถจับภาพคนร้ายเป็นชายหนึ่งคนสวมชุดสีดำ ปิดบังใบหน้า ปีนรั้วบ้านเข้ามาพร้อมกับอุปกรณ์ตัดเหล็ก เพื่อตัดกุญแจบ้าน แต่ไม่สำเร็จ ก่อนที่จะมีคนร้ายอีกคนเข้ามาช่วยกันงัดประตู แต่ก็ยังไม่เป็นผล

 

(กล้อง7) หลังจากที่คนร้ายไม่สามารถงัดประตูบ้านเข้าไปในตัวบ้านได้คนร้ายจึงได้พากันเดินดูลาดเลาที่บริเวณรอบบ้าน ก่อนที่ 1 ในคนร้ายจะเห็นกล้องวงจรปิดและได้ใช้ไม้เขี่ยกล้องวงจรปิดให้ดันขึ้นไปข้างบน เพื่อไม่ให้จับภาพพฤติกรรมของคนร้ายได้แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จกล้องยังคงจับภาพพฤติกรรมของคนร้ายได้ทั้งหมด

 

ซึ่งในระหว่างที่คนร้ายได้เข้ามาก่อเหตุเป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่เจ้าของบ้านได้ดูกล้องวงจรปิดผ่านโทรศัพท์มือถือจึงได้เห็นพฤติกรรมของคนร้ายทั้งหมดและได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สกัดจับกุมจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด

 

โดยก่อนหน้านี้ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เคยเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว ดยกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 รายอ้างตนว่าเป็นตำรวจเข้ามาแสดงหมายค้นโดยอ้างว่าเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวทำผิดกฏหมายเรื่องฟอกเงินก่อนใช้ปืนข่มขู่และจึ้คนเข้าในบ้าน หลังจากนั้นได้มีการรื้อค้นและได้ทรัพย์สินเป็นเซิฟเวอร์กล้องวงจรปิดและโทรศัพท์มือถือ กุญแจรถมอเตอร์ไซด์ 1 ดอก ก่อนเจ้าของบ้านไหวตัวโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่มาตรวจสอบจนกระทั่งกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 ราย ได้เดินหลบหนีและเดินเข้าไปในป่าหลังบ้าน

 

ขณะเดียวกันในเวลาต่อมา เราได้ภาพกล้องวงจรปิดและคลิปวิดีโอ ที่บันทึกภาพขณะที่ตำรวจสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ที่ถนนสีคิ้ว ก่อนถึงตลาดสีคิ้ว

 

เมื่อเวลาประมาณ 10.37 น. กล้องวงจรปิดถนนขาเข้าสีคิ้ว จับภาพรถตำรวจสายตรวจเข้าไปสกัดจับรถกระบะตู้ทึบคันก่อเหตุ

 

ขณะเดียวกันชาวบ้านก็ได้ถ่ายคลิปขณะที่ตำรวจเข้าจับกุมคนขับรถกระบะตู้ทึบที่บริเวณถนนขาเข้าสีคิ้วหลังจากเกิดเหตุ

 

สำหรับความคืบหน้าทางคดีเบื้องต้นหลังเกิดเหตุตำรวจสามารถสกัดจับผู้ก่อเหตุได้แล้วทั้งหมด 3 คน คือ

 

1.นายชุมพล หรือ พล อายุ 49 ปี ชาว จ.เพชรบุรี

2.นายศุภชัย  หรือ ชาย อายุ 52 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี

3.นายอำนวย หรือ นวย อายุ 58 ปี ชาว จ.นครราชสีมา

 

จากการสอบถามทางตำรวจเปิดเผยว่าเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าลงมือก่อเหตุจริง แต่อ้างว่ามีผู้ว่าจ้างให้ไปขนของจากบ้านหลังดังกล่าวเท่านั้น พร้อมกับปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนไร้ชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คนที่ปลอมเป็นตำรวจเคยบุกเข้าไปก่อเหตุที่บ้านหลังดังกล่าว เมื่อไม่นานมานี้ โดยขณะนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และคาดว่าน่าจะมีการนำตัวผู้ก่อเหตุไปขออำนาจศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้

 

ขณะเดียวกันได้มีการแจ้งข้อหา “ ร่วมกันบุกรุกเคหะสถาน , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ , พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ , และเป็นผู้ขับขี่ (รถยนต์) เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่หนึ่ง โดยผิดกฎหมาย

 

นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่าคนขับรถกระบะตู้ทึบคันดังกล่าวคือนายอำนวย ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบเคยมีถูกจับในคดีครอบครองยาเสพติดเมื่อปี 2555

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่มาที่บ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง อยู่ที่ ต.วังโรงใหญ่ อ.สีคิ้ว  และได้พูดคุยกับ นายเต่า นามสมมุติ อายุ 37 ปี พี่เขยเจ้าของบ้าน เล่าว่า หลังจากเกิดเหตุเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ที่คนร้าย อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาในบ้าน ใช้ปืนข่มขู่และจี้คนเข้าในบ้าน หลังจากนั้นได้มีการรื้อค้นและได้ทรัพย์สินเป็นเซิฟเวอร์กล้องวงจรปิดและโทรศัพท์มือถือ กุญแจรถมอเตอร์ไซค์ 1 ดอก แต่ไม่ได้เอารถจักรยานยนต์ไป

 

จากนั้นครอบครัวก็ไม่มีใครอยู่ที่บ้านหลังนี้อีก เพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย จึงทำให้บ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่เฝ้า แต่ก็ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มและใช้อุปกรณ์ป้องกันบ้านอีกอย่างดี เพราะกลัวว่ากลุ่มคนร้ายจะย้อนกลับมาก่อเหตุอีก

 

แต่สุดท้ายกลุ่มคนร้ายก็ย้อนกลับมาก่อเหตุอีกครั้งจนได้  แต่โชคดีที่ตนเองและเจ้าของบ้านสังเกตุเห็นว่าก่อนหน้า 1 วันที่คนร้ายจะมาลงมือก่อเหตุ เห็นรถต้องสงสัยขับผ่านมาที่บ้าน ในลักษณะมาดูลาดเลา จึงได้เปิดดูกล้องตลอดเวลา จนสามารถแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกลุ่มคนร้ายได้ โดยในการก่อเหตุในครั้งนี้คนร้ายยังไม่ได้อะไรไป เพราะไม่สามารถงัดประตูเข้าไปในบ้านได้

 

นอกจากนี้ตนเองเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นกลุ่มเดียวกันกับคนร้ายที่มาก่อเหตุเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน เพราะดูจากพฤติการณ์ของคนร้ายในวันดังกล่าวที่มาดูลาดเลาก่อนลงมือ นอกจากนี้วันดังกล่าวคนร้ายยังสามารถเข้าไปในบ้านและรื้อค้นดูทรัพย์สินได้ แต่คนร้ายได้ทรัพย์สินไปแค่ไม่กี่อย่าง ซึ่งในระหว่างนั้นอาจจะทำให้คนร้ายเห็นทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แต่ก็ไม่สามารถเอาไปได้ เพราะคนร้ายมาเพียงแค่ไม่กี่คน ครั้งนี้จึงย้อนกลับมาก่อเหตุ เพื่อที่จะมาเอาทรัพย์สินที่คนร้ายเล็งไว้ตั้งแต่ก่อเหตุครั้งแรก ซึ่งคาดว่าจะเป็นตู้เซฟอยู่ในบ้าน

 

ขณะที่ทางด้านนางนกแก้ว นามสมมุติ ป้าผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ ประมาณ 09.30น. ขณะที่ตนเองกำลังนั่งทานข้าวเช้าอยู่ นางสาวจารุวรรณ หลานสาวก็ได้โทรศัพท์มาบอกว่า “มันมาอีกแล้ว เต็มหน้าบ้านเลย ” ให้ตนเองออกไปดูให้หน่อย เพราะว่าหลานสาวอยู่ที่ฟาร์ม จากนั้นตนเองก็ได้เดินออกไปแอบดูที่ครัวหลังบ้านและได้ชะเง้อดู เห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นชายฉกรรจ์ ประมาณเกือบ 10 คน สวมใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาว ปิดหน้าปิดตามิดชิดทุกคน  ยืนอยู่หน้าบ้านของหลานสาว  ก่อนจะเห็นกลุ่มคนร้ายเข้าไปในบ้านและเดินสำรวจรอบบ้านของหลานสาว ก่อนที่ตนเองจะหลบเข้ามาในบ้านเพราะกลัวว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะเห็นตนเอง  ขณะเดียวกันช่วงที่คนร้ายขับรถเข้ามาที่บ้านของหลานสาวตนเองไม่เห็น จนกระทั่งไม่นานเห็นรถกระบะตู้ทึบขับออกมาจากบ้านของหลานสาวและก็เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางอำเภอสีคิ้ว ก่อนจะมาทราบทีหลังว่าถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับกุมตัวได้

 

หลังจากที่เกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปใช้ปืนจี้ และข่มขู่คนในบ้านก่อนจะไปขโมยเอาทรัพย์สินภายในบ้าน หลานสาวก็ได้พูดกับตนเอง ว่าอีกไม่นานคนร้ายก็จะย้อนกลับมาก่อเหตุอีกครั้งแน่นอน ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าคนร้ายจะกล้ากลับมาก่อเหตุ จนกระทั่งคนร้ายย้อนกลับมาก่อเหตุอีกครั้งจริงๆ และตนเองเชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน

แก๊งไอ้โม่งปีนบ้านอ้างถูกจ้างเก็บของ ผวารอบ 2 คาดเป็นก๊วนตำรวจเก๊