เจ้าสาวสุดทนโวย โต๊ะจีนล่องหน เมนูรับแขกต้องเปลี่ยนเป็นหมูกระทะ

จากกรณีโลกโซเชียลและมีการแชร์กันออกไปเป็นอย่างมาก ของการระบายความรู้สึกของเจ้าสาว คนหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากในวันงานแต่งงานของเธอนั้น โต๊ะจีนที่จ้างไว้ กับเบี้ยวงานอ้างสารพัด จนทำให้เธอและญาติ ต้องเปลี่ยนเมนูมาเป็นหมูกระทะ เพื่อต้อนรับแขกภายในงาน การระบายความรู้สึกในครั้งนี้เป็น การระบายของเจ้าสาวที่โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว

วันนี้ 30 พ.ย. 66 ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่มายังอำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ เพื่อพูดคุยกับ น.ส.สุกัญญา เจ้าสาวที่เสียหาย เผยว่า ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2566 ตัวเองได้หาผู้จัดโต๊ะจีน ให้มาจัดงานแต่งงานของตัวเอง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 พ.ย.2566

โดยตัวเองติดต่อหาผู้จัดไปกว่า 20 ร้าน แต่ก็ออเดอร์เต็มทั้งหมด ตัวเองจึงตัดสินใจโพสต์หาร้านจัดโต๊ะจีนไปในกลุ่มเฟชบุ๊ก กระทั่งวันที่ 4 ตุลาคม 2566 มีร้านของคู่กรณี ทักข้อความมาหาตัวเองว่าเขาสนใจจัดโต๊ะจีนให้งานแต่งตัวเอง ตัวเองจึงพูดคุยกับเขาในเบื้องต้น พร้อมกับตรวจสอบรูปภาพในเฟชบุ๊กของคู่กรณี ก็เห็นว่ามีรายการอาหารที่พอใจ ตัวเองจึงตอบตกลงกับคู่กรณีดังกล่าว ในราคา 62,000 บาท และตัวเองได้โอนเงินไปมัดจำจำนวน 26,000 บาท ไปให้กับคู่กรณีในวันนั้นเลย

ต่อมาวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ทางคู่กรณี ส่งข้อความมาหาตัวเองอีกครั้ง พร้อมบอกว่าขอค่าซื้ออุปกรณ์ จำนวน 10,000 บาท ตัวเองก็ได้ให้เงินเขาไป

กระทั่งวันที่ 14 ตุลาคม ทางคู่กรณีทักมาขอเงินค่าน้ำมันรถที่จะขับเอาอาหารที่จะจัดในงาน มาให้ตัวเองชิม (ค่าน้ำมันรถ) จำนวน 4,000 บาท ตัวเองก็โอนให้เขาอีก พอตัวเองโอนไป สุดท้ายเขาก็เบี้ยวนัด ไม่เอาอาหารมาให้ตัวเองชิม

ต่อมา 3 พ.ย. ทางคู่กรณี ก็ส่งข้อความมาหาตัวเองเพื่อขอเงินมัดจำเพิ่มอีก 10,000 บาท โดยอ้างว่าเงินส่วนนี้จะเอาไปซื้อของ จากนั้นก็บอกว่า รถยนต์ของเขาที่ใช้ขนของได้ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำลงข้างทาง และคนขับรถของเขาก็อาการสาหัส 50/50 กลัวว่าจะมาไม่ทันงาน ตัวเองตึงบอกไปว่า ตัวเองไม่มีเงินแล้ว เนื่องจากจ่ายมัดจำไปเยอะแล้ว และบอกเขาไปว่า “ถ้าพี่มาไม่ทัน ก็คืนเงินมัดจำทั้งหมดมาให้หนู เดี๋ยวหนูจะไปหาร้านจัดโต๊ะจีนเจ้าอื่น” เขาก็บอกกลับมาว่า “เขาเอามัดจำที่ตัวเองให้ไปก่อนหน้านี้ ไปซื้อของหมดแล้ว” แล้วคู่กรณีก็ยังบอกกับตัวเองอีกว่า “พี่ไม่ทำให้งานหนูเสียหรอก ถ้างานหนูเสียฟ้องพี่ได้เลย 10 เท่า” และบอกว่า “พี่ไม่ยอมเอาเงินหมื่น มาทำให้ร้านพี่เสียชื่อเสียงหรอก”

ตอนนั้นตัวเองเริ่มรู้สึกเอะใจ ว่าจะโดนโกงจึงนำข้อมูลคู่กรณีไปสอบถามในกลุ่มเฟชบุ๊กว่าบุคคลนี้ มีประวัติไม่ดีหรือไม่ แต่ก็ไม่มีใครมาตอบตัวเอง

จากนั้นวันที่ 15 พ.ย. คู่กรณีบอกว่าจะเอาอาหารมาให้ตัวเองชิม แต่ก็ไม่มาและผลัดวันไปเป็นวันที่ 20 พ.ย.

ต่อมาวันที่ 20 พ.ย. เขานัดจะเอาอาหารมาให้ตัวเองชิมที่บ้าน เพราะใกล้วันงานแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ไม่มาอีกโดยอ้างว่าเขาติดงาน แล้วจะมาวันจริงทีเดียว โดยบอกว่าจะมีโต๊ะจีนมาตั้งที่บ้านตัวเองตอน 23.00 น. ของวันที่ 24 พ.ย. 2566 (ก่อนงานแต่งหนึ่งคืน) แต่สุดท้ายโต๊ะจีนก็มาตั้งที่บ้านตัวเองเวลา 04.30 น. ของวันที่ 25 พ.ย. (วันที่แต่งงาน) และก็มีคู่กรณี ขับรถเก๋งสีดำมาที่ร้านตัวเองพร้อมกับตั้งโต๊ะจีน ประมาณ 50 โต๊ะ ตอนนั้นตัวเองก็ชื่นใจขึ้นมานิดหนึ่ง เพราะเห็นว่าคู่กรณีคนที่รับงาน เขามาถึงงานตัวเองแล้ว

แต่ตอนนั้นก็เห็นว่ามีแต่โต๊ะจีนเปล่าๆ ไม่มีอาหารและเครื่องดื่มแต่อย่างใด ซึ่งตัวเองก็มองว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงงานจะเริ่มแล้ว ทำไมอาหาร เครื่องดื่ม ยังมาไม่ถึงเลย เพราะกำหนดงานตัวเองคือ 07.29 น. จากนั้นชายคู่กรณี มาขอเงินกับตัวอองเพิ่มอีก 12,000 บาท โดยบอกว่าเขาสั่งเครื่องดื่มในตัวเมืองชัยภูมิเอาไว้ ตอนนั้นเป็นเวลาที่ตัวเองแต่งหน้าอยู่ในห้องแล้ว จึงให้พี่สาวออกมาพูดคุยกับชายคนดังกล่าว และฝั่งตัวเองก็ยืนยันว่าไม่มีเงินที่จะจ่ายให้เขาแล้วเขาก็บอกว่าครึ่งหนึ่งก็ได้ จนตัวเองได้หาเงินจำนวน 6,000 บาทมาจ่ายให้เขาไป จากนั้นชายคู่กรณีคนดังกล่าว ก็ได้ขับรถออกไปในเวลาประมาณ 05.00 น. โดยอ้างว่าจะไปเอาเครื่องดื่มในตัวเมืองชัยภูมิ

และช่วงเวลา 06.00 น. ก่อนจะเริ่มงาน ระหว่างที่เขาออกไปเอาเครื่องดื่มนั้น เค้าก็บอกกับตัวเองว่า รถขนอาหารของเขา ยางรถคันดังกล่าวแตกระหว่างทาง ในตัวเมืองจังหวัดชัยภูมิ แต่ไม่บอกตัวเองว่าจุดไหน ตัวเองจึงบอกสิธีแก้ไขปัญหาไปว่า ให้เอารถยนต์ตัวเองไป เปลี่ยนถ่ายเอาอาหารมาก่อนไหม เพราะตัวเมืองชัยภูมิก็ห่างจากบ้านหลังที่จัดงานแต่งแค่ 50 กิโลเมตร แต่เขาก็บอกว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปเปลี่ยนยางเอง” แต่ถ้าผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เค้าก็บอกว่ารถยังซ่อมไม่เสร็จ จะให้ทีมโต๊ะจีน เอารถไปเปลี่ยนถ่ายเอาอาหารและเครื่องดื่มมางาน พร้อมบอกว่าคนขับรถโต๊ะจีนขับรถไปจะถึงเขาแล้ว ตอนนั้นตัวเองเห็นว่าเป็นเวลาประมาณ 7 โมง และมีแขกเริ่มทยอยเข้างานจำนวนมากแล้ว ตัวเองจึงได้ไปพูดคุยกับคนขับรถโต๊ะจีน ที่คู่กรณีอ้างว่า กำลังขับจะไปถึง กระทั่งคนขับรถโต๊ะจีนเค้าก็บอกว่าเค้าไม่รู้เรื่อง เค้าอยู่แต่ในงานยังไม่ได้ออกไปไหนเลย ทำให้ตัวเองเริ่มมั่นใจแล้วว่า เหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดตัวเองน่าจะโดนโกง และตัวเองมาทราบภายหลังว่า ทีมชุดที่เอาโต๊ะจีนมาลงในงานนั้น ไม่ใช่ทีมงานเดียวกันกับชายคนดังกล่าว แต่เขาพึ่งไปว่าจ้างทีมงานที่อยู่ จ.ลพบุรี มาก่อนงานจะเริ่มเพียงแค่ 1 วัน และกำชับให้ทีมงานที่จังหวัดลพบุรี โกหกตัวเองว่าเป็นทีมงานเดียวกันกับเขา

ตอนนั้นตัวเองและครอบครัวจึงพากันแก้สถานการณ์ล่วงหน้ากันเอาเอง โดยให้ญาติไปหาซื้ออาหารในตลาดใกล้บ้าน เพื่อให้แขกที่ถึงงานรับประทานอาหารก่อน ซึ่งลุงป้าน้าอาของตัวเองก็ได้ไปซื้อลูกชิ้นมาทอด,ซื้ิข้าวกล่อง,ซื้อหมูกระทะประมาณ 50 ชุด,ซื้อต้มยำ,ซื้อขนมจีน มาให้แขกรับทานอาหารก่อน เท่าที่จะหาซื้อได้

จนกระทั่งงานแต่งตัวเองเริ่ม ไม่ว่าจะเป็นตอนแห่ขันหมาก หรือตอนเข้าพิธี ตัวเองรู้สึกเสียใจมาก ที่งานแต่งครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นไปตามที่วาดฝันเอาไว้ ซึ่งตอนที่ทำพิธีน้ำตาตัวเองก็ไหลออกมา รวมถึงแม่และยายของตัวเอง ที่พากันร้องไห้ไม่ต่างกับตัวเอง

หลังเกิดเหตุคู่กรณีบอกว่าจะโอนเงินทั้งหมดที่ตัวเองจ่ายไป จำนวน 46,000 บาท คืนตัวเองในช่วงเย็นของวันที่ 25 พฤศจิกายน แต่สุดท้ายเค้าก็ไม่ได้โอนคืน โดยเค้าบอกขอเวลาประมาณสามวัน ซึ่งผ่านไปสามวันเขาก็ไม่คืนเงินตัวเองอีก ตัวเองจึงโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลง Facebook พร้อมกับแจ้งความที่สภ. แก้งคร้อ

ซึ่งหลังจากโพสต์เฟชบุ๊กไปแล้ว ทางคู่กรณี ก็ยังโทรมาบอกให้ตัวเองลบโพสต์ โดยหาว่าตัวเองไปทำให้ร้านของเขาเสื่อเสียชื่อเสียง จนลูกค้าต้องยกเลิกงาน

 
เปิดคลิปบรรยากาศคนในงานพากันกินหมูกระทะ ส่วนเจ้าสาวน้ำตาซึมหลังงานถูกเท

ทีมข่าวช่อง 8 ได้รับคลิปวิดีโอ ในงานแต่งงานของนางสาวสุกัญญา เจ้าสาว มาด้วยกันหลายคลิป อาทิ
เพื่อนเจ้าสาวและเจ้าสาวมาร่วมกันรับประทานหมูกระทะอยู่ภายในงานแต่ง, คลิปความยาว 10 วินาที จับภาพเจ้าสาวน้ำตาซึมอยู่ภายในงานแต่ง จนกลุ่มเพื่อนเข้ามาปลอบ ให้กำลังใจ นอกจากนี้ยังมีภาพนิ่งของเตาถ่านที่ใช้ย่างหมูกระทะในงานแต่งครั้งนี้อีกด้วย และภาพนิ่งอีกชุด จะเป็นภาพบรรยากาศตอนแต่งงาน และตอนที่แขกในงานกำลังกินหมูกระทะกันอย่างอร่อย

 


เปิดวงจรปิดญาติเจ้าสาวซื้อหมูกระทะมาให้แขกในงาน

ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังร้านหมูกะทะ ที่ญาติๆของเจ้าสาวมาซื้อไปให้แขกในงานทานในวันแต่งงาน ได้พูดคุยกับนางสาวน้อย (นามสมมติ) เจ้าของร้านหมูกระทะ ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันเกิดเหตุ เจ้าภาพงานแต่งได้โทรศัพท์มาหาตัวเองก่อนว่า เขาจะเข้ามาซื้อหมูกระทะ เนื่องจากเขาโดนเจ้าของโต๊ะจีนเทงานแต่งงานของเขา

พอมาถึงที่ร้านเค้าก็มาซื้อหมูกระทะแบบบุฟเฟ่ต์ ไปในราคา 7,000 บาท มีทั้งหมด 30 เตา ซึ่งวันนั้นตัวเองก็ยินดีขายหมูกระทะให้กับผู้เสียหาย เพราะรู้สึกสงสารเขา ที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้รับกล้องวงจรปิด มาจำนวน 3 คลิป กล้องตัวที่ 1 เวลา 09.40.14 น. จับภาพ ญาติของเจ้าสาวเดินทางมาที่ร้านหมูกระทะเพื่อเลือกซื้อหมูกระทะไปให้แขกในงาน

กล้องวงจรปิดตัวที่ 2 เวลา 10.13.53 น. จับภาพเจ้าของร้านหมูกะทะ ทำการขนกระทะ ไปให้กับญาติของเจ้าสาว

กล้องวงจรปิดตัวที่ 3 เวลา 10.19.52 น. จับภาพญาติของเจ้าสาวเดินขึ้นรถกระบะ หลังจากสั่งซื้อหมูกระทะเสร็จแล้ว

 

 
ผู้เสียหายอีกรายเผยโดนเจ้าของโต๊ะจีนรายนี้ เทงานเกือบล่ม

ทีมข่าวช่อง 8 ได้วีดีโอคอลพูดคุยกับนางสาวจุฑามาศ ผู้เสียหายอีกราย เผยว่า ก่อนหน้านี้ ตัวเองต้องการจัดงานแต่งงานที่บ้านเกิดในจังหวัดอุดรธานี กระทั่งตัวเองได้หาคนจัดโต๊ะจีน ในเฟชบุ๊ก กระทั่งไปเจอร้านของชายดังกล่าว จึงมีการนัดชิมอาหารตัวอย่างกัน ซึ่งเขาก็มีการเอาตัวอย่างอาหารมาให้ตัวเองชิม ที่กรุงเทพฯ เพราะตอนนั้นตัวเองทำงานอยู่ที่นี่ หลังจากชิมเสร็จ ก็ตกลงรายละเอียด โดยมีการทำสัญญาจ้างโต๊ะจีน 105,000 บาท แล้วตัวเองก็จ่ายมัดจำไปให้กับชายคนดังกล่าวในราคา 50,000 บาท

ผ่านไป 1 อาทิตย์ ใช่คนดังกล่าวก็โทรมาขอเงินมัดจำกับตัวเองเพิ่มอีก 10,000 บาท อ้างว่าจะไปซื้อผ้าปูโต๊ะแบบใหม่เอี่ยม ตัวเองก็โอนให้เขาไป และผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ เค้าก็โทรศัพท์มาขอเงินกับตัวเองอีก 10,000 บาท บอกว่าเงินซื้อผ้าไม่พอ กระทั้งตัวเองมีการปรึกษาครอบครัว และ โยนไปให้แม่คุยกับผู้ชายคนดังกล่าวแทน ซึ่งแม่ตัวเองก็ได้ไปสอบถามกับคนที่จัดโต๊ะจีนเหมือนกัน จนมีคนในวงการโต๊ะจีนมาบอกว่า “รู้จักกับคนนี้ มันจะโกงโต๊ะจีนอีกแล้วหรอ”

นอกจากนี้นางสาวจุฑามาศ ยังส่งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอบรรยากาศงานแต่งของเธอ รวมถึงแชต ที่เธอนั้นส่งข้อความไปหาชายคนดังกล่าวว่า “วันนี้ที่ตกลงกันไว้ไม่ตรงซักอย่างเลยค่ะไม่ถูกต้องอะไรเลยกับข้าวก็ไม่ถูกต้อง กับข้าวก็ส่งไม่ตรงเวลาแล้วอีกอย่างคือไม่เป็นคำพูดทั้งหมดเลย ขอเบิกเงินก่อนล่วงหน้าเอาไปซื้อผ้าปูโต๊ะ ก็ไม่เห็นจะได้ผ้าใหม่ คือเราไม่โอเคถึงขั้นเรา ผ้าที่มาก็ขาดอย่างกับผ้าขี้ริ้วมาปู โบว์สีทองก็ไม่ติดให้ หอยก็เสียไป เป็น 10 ถุง"


เปิดแชตสนทนาระหว่างเจ้าของโต๊ะจีนกับเจ้าสาว

เจ้าของโต๊ะจีนได้ส่งข้อความมาหาเจ้าสาวว่า “สวัสดีครับจากร้านโต๊ะจีนนะครับ 25 ต.ค มื้อเที่ยงนะครับแต่ไม่แน่พี่อาจจะไปไวกว่านั้น อย่าลืมส่งโลเคชั่นให้นะครับ” พร้อมกับส่งสัญญามาให้กับฝั่งเจ้าสาวอีกด้วย

จากนั้นเจ้าสาวก็มีการส่งโลเคชั่น จุดที่มีการจัดงานแต่งไปให้กับคู่กรณี พร้อมแชตถาม-ตอบกันไปมา

 


ช่อง 8 ลงพื้นที่บ้านเจ้าของโต๊ะจีน แต่ไม่เจอใครอยู่ที่บ้าน ด้านเพื่อนบ้านแฉชายรายนี้ติดพนันออนไลน์

ทีมข่าวช่อง 8 ได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าของโต๊ะจีนคนดังกล่าว แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวไม่รับสาย จากนั้นทีมข่าวเดินทางมายังบ้านของเจ้าของโต๊ะจีนพบว่าบ้านปิดเงียบ ไม่มีคนอาศัยอยู่ในบ้านแม้แต่คนเดียว

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายติ่ง (นามสมมติ) เพื่อนบ้านของผู้ต้องสงสัย ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า สำหรับชายคนดังกล่าวมาอาศัยอยู่บ้านเช่า ที่อยู่ตรงข้ามบ้านของตัวเองได้ไม่กี่เดือน ก่อนที่ช่วงเดือนสิงหาคม 2566 มี แก๊งค์เงินกู้ มาเก็บหนี้กับชายคนดังกล่าวอยู่ที่หน้าบ้าน ทำให้ชายคนดังกล่าวขนของย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้ ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา หลังจากนั้นตัวเองก็ไม่เห็นชายรายนี้อีกเลย คาดว่าเขาน่าจะหนีหนี้

โดยก่อนหน้านี้ตัวเองเคยพูดคุยกับยายของผู้ชายคนดังกล่าว เขาบอกว่าหลานชายของเขา มีพฤติกรรมชอบเล่นพนันออนไลน์ สูญทั้งบ้าน ทั้งรถ แล้วก็มีปัญหาเรื่องเงินมาตลอด และชายคนดังกล่าว ยังเคยมายืมรถยนต์ตัวเองไปบอกว่าจะเอา ไปทำธุระแป๊บเดียว แต่ก็เอาไปขับทั้งวัน จนลูกชายตัวเองบ่นให้ และไม่ให้ตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับชายคนดังกล่าวอีกแล้วตอนที่เขาย้ายออกไป เขาก็ไม่จ่ายค่าเช่าบ้าน ไม่จ่ายค่าไฟและไม่จ่ายค่าน้ำอีกด้วย

วิวาห์หวิดล่ม! โต๊ะจีนเทงานแต่งบ่าวสาวโฮสั่งหมูกระทะเลี้ยง สื่อลุยหาตัวอึ้งเจอคำตอบ