ผงะเปิดห้องเจ้าสำนักสงฆ์พบกะโหลกและกระดูกชิ้นส่วนมนุษย์
จากกรณีพระรูปหนึ่งมางานกฐินและได้หายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก่อนคนดูแลวัดไปเปิดห้อง พบกะโหลกมนุษย์ ชิ้นส่วนมนุษย์
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวและมีบางส่วนที่เป็นกระดูกของญาติของชาวบ้านบางส่วนที่อยู่ในโกฏได้นำมาฝากไว้ ก็ได้ประกาศออกไปว่าสามารถมารับกลับคืนได้ เพราะไม่ได้อยู่ในส่วนที่นำไปตรวจสอบ
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 พูดคุยกับ พระรังสรร ซึ่งเป็นพระที่อยู่ภายในสำนักสงฆ์อีกรูปนึง และเป็นผู้ถือกุญแจ อาคารเก็บพระเครื่องและมวลสาร ไว้ จึงได้นำกุญแจมาเปิดประตูเพื่อให้ทีมขาว ได้เข้าไปดูบริเวณที่พบ กะโหลกมนุษย์ และชิ้นส่วนกระดูกต่างๆ โดยเมื่อเปิดเข้าไปภายในห้องทีมได้พบว่าห้องดังกล่าว มีตู้ลักษณะเหมือนตู้โชว์ อยู่สองตู้โดยภายในภายในมีพระเครื่องรุ่นต่างๆที่ ทางสำนักสงฆ์เป็นผู้จัดสร้างส่วนหนึ่ง และพระอนุชิตเป็นผู้จัดสร้างอีกส่วนหนึ่ง
จากนั้นเมื่อมองไปทางด้านในของห้องจะพบว่ามีลักษณะลักษณะเหมือนขวดโหลพลาสติก ซึ่งภายในบรรจุมวลสาร ซึ่งคาดว่าจะใช้นำมาสร้างพระผง หรือพระเครื่องต่างๆ โดยมวลสารมีอยู่หลายอย่าง โดยบรรจุไว้ภายในขวดโหลพลาสติกวางเรียงกันอยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง จากนั้นทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับ พระรังสรร โดยท่านได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า
พระอนุชิต ได้หายตัวไปจากสำนักสงฆ์ก่อนวันออกพรรษาประมาณสองวัน และหลังจากนั้นก็กลับมาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้อีกสองครั้ง จากนั้นจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่ได้เจอ พระอนุชิตอีกเลย ซึ่งหลังจากที่ตนเห็นว่าพรานอนุชิตไม่กลับมาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้แล้ว จึงได้ปรึกษากับคณะกรรมการและ ชาวบ้าน เพื่อที่จะทำความสะอาด บริเวณสำนักสงฆ์และอาคารต่างๆ
จากนั้นจึงได้เปิดอาคารดังกล่าวที่เป็นอาคารเก็บพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ของพระอนุชิต เมื่อเปิดเข้าไปจึงพบพระเครื่องและเครื่องรางของขลังที่นำไว้ให้ประชาชนเช่าบูชา โดยอีกด้านหนึ่งก็ได้พบกับ มวลสารต่างๆที่บรรจุอยู่ภายในขวดโหลพลาสติก และกะโหลกมนุษย์และชิ้นส่วนกระดูกวางอยู่ ตนจึงตกใจและเรียกเรียกให้คณะกรรมการและผู้ใหญ่บ้านเข้ามาดู จากนั้นจึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้มาเก็บชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์นี้ไปพิสูจน์ทราบอีกทีว่าเป็นของผู้ใด
ซึ่งทางนี้ตนไม่เคยเห็นว่าพระอนุชิตจะมีของเหล่านี้อยู่ และไม่ทราบว่ามีไว้เพื่อทำอะไร เพราะในเรื่องการทำเครื่องรางของขลังหรือการสร้างพระ ตนไม่เคยเข้าไปยุ่งเรื่องพวกนี้ กับพระอนุชิต โดยพระอนุชิตจะจัดสร้างกับลูกศิษย์ และพระคนสนิทเท่านั้น
พระอนุชิต พูดแล้วหายไปไหน ทำไมในห้องมีหัวกะโหลกมนุษย์
หลังจากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้ให้คณะกรรมการของสำนักสงฆ์ติดต่อไปยัง พระอนุชิต ในเบื้องต้นพระอนุชิตได้ชี้แจงว่า ที่ตนออกมาจากสำนักสงฆ์เพราะตนได้ รับกิจนิมนต์ มาที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้มารักษาการเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ เนื่องจากเจ้าอาวาสท่านเก่าได้มรณภาพไป แต่ในเบื้องต้นตนไม่ได้แจ้งกับใคร
และต้นอยากชี้แจงว่าในเรื่องที่ว่ามีข่าวว่า ตอนกลับไปที่งานกฐินของสำนักสงฆ์และได้นำเงินกฐินมาทั้งหมดนั้นเป็นความจริง เพราะตนไม่ได้กลับไปร่วมงานกฐินเลย และไม่เคยที่จะนำเงินของสำนักสงฆ์มาเป็นเงินส่วนตัว
และในส่วนเรื่องของกะโหลกมนุษย์และชิ้นส่วนกระดูกที่เจอภายในห้อง ในเรื่องนี้ตนได้คุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหมดแล้วและจะเข้าไปให้ปากคำอีกครั้งซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะไปวันใด และทางเจ้าของซึ่งเป็นญาติของกระดุมมนุษย์เหล่านั้นก็ได้ติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ตนจะปรึกษาทนาย และจะเข้าไปให้ปากคำอีกครั้ง
ทางด้านเฟซบุ๊กของ พระอนุชิต ก็การเคลื่อนไหวอยู่ตลอดทุกวัน โดยในวันนี้ ได้โพสต์ข้อความลักษณะขอบคุณลูกศิษย์ที่เป็นห่วงและบอกกับลูกศิษย์ป้าตนยังสบายดี และไม่เครียดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเดี๋ยวทุกอย่างจะสามารถคลี่คลายได้เองเพราะทุกอย่างมันคือวิบากกรรมของตน
ในส่วนเมื่อวาน พระอนุชิตได้โพสต์ว่า “ความลับไม่มีในโลก” ซึ่งคาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ญาติบางส่วนเดินทางมารับอัฐิที่ฝากไว้ ยันพระอนุชิตเป็นพระดีพระปฏิบัติ
จากนั้นทีมข่าวพบกับ น.ส.เรณู ซึ่งเป็นผู้ที่มารับอัฐิลูกชายที่เคยเป็นลูกศิษย์พระอนุชิต และเคยมาปฎิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า ตนเองนั้นอยู่ที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยลูกชายของตนได้เคยมาปฎิบัติธรรมที่ สำนักสงฆ์แห่งนี้ และเป็นลูกศิษย์ พระอาจารย์อนุชิต โดยเลื่อมใสศรัทธามาก จึงได้บอกกับตนไว้ว่าถ้าเสียชีวิต ให้นำอัฐิมาฝากไว้กับพระอนุชิตที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ซึ่งเมื่อสองปีที่แล้วลูกชายของตนได้เสียชีวิต ตนจึงทำตามที่ลูกชายของตนได้ขอไว้
ซึ่งหลังจากนั้นเมื่อวานได้มีคณะกรรมการของสำนักสงฆ์แห่งนี้โทรไปบอกว่า ให้มารับอัฐิของลูกชายและญาติกลับไปไว้ที่บ้าน เนื่องจากพระอาจารย์อนุชิตไม่ได้อยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้แล้ว โดยส่วนตัวของตนเชื่อว่าพระอาจารย์อนุชิต เป็นพระที่ดีเป็นพระที่ปฏิบัติ และสาเหตุของเรื่องดังกล่าวน่าจะเกิดจากการถูกกลั่นแกล้ง จึงเป็นเหตุให้พระอาจารย์ชิตต้องหนีออกจากสำนักสงฆ์แห่งนี้ไป
โดยในวันนี้ตนต้องจ้างรถมาจากพนมสารคาม เพื่อมารับอัฐิลูกชายและญาติ ซึ่งในตอนนี้พระที่สามารถเปิดประตูได้ก็ไม่อยู่ ตนจึงต้องนั่งรอตั้งแต่เช้า และตอนนี้รถที่ตนเช่ามาก็ไม่รอตนแล้ว ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะต้องกลับบ้านยังไง ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะรับอัฐิ ของลูกชายและญาติทั้งหมด ที่เสียชีวิตไปกลับไปดูแลเองต่อไป