จากกรณีที่เพจอีซ้อขยี้ข่าวได้โพสภาพลักษณะคล้ายพระสงฆ์ที่นอนอยู่บนที่นอนและกำลังวิดีโอคอลกับชายคนหนึ่ง ลักษณะกำลังโชว์ขัดจรวจ พร้อมกับระบุว่า กิจวัตรยามว่างของพระครูชื่อดังสายวิปัสนากรรมฐานทางภาคอีสาน ดีกรีระดับด็อกเตอร์ที่มีลูกศิษย์ให้ความเคารพเป็นจำนวนมาก

 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวช่อง8เดินทางมาที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่ง จังหวัดกาฬสินธุ์ซึ่งเราได้พูดคุยกับ พระมหาชัย (นามสมมติ) จำวัดอยู่ที่วัดนี้หรือไม่

 

โดยพระลูกวัดรูปนี้ เผยว่า พระรูปดังกล่าวที่ปรากฏเป็นข่าวเป็นพระจริงแต่ไม่ได้จำวัดอยู่ที่วัดนี้ ซึ่งตนเองรู้เพียงแค่ว่าพระรูปดังกล่าวจำวัดอยู่แถบเขื่อนลำปาว แต่ไม่รู้ว่าวัดไหนเพราะไม่เคยคุยและไม่ได้สนิทกันรู้เพียงแค่ชื่อเท่านั้น เพราะเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในแถบภาคอีสานโดยเฉพาะในจังหวัดกาฬสินธุ์ และยังเป็นพระที่จบในระดับด็อกเตอร์ เป็นพระนักเทศน์และเป็นผู้อำนวยการศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน รวมทั้งตนเองทราบมาว่าพระรูปดังกล่าวเป็นพระที่ปราบปรามยาเสพติดในหมู่คณะสงฆ์ จึงทำให้มีลูกศิษย์ลูกหาเคารพนับถือมากมาย

 

ส่วนเรื่องที่มีทางเพจนำมาแฉตนเองยังไม่ปักใจเชื่อว่าจะเป็นพระรูปนี้จริง เพราะเท่าที่ตนรู้จักพระรูปนี้เป็นพระนักปฏิบัติไม่น่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้

 

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ขับรถสำรวจภายในวัดและได้พบกับนางแก้ว นามสมมุติ ยามประจำโรงเรียน เราจึงได้เข้าไปสอบถามถึงพระรูปดังกล่าวและได้นำรูปถ่ายของพระรูปดังกล่าวให้กับยามประจำโรงเรียนได้ตรวจสอบ  ซึ่งพอยามประจำโรงเรียนได้ดูรูปภาพที่เราได้เอาให้ดู ก็เปิดเผยว่าไม่คุ้นหน้ากับพระรูปดังกล่าวและก็ไม่เคยเห็นพระรูปดังกล่าวอยู่ภายในวัดแห่งนี้

 

ต่อมาเราได้รับการโทรศัพท์ติดต่อกลับมาจากพระรูปดังกล่าวที่เป็นข่าว

 

ซึ่งพระรูปดังกล่าวยอมรับว่าในคลิปที่ปรากฏเป็นข่าวเกิดจากหลังจากที่ทางตนเองสรงน้ำเสร็จ ก็มานอนพักผ่อนซึ่งอยู่ในท่าอิริยาบถผ่อนคลาย หลังจากนั้นก็มีคนโทรศัพท์วิดีโอคอลมา ซึ่งตนเองก็กดรับตามปกติแต่ไม่รู้ว่ามีการแอบบันทึกวิดีโอไว้

 

พร้อมยอมรับว่าใบหน้าที่ปรากฏในคลิปเป็นรูปใบหน้าของตนเองจริง แต่อ้างว่าในส่วนของการโชว์อวัยวะเพศไม่ใช่ของตนเอง เพราะตนเองไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ จึงเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการตัดต่อรูปหน้าของตนเองไปใส่ในวิดีโอช่วยตนเอง

 

ส่วนชายหนุ่มที่ปรากฏในคลิปวิดีโอยอมรับว่ารู้จักกันเมื่อกลางปีที่แล้วหลังจากที่มีคนแนะนำให้รู้จักว่าเป็นลูกศิษย์ที่นับถือตนเอง แต่หลังจากที่รู้จักได้ไม่นาน และคุยกันแค่ครั้งเดียว ตนเองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนกระทั่งมีคนส่งคลิปมาข่มขู่เรียกเงินจากตนเองและถ้าหากไม่โอนเงินให้ก็จะนำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่

 

ยืนยันว่าเป็นผู้เสียหายไม่ใช่คนผิด ล่าสุดได้เดินทางไปแจ้งความเพื่อเอาผิดกับผู้ที่ปล่อยคลิปแล้ว