กรณีเมื่อเวลาประมาณ 11:00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจสน. ประเวศรับแจ้งเหตุมีชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณริมถนนอ่อนนุช ซอย 70 เขตประเวศ

 

เมื่อไปถึงพบ ผู้บาดเจ็บถูกยิงที่บริเวณหน้าท้องทราบชื่อคือนายคูณทรัพย์ ปัดนาวาส หรือน้องน้ำมนต์ อายุ 19 ปี กำลังถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน เนื่องจากถูกยิงบริเวณลำตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระทั่งผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

  

กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ  ทำการจับกุม นายยศกร กระแซง หรือน็อต (คนยิง) และ นายยศพร  กระแซง หรือโน๊ต อายุ 19 ปี 2 พี่น้องฝาแฝด ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ขับขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงวัยรุ่นขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ เหตุเกิด บริเวณถนนอ่อนนุช ปากซอยอ่อนนุช 70 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร  เมื่อช่วงเช้าของ วันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมยึดอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ รถจักรยานยนต์และชุดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ไว้เป็นหลักฐาน

 

ทีมข่าวเดินทางมายัง วัดกระทุ่มเสือปลา กรุงเทพมหานคร โดยเวลา 14.00 น. ครอบครัวผึ้งรับศพของน้องน้ำมนต์มาถึงที่วัด บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า

 

ระหว่าง ที่เจ้าหน้าที่นำโลงศพของผู้เสียชีวิตไปวางอยู่กลางศาลา ทีมข่าวสังเกตว่านางสาคร แม่ของน้องน้ำมนต์ พอเห็นศพลูกก็คลานเข้าไปหาโลงศพลูกชาย พร้อมร้องเพลงนกกาเหว่าออกมาว่า “เจ้านกกาเหว่าเอย ไข่ไว้ให้แม่กาฟัก  แม่กาก็หลงรัก” แล้วแม่ของผู้เสียชีวิตก็คลานเข้าไปบอกลูกว่า แม่รักหนู แม่จะนอนกับหนู แม่จะนอนกอดหนูเหมือนที่เคยทำทุกวัน

 

 

จากนั้นนายล่ำ ปัดนาวาส  พ่อของน้องน้ำมนต์ ก็ได้เข้ามาเปิดฝาโลงศพ พยายามเข้าไปจูบร่างลูกชายในโลงศพ แต่ก็ถูกญาติๆมาดึงร่างของพ่อผู้ตายออกไป เนื่องจากเกรงว่าน้ำตาของพ่อ จะหยดใส่ร่างของลูกชาย ตามความเชื่อ เพราะจะทำให้ผู้ตายจากไปไม่สงบ

 

มีบางช่วง ที่พ่อของผู้เสียชีวิต นอนร้องไห้ฟุบข้างโลงศพ  ส่วนแม่ของผู้ตาย ก็เพ้อถึงลูกอยู่ตลอดเวลา ด้วยความเสียใจ พร้อมกับนอนข้างโลงศพลูก ใช้มือลูบคลำโลงศพลูกอยู่เป็นระยะ จากนั้นพ่อแม่ของคนตาย ก็ไปจุดธูปและบอกกช่าวถึงดวงวิญญาณลูก

 

จากนั้นนางสาคร บุญมะณี แม่ของน้องน้ำมนต์ ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวว่า น้องน้ำมต์ลูกชายตัวเองเป็นคนดี กตัญญู เขาไม่เคยทำร้ายใคร หลังจากเรียนจบ ม.3 ลูกชายก็อยู่แต่บ้าน ไปรับ-ส่งตัวเองไปทำงาน รับ-ส่ง น้องสาวไปโรงเรียน รวมถึงช่วยพาคุณลุงซึ่งป่วยเลาหวานไปหาหมออีกด้วย

 

เวลาทานข้าวลูกก็จะแกะกุ้ง ให้พ่อแม่กิน ส่วนลูกชายก็จะกินแต่เศษกุ้ง เพราะเขาเห็นแกคนอื่นก่อนเสมอ  ตัวเองอยากจะถามคนก่อเหตุว่า เขาฆ่าลูกชายทำไม ลูกแม่ไปทำอะไรให้ ลูกแม่แค่จะไปดูหนังกับเพื่อนเท่านั้น 

 

ส่วนที่ผู้ก่อเหตุ เขาบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ ตัวเองก็อยากถามเขาว่า “ถ้าคุณไม่ได้ตั้งใจ คุณจะพกปืนไปตั้งแต่แรกทำไม”  แล้วถ้ายิงลูกแม่ตายแล้วมาบอกว่าขอโทษ เขารับผิดชอบได้แค่นี้หรือ ลูกแม่ตายทั้งคน แล้วแม่กับพ่อก็ตายทั้งเป็น เขาจะไปยิงคนอื่นมั่วๆ แล้วมาพูดว่สขอโทษแค่นั้นไม่ได้

 

ส่วนที่ตัวเองร้องเพลงนกกาเหว่า ให้ลูกฟังข้างโลงศพนั้น เพราะว่าเป็นเพลงที่ลูกชอบตั้งแต่เด็กเด็ก ซึ่งตัวเองจะร้องเพลงกล่อมลูกเสมอ

 

ทีมข่าวช่อง 8 ได้กล้องวงจรปิดวินาทีเกิดเหตุ มาเพิ่มเติม พบว่า ช่วงต้นคลิปเวลา กลุ่มของผู้ตายและผู้ก่อเหตุขับรถมาเจอกันในที่เกิดเหตุ จากนั้นก็เห็นผู้ตายกระโดดลงจากรถ พร้อมถือหมวกกันน็อกไว้ในมือหนึ่งข้าง และอีกมือถืออะไรบางอย่าง จังหวัดนั้นก็เป็นช่วงที่นายยศกร หรือน็อต ผู้ก่อเหตุ ใช้ปืนยิงผู้เสียชีวิตจนล้ม ก่อน ที่ผู้ก่อเหตุจะวิ่งไปขึ้นรถพี่ชายแล้วสองคนก็ขับหลบหนีไป ส่วนนายบลู เพื่อนของผู้ตายก็ได้พยุงร่างของผู้ตายไปนั่งพักริมถนน ซึ่งตอนนั้นผู้ตายยังคงมีอาการบาดเจ็บสาหัสอยู่

เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ  ทำการจับกุม นายยศกร หรือน็อต (คนยิง) และ นายยศพร  หรือโน๊ต อายุ 19 ปี 2 พี่น้องฝาแฝด ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ขับขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงวัยรุ่นขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ เหตุเกิด บริเวณถนนอ่อนนุช ปากซอยอ่อนนุช 70 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร  เมื่อช่วงเช้าของ วันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา   พร้อมยึดอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ รถจักรยานยนต์และชุดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ไว้เป็นหลักฐาน

 

เวลา 17:45 น. ตำรวจได้คุมตัวนายยศกร หรือน๊อต (มือยิง) ออกจากห้องคุมขัง เพื่อมาสอบปากคำ ระหว่างนั้น ทีมข่าวช่องแปดได้สอบถาม นายยศกร ถึงปมในการก่อเหตุ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมตอบคำถามทีมข่าวแม้แต่คำถามเดียว

 

จากนั้นตำรวจได้ นำตัวนายยศพร หรือโน๊ต พี่ชายของมือยิง มาสอบปากคำอีกราย ผู้สื่อข่าว จึงถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ เจ้าตัวก็ตอบสั้นๆว่า “ผมไม่ได้ยิงครับ” เมื่อถามว่า มีอะไรอยากจะฝากถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิตหรือไม่ ผู้ต้องหาก็ไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

 

สำหรับความคืบหน้าทางคดีตำรวจได้ ดำเนินคดีกับสองพี่น้องฝาแฝด ในข้อหา " ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา , ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และ ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอบ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน " โดยจะมีการนำตัวส่งฝากขังศาลพระโขนงในวันพรุ่งนี้

 

วันนี้  5 พ.ย.2566 ทีมข่าวช่องแปดเดินทางมายังสน. ประเวศ กรุงเทพมหานคร ได้พูดคุยกับนางคำแก้ว นามสมมติ  แม่ของผู้ต้องหา เธอให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า เมื่อวานนี้ลูกชายทั้งสองคนซึ่งเป็นฝาแฝด กำลังขับรถมอเตอร์ไซค์จะไปหาเพื่อน กระทั่งไปบริเวณถนนอ่อนนุช ก็ถูก รถมอเตอร์ไซค์ของกลุ่มผู้ตายขับปาดหน้า กระทั่งกลุ่มลูกชายจึงขับรถมอเตอร์ไซค์ตามหลังแล้วไปสอบถามกลุ่มผู้ตาย ว่าเรียนที่ไหนและขอเช็กหัวเข็มขัด จู่จู่ผู้ตายก็กระโดดมาใส่ลูกชาย ทำให้ลูกชายตกใจ และคิดว่าตอนที่ผู้ตานกระโดดมานั้น อาจจะมีอาวุธอะไรหรือไม่ ทำให้นายยศกร หรือน็อต (คนยิง) แฝดผู้น้อง จึงได้ยิงปืนใส่ผู้ตายจำนวนหนึ่งนัด แล้วก็ขับรถหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ

 

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุลูกชายได้โทรศัพท์ไปหาตัวเอง  แล้วบอกกับตัวเองว่า เค้าไปก่อเหตุยิงคนมา ตอนนั้นลูกชายยังไม่รู้ว่าคู่กรณีเสียชีวิต พึ่งมารู้ข่าวช่วงบ่ายของวันนี้ ซึ่งหลังจากดูข่าวลูกชายก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเขาก็ฝากตัวเองมาขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิต ลูกชายบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะยิงผู้ตายแต่อย่างใด เค้ายิงเพราะความตกใจ

 

ตัวเองขอยืนยันว่าที่ผ่านมา  ลูกชายทั้งสองคนเป็นคนดีมาตลอด ไม่เคยมีเรื่องกับใคร และไม่เคยรู้จักกับผู้ตายอีกด้วย

 

ถ้ามีโอกาสตัวเองก็อยากจะไปขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง  เพราะตัวเองก็เสียใจไม่แพ้ครอบครัวของผู้สูญเสียเหมือนกัน

 

ส่วนเรื่องอาวุธปืน  ตัวเองก็ไม่ทราบว่าลูกชายมีตั้งแต่ตอนไหน เพราะเขาไม่เคยเล่าให้ตัวเองฟัง