นาย มิตรชัย อายุ 32 ปี แรงงานไทยในอิสราเอลที่รอดชีวิตอย่างหวุดหวิด หลังจากเผชิญหน้าจากกลุ่มฮามาสถึงสองครั้ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะโดนยิงทั้งหมด 5 นัด และยังโดนปาระเบิดใส่มากกว่าสองครั้ง ตอนนี้รักษาตัวได้ 5 วันจนอาการดีขึ้นแล้ว เปิดใจกับทีมข่าวถึงเหตุการณ์อันเลวร้ายในชีวิต

นายมิตรชัย ยังบอกอีกด้วยว่า ไม่นึกว่าตัวเองจะรอดตายมาได้ เพราะตัวเองเป็นแรงงานไทยกลุ่มแรกที่โดนกลุ่มฮามาสบุกเข้ามา ช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงเช้ามืดของวันที่ 7 ตุลาคม ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดแต่เพื่อนคนงานในแคมป์หลายคนต่างพากันบอกว่าอาจจะเป็นการซ้อมรบ

แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ตัวเองเคยเป็นทหารเกณฑ์มาก่อน จึงเชื่อว่าอาจจะมีการจู่โจมเข้ามาในแคมป์ของคนงาน เนื่องจากเสียงปืนดังเข้าใกล้จุดที่นอนอยู่เรื่อยๆ จึงบอกให้ทุกคนวิ่ง แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะกลุ่มฮามาสบุกเข้ามาถึงหน้าห้อง

แม้ว่าจะพยายามเอาที่นอนไปดันประตู แตกกลุ่มฮามาสสามารถเปิดประตูเข้ามาได้พอเจอใครก็ยิง โชคดีที่ตัวเองไปซ่อนตัวอยู่หลังตู้เสื้อผ้าทำให้ฮามาสมองไม่เห็น พอกลุ่มฮามาสไปห้องอื่นจึงใช้คีมตัดสายไฟในห้องเพื่อให้มองไม่เห็นว่ามีคนอยู่

แต่กลุ่มฮามาสก็ยังจู่โจมอยู่เรื่อยๆ ด้วยการปาระเบิดเข้ามาในห้องที่นายมิตรชัยอยู่ แล้วกลุ่มฮามาสก็จะปิดประตูห้องที่ปาระเบิดเข้ามา แล้วรอให้ควันจางลง แล้วถึงค่อยมาดูว่ายังมีคนที่มีชีวิตอยู่มั้ยก็จะยิงซ้ำ

นายมิตรชัย จึงใช้โอกาสนี้ในการหลบหนีพอมองเห็นหน้าต่าง ก็เลยจะหนีออกทางหน้าต่าง ไม่เห็นว่าเพื่อนอีกสองคนโดนยิงเสียชีวิตแล้วจึงพยายามชวนอีกสองคนออกทางหน้าต่าง แต่เพื่อนบอกว่าไม่ไป ออกไปก็ตาย นายมิตรชัยจึงตัดสินใจกระโดดหนีออกมาคนเดียว ส่วนเพื่อนอีกสี่คนนั้น ภายหลังมาพบเป็นซากกระดูกอยู่ในห้อง

และจังหวะที่กำลังกระโดดหน้าต่างนี้ออกไปก็ถูกกลุ่มฮามาสเปิดประตูเข้ามายิงโดนที่ด้านหลังตัวเอง แต่ก็ยังมีแรงวิ่งหนีออกมาอยู่ พอออกมาด้านนอกพยายามวิ่งเข้าไปในป่าก็ยังเจอกลุ่มฮามาสอีก จึงถูกยิงเข้าที่ด้านหลังอีกประมาณ 3 นัด และขมับอีกหนึ่งนัด จนล้มลงกับพื้นนอนแน่นิ่งไป ตอนนั้นคิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ จึงยอมรับสภาพ นอนเหมือนคนตายไปแล้ว ทำให้กลุ่มฮามาสเข้าใจว่าตายไปแล้ว จึงทำให้รอดชีวิตผ่านไปเกือบ 6 ชั่วโมงถึงจะมีคนมาช่วยนำส่งโรงพยาบาล

แม้ว่าจะถึงที่โรงพยาบาลแต่อาการของตัวเองค่อนข้างสาหัสมากตอนนั้น เนื่องจากบริเวณด้านหลังมีสะเก็ดระเบิดทั้งตัว แถมยังมีกระสุนฝังอยู่ในร่างกายทั้งหมด 5 นัด ทำให้คุณหมอต้องผ่าตัดถึง 4 ครั้ง จนทำให้ตัวเองตัดพ้อไม่อยากมีชีวิตรอด ตอนนั้นจึงติดต่อกลับมาหาครอบครัวแล้วบอกว่าจะสู้ไม่ไหวแล้ว เจ็บปวดทรมานเหลือเกิน อาจจะไม่มีชีวิตอยู่กลับไปที่บ้านประเทศไทยได้ แต่ด้วยพลังใจจากครอบครัวจนทำให้นายมิตรชัยสู้อีกครั้งจนมีชีวิตรอด และกลับมาอาการดีอยู่ในจุดที่ปลอดภัยแล้ว

นายมิตรชัย ยังเปิดใจถึงข้อความจากกลุ่มฮามาส ที่เข้ามาบุกยิงถล่มในแคมป์คนไทย กลุ่มฮามาสถามคนไทยว่า "มีความสุขกันมากไหม ที่ทำงานให้กับคนอิสราเอล มีความสุขมากเหรอ ไปตายซะ"

ส่วนตัวแล้วนายมิตรชัยมองว่า สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าผลผลิตทางการเกษตรของประเทศอิสราเอลค่อนข้างเฟื่องฟู โดยมีคนไทยเป็นแรงงาน ในขณะที่กลุ่มฮามาสจะได้รับผลกระทบเกี่ยวกับการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร

ในฐานะที่ตัวเองเอาชีวิตรอดมาได้ จึงอยากให้คำแนะนำ และบอกถึงคนไทยในอิสราเอล ที่ยังอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยว่า หากเจอกลุ่มฮามาส ให้อยู่ห่างจากนายจ้างชาวอิสราเอลให้ได้มากที่สุด แล้ววิ่งหนีให้เร็วที่สุด ไปอยู่ในที่ซ่อนตัวตามป่า

และห้ามไปหลบภัยในบังเกอร์ ตามฟาร์มต่างๆ ที่ทำไว้ เพราะบังเกอร์เหล่านั้นทำไว้เพื่อหลบระเบิด แต่การที่กลุ่มฮามาส บุกภาคพื้น กลุ่มฮามาส จะไปยังจุดที่มีบังเกอร์ประจำฟาร์มนั้นๆ ก่อน

ในห้องที่นายมิตรชัยอาศัยอยู่ มีคนงานที่เป็นชาวไทยรวมทั้งหมด 5 คน เป็นห้องหมายเลข 2 ซึ่งนายมิตรชัยเอาชีวิตรอดมาได้คนเดียว

รอดปาฏิหาริย์ "มิตรชัย" ถูกยิง 5 นัดสลบ 6 ชั่วโมง แฉฮามาสแค้นคนไทยรับใช้อิสราเอล