แรงงานไทยเจ็บหนักหลังฮามาสถล่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ในอิสราเอลหลังถูกโจมตี โดย นายวิทวัส กุลวงศ์ (แจ็ค) 1 ในแรงงานไทย ชาวจ.อุดรธานี ทำงานที่ฟาร์มไก่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยถูกแทงตามร่างกายหลายแห่ง ทั้ง หลัง คอ หน้าผาก หมดสติไป 3 วัน
เปิดคลิปนาทีบุกเผาควัน
ขณะเดียววัน นายวิทวัส ได้มีการอัดคลิปวิดีโอในที่ทำงาน ซึ่งได้ยินเสียงไก่ร้อง พร้อมทั้งระบุว่าแคมป์คนงานไหม้หมดแล้วครับ คนงานไทยเรา จากนั้นไม่นานถูกกลุ่มติดอาวุธบุกเข้ามาทำร้าย โดยมีการต่อสู้กัน จนหมดสติ
ไม่ขอกลับไปอิสราเอลอีก หลังรอดตายราวปาฏิหาริย์
โดยนายวิทวัส เล่าว่า ขณะกำลังเดินอยู่ในฟาร์ม เพื่อตรวจดูว่ามีไก่งวงตายหรือไม่ ก็มีการยิงเข้ามา และมีกองกำลังติดอาวุธเข้ามาในฟาร์ม จึงเข้าไปหลบซ่อนตัว 2-3 ชั่วโมง เมื่อกองกำลังออกไปแล้ว จึงได้ออกมาจากที่ซ่อน เข้ามาในฟาร์ม ได้มีกองกำลังเข้ามาอีก และมาพบตนซึ่งกองกำลังได้ใช้มีดพยายามฆ่าปาดคอตน แต่ตนต่อสู้ สู้กันประมาณ 1 ชั่วโมง ตนถูกแทงคอ แทงหลัง และแทงหน้าผาก เลือดไหลออกมาก จนตนหมดสติ
เขาคงคิดว่าตนตายแล้ว จึงหยิบเอาโทรศัพท์ตนไปด้วย ประมาณ 1 ชั่วโมง ตนฟื้นขึ้นมา จึงเดินกลับไปที่แคมป์คนงาน เพื่อนคนงาน นายจ้างแจ้งทหารอิสราเอลนำตนส่งโรงพยาบาล 3 วัน ออกจากโรงพยาบาลจึงติดต่อกลับมาบ้านหาภรรยาและลูก ซึ่งถือว่าตนโชคดีที่รอดชีวิต ตนไม่อยากอยู่แล้ว อยากจะกลับบ้าน และไม่ขอกลับมาทำงานที่อิสราเอลอีก
ภรรยาสุดห่วง หลังสามีรอดตายจากคมมีด
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักของนายวิทวัส ต.หนองหัวคู อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านนายวิทวัส โดยได้พูดคุยกับ น.ส.วาสนา พิมพ์สุวรรณ อายุ 27 ปี ภรรยาของนายวิทวัส
เล่าว่า ตนแต่งงานกับนายวิทวัส มีลูกด้วยกัน 1 คน นายวิทวัส เดินทางไปทำงานเกษตร ที่ฉนวนกาซา ประเทศอิสราเอล สัญญา 5 ปี 3 เดือน ทำงานได้ 4 ปี ไม่กลับมาพัก ได้เงินเดือน 4-5 หมื่นบาท โดยยืมเงินจากนายทุนนอกระบบ 1 แสนบาท โดยจัดหางานเป็นคนส่งไปถูกต้องตามกฎหมาย โดย 2 ปีแรกทำงานในสวนมะเขือเทศ 2 ปีหลังทำงานในฟาร์มไก่งวง จะส่งเงินกลับมาให้ตนซื้อรถปิกอัพ 1 คัน และซื้ออุปกรณ์เตรียมสร้างบ้านไว้แล้ว
ก่อนเกิดเหตุเป็นวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม ซึ่งจะเป็นวันหยุดของสามี แต่สามีจะขับรถไถออกจากแคมป์ที่พัก ไปที่ฟาร์มไก่ เพื่อเก็บไก่ที่ตายออกมา ขณะเดินอยู่ในฟาร์มไก่ และไลฟ์สดในเฟซบุกให้ตนดูด้วย ต่อมาฝั่งปาเลสไตน์ก็มีการยิงข้ามมา ซึ่งสามีก็บอกว่ามีการยิงกันแล้ว แต่ครั้งนี้ยิงหนักมาก แถมมีกองกำลังติดอาวุธเข้ามาในฟาร์มด้วย ซึ่งสามีก็ไปหลบซ่อนตัว 2-3 ชม.และห้ามตนโทรไปหา เพราะเกรงว่ากลุ่มฮามาสจะได้ยิน ตนก็ไม่โทร แต่พอได้ดูคลิปยิงแรงงานไทยตายในแคมป์ ก็ยิ่งห่วงสามีมากขึ้น แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตนก็พยายามทักแชทกับเพื่อนร่วมงานสามี เย็นวันเดียวกันก็ทักแชตเพื่อนร่วมงานได้ เพื่อนบอกว่าสามีตนอยู่ในห้อง บาดเจ็บเล็กน้อย นายจ้างติดต่อทหารอิสราเอลมารับไปส่งโรงพยาบาลแล้ว
น.ส.วาสนา เล่าต่อว่า หลังทราบว่าสามีได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลแล้ว ตนก็รู้สึกดีใจ แต่ไม่สามารถติดต่อกับสามีได้ ก็ได้แชตสอบถามอาการกับเพื่อนคนงาน ส่วนตนและครอบครัวก็ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกที่เพื่อให้สามีปลอดภัย สามีออกจากที่โรงพยาบาลวันที่ 11 ตุลาคม ลูกชายนายจ้างได้ให้ใช้โทรศัพท์วิดีโอคอลมาหาตน และได้พูดคุยกัน ก็รู้สึกดีใจ แต่พอเพื่อสามีส่งภาพตอนสามีโดนแทงได้รับบาดเจ็บมาให้ดู ตนถึงกับร้องไห้ มันน่ากลัวมาก สามีรอดชีวิตมาได้อย่างไร สามีกลับมาบ้านแล้ว ก็จะไม่ให้กลับไปอีก