จากกรณีโลกโซเชียลได้แชร์ข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง มีข้อความว่า ด่วน นางเอกช่องน้อยสี ลูกครึ่งเวียดนาม พ่อโกงเงินลายล้าน เพื่อดันลูกเป็นดาราดัง พึ่งเซ็นสัญญาไป แถมพาลูก ครอบครัวกินหรูอยู่สบาย สาะพัดโกหกว่าตัวเองถูกทำร้ายในต่างแดน อ้างว่าตนถูกทำร้าย ถูกกุมขัง ล่าสุดติดต่อไม่ได้ บล็อกป๊าผมทุกช่องทาง บล็อกทุกอย่าง พร้อมแฉบอกเลย เพราะทำให้ครอบครัวผมเดือดร้อน

 

ล่าสุดเราเดินทางมาพบกับนายรัฐพงศ์ ผู้เสียหาย นำหลักฐานเป็นเอกสารกู้ยืมและหลักฐานการโอนเงินมาให้ผู้สื่อข่าวดู

 

พร้อมกับเผยว่า ตนเองไม่ได้รู้จักกับนายวี (นามสมมติ) พ่อดาราสาวเป็นการส่วนตัว แต่จะเป็นทางคุณพ่อของตนเองที่รู้จักผ่านทางเพื่อนของคุณพ่ออีกที ทำให้ตนเองพอจะรู้จักนายวีบ้าง ในปี 65 ที่มีการแพร่บาดเชื้อไวรัสโควิด 19 นายวี พ่อดาราสาว มาชักชวนให้ตนเองและคุณพ่อ ลงทุนนำเข้าถุงมือทางการแพทย์ เป็นเงินจำนวน 270,000 บาท โดยจะขายต่อให้โรงพยาบาลชื่อดัง พอได้กำไรจะนำเงินลงทุนพร้อมกำไรมาคืน  แต่พอครบกำหนด ก็อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการในการนำสินค้าเข้ามาจำหน่าย

 

ต่อมานายวี พ่อดาราสาว มากู้ยืมเงินจากคุณพ่อของตนเองอีก เป็นเงินจำนวน 2 ล้านบาท เพื่อนำเข้าชุดตรวจโควิดและหน้ากากอนามัย

 

หลังจากที่นายวี พ่อดาราสาว ได้เงินไปแล้ว ไม่สามารถติดต่อได้ นายวี ปิดกั้น บล็อกช่องทางติดต่อทุกช่องทาง  

 

พอติดต่อนายวีได้ก็อ้างว่าตนเองถูกหลอกให้ไปทำธุรกิจที่กัมพูชาและถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว จึงไม่สามารถติดต่อได้ จึงทำให้ภรรยาและลูกต้องหนีกลับไปอยู่ต่างประเทศ แต่พอตนเองเช็คกลับพบว่าลูกสาวนายวี ยังแสดงละครอยู่ช่องน้อยสี

 

ตอนนี้ครอบครัวตนเองเดือนร้อนมาก  เพราะต้องแบกรับภาระหนี้แทน และต้องชำระดอกเบี้ยเดือนละ 54,000 บาท แทน โดยครอบครัวชำระดอกเบี้ยแทนมาแล้ว รวม 16 ครั้ง จึงต้องการให้นายวี มารับผิดชอบและชดใช้เงินคืนให้ครอบครัวตนเอง แต่หากนายวีจะฟ้องร้องครอบครัวตนเองที่ออกมาแฉ ตนเองก็พร้อมเปิดหลักฐานสู้

 

 

 

พ่อดาราเชิดหนี้ 3 ล้านใช้ชีวิตหรูดันลูกเป็นนางเอก เหยื่อแฉพอทวงกุเรื่องถูกปล้น ทำซวยจ่ายดอกแทน