หนุ่มวัย 41 ปี น้อยใจเมียขอเลิก ผูกคอดับคาห้องพัก วิญญาณตามขอโทษลูกชาย ย่านประชาอุทิศ
30 ก.ย. 66 ตำรวจสน.ราษฎร์บูรณะ เข้าตรวจสอบหอพักในซอยประชาอุทิศ 33 ห้องเลขที่ 4 ชั้นล่างสุดของตัวอาคารดังกล่าว จากการตรวจสอบบริเวณด้านหลังห้องดังกล่าว พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาชื่อนายไพรวัลย์ อยู่ในสภาพยืนห้อยตัวอยู่กับเหล็กดัดด้านหลังห้อง
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยังหอพักที่เกิดเหตุ ในซอยประชาอุทิศ 33 โดยบรรยากาศหน้าห้องที่เกิดเหตุปิดประตูล็อกกุญแจเอาไว้ ซึ่งจะมีเสื้อผ้า ,เปลเด็กอ่อน,พัดลม และของใช้วางไว้ที่หน้าห้อง
ทีมข่าวได้เจอกับ นายเบิร์ด (นามสมมติ) อายุ 54 ปี เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถตรงข้ามกับหอพัก และเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อวานนี้ตอนประมาณ 2 ทุ่ม ตนเองได้ยินเสียง นายไพรวัลย์ ทะเลาะกับภรรยาที่หน้าหอพัก จากนั้นจึงเดินออกไปดู ปรากฎว่าเห็นนายไพรวัลย์ กำลังถือมีดวิ่งไล่ฟันภรรยาของเขาเข้าไปในหอพัก กระทั่งผ่านไปประมาณ 30 นาที ก็เห็นภรรยาของนายไพรวัลย์ หอบข้าวของพาลูกเดินออกไปขึ้นรถกับญาติ
จากนั้นประมาณเกือบๆจะ 3 ทุ่ม หลังจากภรรยาของนายไพรวัลย์ พาลูกหนีออกไปจากหอพัก ก็เห็นนายไพรวัลย์ ปั่นจักรยานออกไปตามหาภรรยา ไป - กลับ ไป - กลับ 2 - 3 รอบ ซึ่งรอบสุดท้าย ตนเองได้มีโอกาสได้ยืนคุยกับนายไพรวัลย์ แล้วก็เตือนเขาไปว่า อายุ 40 กว่าแล้วนะ ทำอะไรทำไมไม่คิดถึงลูก จากนั้นนายไพรวัลย์ ก็กลับเข้าห้องไปนอน กระทั่งเช้ามีคนไปพบศพ ยอมรับว่า ตกใจมาก เนื่องจากตนเองเป็นคนที่ได้เจอหน้ากับนายไพรวัลย์ เป็นคนสุดท้าย
พี่สาวคนตาย เล่าเหตุการณ์ก่อนน้องตัดสินใจฆ่าตัวตาย
ด้านนางแก้ว (นามสมมติ) อายุ 43 ปี เป็นพี่สาวของนายไพรวัลย์ ผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ก่อนที่น้องจะตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังจากที่เขาทะเลาะกับเมียของเขา ยืนยันว่าน้องชายตนเองปั่นจักรยาน มาหาตนเองที่บ้าน 2 - 3 รอบ ซึ่งในขณะที่น้องชายมาหา น้องชายก็ถามหาว่าเมียกับลูกมาหาพี่บ้างไหม ซึ่งตนเองก็ตอบไปว่าไม่ได้มา แต่น้องชายก็ไม่เชื่อ ปั่นจักรยานเข้าๆออกๆบ้าน กระทั่งรอบสุดท้าย ตนเองได้ขอให้น้องชายกลับห้องไปนอน แล้วก็บอกว่า ทำใจดีๆเดี๋ยวเมียกับลูกก็กลับมา ซึ่งน้องชายก็เชื่อ จากนั้นก็ปั่นจักรยานกลับไปนอน แต่ปรากฎว่า ประมาณเที่ยงคืน น้องชายได้โทรศัพท์มาหา ซึ่งเขาสั่งเสียฝากให้ดูแลลูก บอกว่า
"พี่ครับผมขอโทษนะ อโหสิกรรมให้ผมด้วย เมียผมไม่อยู่แล้ว ไม่รู้เมียผมไปไหน " จากนั้นก็วางสายไป ยอมรับว่าตอนนั้นก็เอะใจอยู่ แต่ไม่ได้ออกไปดู เนื่องจากตอนนั้นดึกแล้ว เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น วันพรุ่งนี้จะเดินทางไปร่วมพิธีศพน้องชายที่บ้านเกิดในจังหวัดมหาสารคาม
เปิดวงจรปิดผู้ตายปั่นจักรยานมาตามหาลูกเมีย
ส่วนภาพวงจรปิดที่บ้านของพี่สาวนายไพรวัลย์ จะเห็นว่า ก่อนที่นายไพรวัลย์ จะเข้าห้องไปผูกคอตาย นายไพรวัลย์ ได้ปั่นจักรยาน เข้ามาตามหาลูกกับเมียที่บ้านของพี่สาว ซึ่งในภาพจะเห็นและได้ยินเสียง นายไพรวัลย์ ถามพี่สาวว่า เลิกงานหรือยัง มันคุยกันนานหรือยัง จากนั้นเสียงก็เงียบไป เนื่องจากนายไพรวัลย์ เดินไปคุยกับพี่สาวที่หลังบ้าน
ส่วนวงจรปิดตัวที่ 2 จะเห็นว่าเมื่อนายไพรวัลย์ไม่เจอลูกกับเมีย นายไพรวัลย์ ได้พูดทิ้งท้ายกับพี่สาวว่า ไปแล้วกัน สองสามสี่ กระทั่งจะเห็นว่านายไพรวัลย์ ก็ได้ปั่นรถจักรยานออกไปจากบ้านพี่สาว ซึ่งจะเห็นว่าในมือของนายไพรวัลย์ ถือโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งภาพวงจรปิดที่เห็นจะเป็นภาพสุดท้ายของนายไพรวัลย์ ที่มาเจอกับพี่สาวของเขาก่อนจะตัดสินใจฆ่าตัวตาย
ลูกชายเปิดใจพ่อมาหาเป็นเงาดำๆช่วง ตี 2 - ตี 3
น้องก๊อป (นามสมมติ ) อายุ 13 ปี เป็นลูกชายคนที่ 2 ของผู้ตาย กล่าวว่า พ่อมาหาตอนช่วงประมาณตี 2 ตี 3 มาแบบเป็นเงาดำๆ ตอนแรกก็มีแบบว่าเป็นอะไรไม่รู้เดินรอบห้อง ได้ยินเขามาบอกว่าขอโทษ ตอนแรกตนก็บอกว่า เข้ามาทำอะไรเป็นใคร ต้องการอะไร เขาก็บอกขอโทษ แล้วตนก็เห็นหน้าพ่อแบบจางๆ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะมาผูกคอตายแบบนี้ ตอนที่เห็นเขารู้สึกแน่นหน้าอกอยากจะอาเจียร ไม่ค่อยจะเห็นเหตุการณ์แบบนี้แต่จะมีอยู่ครั้งนึงเมื่อตอนที่ตนป่วยอยู่โรงพยาบาลก็เคยเห็นแบบนี้เหมือนกันก็มีความรู้สึกเดียวกันคือแน่นหน้าอก จะอาเจียร ก็เลยคิดว่าตนน่าจะมีจิตสัมผัสกับเรื่องแบบนี้ และตอนนี้ก็ให้อภัยพ่อทุกอย่างเขาคิดได้แล้วก็ให้อภัยเขา