คนร้ายทำทีมาชื้อของก่อนกระชากสร้อยคอแม่ค้าร้านขายของชำ ขึ้นรถกระบะ ขับหลบหนี

จากกรณีที่คนร้ายเตะก้านคอเจ้าของร้านขายของชำ กระชากสร้อยคอทองคำที่อยู่คอเจ้าของร้านน้ำหน้ก 1 บาท ขึ้นระกระบะไม่ติดทะเบียน ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบอร์นทอง หลบหนีออกจากหมู่บ้านไป เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 20 ก.ย.66 ที่ผ่านมา

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ นางณิชา ผู้เสียหาย เล่าว่า ในช่วงเกิดเหตุที่คนร้ายทำทีมาชื้อของ ตนเองสังเกตว่าคนร้ายจะพยายามพูดจาน้อย ถามคำตอบคำ โดยเฉพาะครั้งที่ 2 ที่คนร้ายมาชื้อนมเปรี้ยว ช่วงนี้ตนเองสังเกตุเห็นคนร้าย ว่า หลังจากที่จ่ายเงินซื้อนมเปรี้ยวแล้วคนร้ายได้ไปยืนดื่มนมเปรี้ยวที่หน้าร้านจากนั้นก็หันมองซ้ายมองขวาในลักษณะเหมือนกับดูลาดเลา เพราะช่วงเวลานี้คนจะเยอะ เนื่องจากเป็นช่วงที่เด็กเลิกเรียน จนคนร้ายดื่มนมเปรี้ยวจนหมดขวด ได้เดินกลับมาที่ร้านและได้ทำทีขอชื้อเครื่องดื่มชูกำลัง โดยคนร้ายได้จ่ายค่าเครื่องดื่มเป็นเงินแบงค์10บาท โดยอ้างว่าพรุ่งนี้จะมาเอาคืน แต่ไม่นานก็เห็นคนร้ายกลับมาที่ร้านพร้อมกับยื่นแบงค์ 100 ให้ ซึ่งในระหว่างนั้นตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับคนร้าย โดยได้สอบถามว่า"ไหนบอกว่าพรุ่งนี้จะเอาเงินมาจ่ายให้" ซึ่งคนร้ายก็ได้ตอบกับตนเองไปว่า"พอดีตัดหญ้าอยู่แถวนี้" แต่ในระหว่างที่คุยกับคนร้ายตนเองสังเกตว่าหากคนร้ายมารับจ้างตัดหญ้า แต่ทำไมถึงไม่มีกลิ่นเหงื่อของคนที่ทำงานหนักประกอบกับตนเองก็ไม่เห็นอุปกรณ์ตัดหญ้าท้ายรถ ซึ่งตนเองเห็นแค่กระติกน้ำขนาดเล็กวางอยู่ตรงบริเวณที่วางเท้าฝั่งเบาะข้างคนขับเท่านั้น

นางณิชา ยังบอกอีกว่า ในช่วงที่คนร้ายวิ่งไปขึ้นรถ ซึ่งเป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่ตนเองไปกระชากประตูรถคนร้ายฝั่งข้างคนขับ ก่อนที่จะไปหยิบเอาแว่นตาและพาวเวอร์แบงค์ของคนร้ายภายในรถ ตนเองสังเกตเห็นว่าภายในรถของคนร้ายใหม่เอี่ยมอ่องเหมือนลักษณะเพิ่งล้างทำความสะอาดรถมาใหม่หรือรถเพิ่งจะชื้อมาใหม่เพราะดูลักษณะทั้งภายในและภายนอก เหมือนยังไม่ผ่านการใช้งาน

เปิดคลิปวินาทีคนร้ายขับรถผ่านเสียงล้อดังสนั่น ก่อนชิงทองป้า

ทีมข่าวช่อง 8 ได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณสี่แยกที่คนร้ายขับผ่านและเป็นสี่แยกเดียวกันกับประตูรถของคนร้ายเปิดออก โดยหลังจากที่คนร้ายรีบปิดประตูรถ ในคลิปจะได้ยินเสียงเบรคของรถยนต์ดังสนั่น ก่อนจะเห็นแค่บริเวณล้อรถยนต์ของคนร้ายขับผ่านหน้ากล้องวงจรปิดตัวนี้ไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งคนที่เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่าคือรถของคนร้ายที่กระชากสร้อยคอของผู้เสียหาย

ต่อมากล้องวงจรปิดอีกตัว ในช่วงเวลา 16.06น. สามารถจับภาพรถยนต์ต้องสงสัย ซึ่งตรงตามที่ผู้เสียหายให้ข้อมูลมาว่าคนร้ายขับรถกระบะสีบอนด์เงิน บริเวณที่จับเปิดประตูเป็นสีดำ ขับผ่านหน้ากล้องวงจรปิด ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับช่วงที่เกิดเหตุ โดยรถต้องสงสัยได้ขับมุ่งหน้าไปทางตัวอำเภอพล หลังจากนั้นกล้องวงจรปิดก็ไม่สามารถจับภาพรถต้องสงสัยได้อีก