"จุรินทร์" ขอบคุณ เสียงชื่นชมทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล จวกรัฐบาลไม่แจงที่มางบกระเป๋าเงินดิจิทัล-หลายนโยบายไม่ชัดเจน ยันจับมือ "ก้าวไกล" เป็นฝ่ายค้านได้ไร้ปัญหา

วันที่ 12 กันยายน 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงนโยบายอื่นๆ ที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาว่า ยังมีความคลุมเครือ ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย คำตอบหลายนโยบายยังไม่ตรงปก เช่น นโยบายค่าแรง นโยบายแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร นโยบายปริญญาตรี 25,000 บาท ซึ่งทั้งหมดนี้ยังขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่าถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะทำได้ตามลำดับ แต่ไม่ได้หมายความว่าทำอย่างไร ทำเมื่อไหร่ เหมือนที่พูดไว้ตอนหาเสียง รวมถึงนโยบายด้านการเกษตรที่ตนได้ถามว่าถ้าไม่ทำจำนำข้าวกับประกันรายได้เกษตรกร จะมีนโยบายอะไรที่เป็นรูปธรรมมาทดแทน ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน มีแค่พักหนี้เกษตรกร ซึ่งเหมือนเป็นแค่ยาแดง หนี้เกษตรกรก็ยังคงมีอยู่ ส่วนเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ก็มีคำตอบเพียงว่าจะไม่กู้ และจะไม่เอาเงินกองทุนต่างๆ มาใช้ รวมถึงเงินหลวงตาบัว จึงมีคำถามตามมาว่าจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ยังไม่มีความชัดเจน ก่อนย้ำว่า “ตนวิจารณ์ตามเนื้อผ้า เพราะทุกคนต้องการคำตอบ” และยังเหลืออีก 1 ทางคืองบประมาณ ตนเป็นถามในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อนพ้นจากรัฐบาลที่ผ่านมาว่างบประมาณปี 2567 จะเหลือให้รัฐบาลไปทำนโยบายได้เท่าไหร่ ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงบประมาณก็ตอบชัดว่าเหลือไม่เกิน 200,000 ล้านบาท และนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตใช้งบประมาณกว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าเอาก้อนที่เหลือมาใช้ทั้งหมดก็จะไม่เหลืองบประมาณไว้ทำนโยบาบอื่น อีกทั้งยังต้องหาเพิ่มอีกหลายแสนล้านบาท

"การที่ถาม ไม่ใช่ต้องการกดดัน เป็นสิทธิที่ประชาชนต้องรู้ เพราะตอนหาเสียงเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง ที่ต้องแจ้งนโยบายต่อ กกต. แต่ทำไมวันนี้ ตอบให้ชัดเจนไม่ได้ ผมก็ทวงถามแทนประชาชน ไม่ได้มีเจตนาอะไรพิสดารไปกว่านั้น ประชาชนควรมีสิทธิรับรู้"

ส่วนที่หลายฝ่ายออกมาชื่นชมการทำหน้าที่ของตนในนามฝ่ายค้านนั้น นายจุรินทร์ กล่าวขอบคุณ พร้อมบอกว่าตนมีหน้าที่อะไรก็ทำเต็มที่ สุดความสามารถเสมอ ตอนเป็นรัฐบาลก็คิดว่าเป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในรัฐบาลอย่างเต็มความสามารถ “เรารู้ว่ามีหน้าที่อะไร ต้องทำอะไร เมื่อมาเป็นฝ่ายค้าน ผมก็มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน ทวงถามหาคำตอบให้ประชาชน ยืนยันจะทำหน้าที่เต็มที่ ไม่ต้องกังวล ตนซื่อสัตย์ต่อการทำหน้าที่เสมอ ขอบคุณสำหรับการชื่นชม”

นายจุรินทร์ ยืนยันถึงการทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลว่าไม่มีปัญหา เป็นวิถีทางประชาธิปไตยตามระบบรัฐสภา พรรคการเมืองที่ไม่เป็นรัฐบาลก็ต้องมารวมกันเป็นฝ่ายค้าน ไม่สามารถเลือกได้เหมือนพรรคร่วมรัฐบาล แต่เราก็ต้องตระหนักว่าเมื่อมาเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องจับมือกันตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน ถ้าไม่จับมือกัน น้ำหนักการตรวจสอบก็จะหายไป และเมื่อน้ำหนักหายไป คนขาดทุนคือประชาชน “ไม่มีปัญหา ประชาธิปัตย์ตระหนักในภารกิจ และเชื่อว่าพรรคก้าวไกลก็เช่นกัน ทำงานร่วมกันได้ ยกเว้นจุดยืนบางเรื่องที่เคยพูดไปแล้ว”