จากกรณีเมื่อประมาณตี2 กลางดึกคืนวันที่ 27 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา 2 สามีภรรยา แม่ค้านมชาว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ขับรถกลับจากขายนม เพื่อกลับบ้านมาตามถนนสายดอยหล่อ-จอมทอง ได้เจอกับแก๊งวัยรุ่นมีทั้งผู้หญิงผู้ชาย แต่ละคนสวมเสื้อฮู้ด ใช้รถจยย.เป็นพาหนะ ประมาณ 10 กว่าคันแต่ละคนมีอาวุธทั้งมีดซามูไรท่อนเหล็และจอบ แถว ๆ ฝั่งตรงข้ามด่านชั่งน้ำหนักอ.ดอยหล่อ ด้วยความกลัวว่าจะถูกทำร้ายจึงหลบเข้าข้างทางก่อน

 

จากนั้นเมื่อแก๊งวัยรุ่นผ่านไป ทาง 2 สามีภรรยา จึงออกเดินทางกลับบ้านต่อ พอผ่านมาถึงบ้านหนองห่าย มีวัยรุ่น5-6คนโบกมือขอความช่วยเหลือ มีหนึ่งคนนอนเลือดอาบเพราะถูกยิง เห็นเป็นแผลถูกยิงที่ข้อมือ และอีกคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจทราบเหตุ เป็นช่วงจังหวะที่รถพยาบาลรพ.ดอยเต่าผ่านมาพอดี ได้ช่วยเหลือชายวัยรุ่น อายุ 15 ปีทั้งสองคนส่งรพ.จอมทอง และมีรถกระบะตอนเดียวตกอยู่ไหล่ทางมีไฟลุกท่วมไหม้หญ้าใกล้ๆกัน เด็กๆได้ช่วยกันหาน้ำมาดับไฟหวั่นไหลามมาไหม้รถ ในช่วงเวลาเดียวกันทางรถดับเพลิง อบต.ดอยหล่อ พร้อมด้วยกู้ภัย อบต.ดอยหล่อ กู้ชีพข่วงเปา กู้ชีพจอมทอง เข้าดับไฟที่ลุกไหม้ไว้ได้ทันก่อนไฟจะลุกลามไหม้รถกระบะ

 

เมื่อสอบถามกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่มาด้วยกันเป็นชาว อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน บอกว่ากลับเที่ยวงานมาเพื่อกลับบ้าน พอมาถึงบริเวณบ้านหนองห่าย ต.ข่วงเปา อ.จอมทอง เขตติดต่อ ต.ดอยหล่อ ได้มีแก๊งจยย.ไล่ติดตามมา ทันแล้วใช้อาวุธปืนวิงเข้าใส่รถกระบะที่พวกตนนั่งมากระสุนเข้าที่มือขวาเพื่อนคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บทำให้รถกระบะเสียหลักตกลงข้างทาง ด้วยความกลัวพวกตนได้ลงจากรถไปหลบซ่อนตัวในป่าละเมาะ ก็ถูกแก๊งวัยรุ่นขว้างระเบิดไม่ทราบชนิดเข้าใส่ในป่าแล้วเกิดไฟลุกท่วมไหม้ป่า ส่วนเพื่อนที่ถูกยิงที่บาดเจ็บอยู่ที่รถและขอความช่วยเหลือจาก 2 สามีภรรยาที่ผ่านมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเหตุ

 

โดยภาพวงจรปิดที่ทีมข่าวได้มา จะเห็นว่า กลุ่มของคนก่อเหตุได้ยกพวกนำโดยรถกระบะ 1 คันและมีแก๊งรถจักรยานยนต์ตามหลังมาอีก 16 คัน ขับเข้ามาตรงจุดนัดพบ ในเวลา 01.16 น. ซึ่งจะมีกล้องอีกมุมเห็นว่า แก๊งของคนก่อเหตุได้จอดรวมตัวกันที่หน้าโรงเรียน แต่พอไม่เจอฝั่งอริ ก็ได้มีการขับรถต่อไปข้างหน้าจากนั้นก็พากันขับรถวนมาอีกฝั่ง ซึ่งจะเห็นว่าในภาพยังมีรถกระบะนำรถจักรยานยนต์เหมือนเดิม

 

จนกระทั่งเมื่อกลุ่มของคนก่อเหตุขับรถผ่านไป จะเห็นว่าเมื่อกลุ่มคนเจ็บเข้ามาในจุดนัดพบ พวกเขามีการยกพวกประมาณ 30 คน วิ่งตามรถของคนก่อเหตุมาตรงหน้ากล้อง ซึ่งในภาพจะเห็นว่ากลุ่มของคนเจ็บมีอาวุธทั้งไม้และมีดอยู่ในมือ มีการโบกมือท้าย แต่ปรากฎว่า ไม่นานก็ต้องวิ่งหนี เนื่องจากกลุ่มคนก่อเหตุยกพวกกลับมา แต่ก็ไม่เจอกันอีกเพราะกลุ่มคนเจ็บขับรถหนีไปอีกซอย ซึ่งก็จะมีภาพอีกมุมที่จะเห็นว่า ก่อนที่กลุ่มของคนก่อเหตุจะขับรถไปตามล่ากลุ่มคนเจ็บ คนบนรถกระบะได้มีการปาระเบิดลงพื้น 1 ลูก จากนั้นก็ขับไปตามทางเพื่อไปดักรอกลุ่มคนเจ็บตรงสี่แยก

 

ซึ่งวงจรปิดตัวถัดไป จะเป็นวงจรปิดที่อยู่ตรงไฟแดง โดยจะเห็นว่า เมื่อกระบะของคนเจ็บขับผ่านไปยังแยกไฟแดง กลุ่มคนก่อเหตุที่อยู่อีกฝั่งได้ขับรถตามแล้วก็มีบางช่วงบางตอนที่ปาระเบิดลงบนถนน ซึ่งเมื่อพ้นกล้องไปแล้ว จะเป็นเหตุการณ์ที่รถคนเจ็บถูกยิงจนตกข้างทาง

 

ล่าสุดวันนี้ (28 ส.ค.66) เวลา 09.30 น. มีทาง พล.ต.ต. ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าทางคดี ที่ สภ.จอมทอง และมีการเรียกตำรวจทุกนายที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากนั้นทางผู้การฯได้มีการเดินไปตรวจสอบรถของกลางตามภาพในวงจรปิดที่ช่อง 8 ได้ภาพวงจรปิดมาเมื่อวานนี้ คือ 1. รถกระบะยี่ห้อวีโก้ สีบรอนซ์ทอง 1 คัน และ 2. คือรถจักรยานยนต์จำนวน 5 คัน

 

หลังจากนั้นทาง พ.ต.อ. ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ. จอมทอง ก็ได้มีการนำตัว นายชยังกูร หรือนายโอเว่น อายุ 20 ปี ผู้ก่อเหตุที่เป็นคนยิง ออกจากห้องขังเพื่อไปชี้จุดจำลองเหตุการณ์ตรงรถของกลางที่จอดเอาไว้ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งบรรยากาศในการคุมตัวออกไปชี้จุด ระหว่างทางนายชยังกูร หรือโอเว่น มีสีหน้ายิ้มแย้ม พูดคุยหยอกล้อกับตำรวจ และให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี

 

ซึ่งวันนี้ในการชี้จุด นายชยังกูร หรือโอเว่น ให้การกับทางผู้กำกับว่า ก่อนจะก่อเหตุนั่งมาบนท้ายกระบะ กระทั่งเมื่อไล่ตามรถของคนเจ็บจนตกข้างทาง เจ้าตัวได้มีการลงมาจากรถ ซึ่งจุดที่ยืนอยู่ก่อนก่อเหตุ ห่างจากท้ายกระบะประมาณ 1 เมตร จากนั้นก็ยืนยิงใส่กลุ่มของคนเจ็บ ที่กำลังวิ่งหนีโดยที่ไม่ได้เล็งปืนไปที่ใคร จำนวน 1 นัด ซึ่งวันนี้ก่อนจะมีการนำตัวไปเข้าห้องขัง ทางผู้กำกับได้ทำความเข้าใจกับนายชยังกูร หรือโอนเว่น ในลักษณะขอบคุณที่กล้าทำกล้ารับว่าเป็นคนยิง หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่กระบวนการของกฏหมายโดยจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นและเรื่องของอาวุธปืนที่นำมาใช้ในการก่อเหตุ

 

ขณะเดียวกันในระหว่างที่ตำรวจกำลังนำตัวโอเว่น กลับไปเข้าห้องขัง ทีมข่าวก็ได้มีการสอบสวนถึงปมเหตุที่เกิดขึ้น โดยนายชยังกูร หรือโอเว่น เปิดใจกับทีมข่าวว่า ปมเหตุมีเรื่องเดียวคือเรื่องที่นายเบ็คแฮม ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งฝั่งคนเจ็บ เคยพูด เหยียดหยามในเรื่องความเป็นชาติพันธ์กับกลุ่มของตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีผู้นำชุมชนเคลียร์ปัญหาดังกล่าวไปแล้ว 1 ครั้ง แต่กลุ่มของนายเบ็คแฮม ไม่ยอมจบ วันเกิดเหตุก็เลยมีการนัดไปเจอกัน ยืนยันตอนก่อเหตุยิงมั่วเข้าไปโดยไม่ได้เจาะจงยิงใคร ส่วนเรื่องระเบิดที่เห็นมีการปากันตามวงจรปิดที่ช่อง 8 ได้ภาพมา ไม่รู้ใครเป็นคนปา เพราะตนเองมีอาวุธติดตัวไปคือปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก็เลยไม่ได้สังเกตว่าใครเป็นคนปาระเบิด ขอโทษครอบครัวคนเจ็บ ยืนยันรู้ว่าคนเจ็บเป็นเยาวชน ที่ไปก่อเหตุตั้งใจจะไปเคลียร์กับเบ็คแฮมคนเดียวเท่านั้น หากน้องหายจากอาการบาดเจ็บ ก็ขอให้ผู้ปกครองดูแลน้องให้ดี

 

ส่วนนายโจ เพื่อนๆของกลุ่มผู้บาดเจ็บที่เราเจอในวันนี้ บอกว่า เมื่อคืนนี้ไม่ได้ไปด้วยตอนเกิดเหตุ แต่ก่อนจะเกิดเหตุรวมตัวไปเที่ยวงานกัน แล้วก็ไม่รู้ว่าเพื่อนๆที่กลับบ้านทีหลังไป เขม่นกับกลุ่มคนก่อเหตุตอนไหน ซึ่งปกติหากไม่มีงานประจำปี กลุ่มของตนเองก็จะไม่ออกมาขับรถเล่นในตอนกลางคืน ยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยไปมีเรื่องกับฝั่งคนก่อเหตุมาก่อน

 

โดยวันนี้ พล.ต.ต. ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว. เชียงใหม่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการสอบสวนเป็นการก่อเหตุของกลุ่มวัยรุ่นสองกลุ่มที่มีนัดไปเจอกันเพื่อเคลียร์ปัญหาที่เคยมีกันมาก่อนหน้านี้ ซึ่งคดีนี้ ทางตำรวจต้องแบ่งแยกการสอบปากคำออกเป็นหลายส่วนเนื่องจาก ในกลุ่มวัยรุ่นสองกลุ่มมีเยาวชนหลายคนรวมอยู่ด้วย ซึ่งกลุ่มของคนเจ็บก็ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธและก่อกวนสร้างความรำคาญวุ่นวายให้กับชาวบ้านในทางสาธารณะเช่นเดียวกัน

 

ส่วนการสอบสวนเรื่องของปัญหาที่เคยมีความบาดหมางกันก่อนหน้านี้ เท่าที่ทราบ ทั้งสองกลุ่มพยายามนัดเพื่อนเคลียร์กันหลายครั้งแต่ก็ตกลงกันไม่ได้ ในวันเกิดเหตุเมื่อเจอกันที่งานประจำปี จึงมีการนัดหมายไปเจอกันในที่เกิดเหตุแล้วก็เกิดเหตุยิงกันทำให้มีเยาวชนจำนวน 1 คนได้รับบาดเจ็บ

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางตำรวจก็จะกวดขันเข้มงวดเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยการขอความร่วมไปทางผู้นำชุมชนเพื่อป้องกันดูแลไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นหลายๆกลุ่มในพื้นที่ออกมาอาละวาดเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

รวบแก๊ง โอเว่น ใส่เสื้อฮู้ดล่าอริ ยิงล้างแค้นคนปากแจ๋วเหยียดชาติเกิด