นักศึกษายืมโน๊ตบุ๊กไม่ยอมคืนสักที ก่อนรู้ความจริงน้ำตาไหล ถูกหอพักล็อกห้อง และมีเงินติดตัวแค่ 9 บาท

24 ส.ค. 66 กลายเป็นเรื่องราวสะเทือนใจเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องไปตามทวงโน๊ตบุ๊กจากนักศึกษาก่อนจะได้รับคำตอบที่ไม่คืนโน๊ตบุ๊กกับทางมหาวิทยาลัยเพราะห้องพักโดนยึด และมีเงินติดตัวอยู่ 9 บาท

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า “เคสนี้คือ พลิกล็อกมาก”

เริ่มต้นเรื่องคือ ต้องติดตามโน้ตบุ๊กกับเด็กที่ยืมไปใช้แล้วส่งคืนล่าช้า แต่เคสนี้คือน้องอ่ะ ไม่นำมาคืนสักทีเราเลยติดต่อไป ทีแรกติดต่อไม่ได้เลย จนเราหาเบอร์น้องได้ เมื่อโทรไปเราก็คุยกับเด็ก

ซึ่งได้ถามไปว่า “น.ศ.ส่งเครื่องล่าช้านะครับ ติดปัญหาอะไรไหม?” ทางนักศึกษาได้ให้คำตอบที่เขาไปไม่เป็นว่า “พี่ครับ ผมอยากเอาคอมพ์ไปคืนอยู่ครับแต่ผมโดนหอพักยึดห้อง ล็อกห้องเข้าไปเอาของไม่ได้โน้ตบุ๊กก็อยู่ในนั้นครับ”

สำหรับผม ตอนนั้นคือ เด็กโกหกปะวะ เพราะมีเคสส่งคืนช้าและเด็กชอบอ้างนู้นอ้างนี้เยอะ เคสนี้ก็คงจะโกหกเพื่อเอาตัวรอดอีกมั้ง

โอเค งั้นพี่ขอเบอร์หอพักเราได้ไหม พี่จะขอคุยกับเจ้าของเอง

น้องก็ให้เบอร์นะ แล้วผมก็ติดต่อไป คือสิ่งที่น้องพูดคือความจริง น้องไม่ได้จ่ายค่าหอพักแล้วเขายึดของน้องจริงๆๆ เราก็โทรกลับไปหาน้องใหม่อีกครั้ง เพื่อให้น้องช่วยเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้พี่ฟังได้ เผื่อพี่จะช่วยอะไรได้บ้าง

โดยนักศึกษาคนนี้ได้เล่าเรื่องราวในชีวิตว่า คือผมอ่ะ ไม่มีบ้านครับ ผมย้ายถิ่นฐานตั้งแต่เล็กจนโต ย้ายไปที่ไหน แม่ก็จะพาไปอาศัยอยู่กับญาติ ประมาณ ม.2 ผมก็ได้ย้ายมาอยู่ที่ขอนแก่นนี้และครับ แล้วผมก็พักอยู่กับพี่ชาย ผมเลยคิดว่าหอที่ผมอยู่คือบ้านครับ (น้ำตาไหลเลย) ม.ปลาย ผมก็ยืมทุน กยศ. เรียนจนจบ แล้วก็ มาต่อ มข.นี้และครับ

และคิดว่าจะยืม กยศ ต่อ ป.ตรี แต่ผมก็กู้ไม่ผ่าน เพราะช่วงเวลานั้นเขาปรับเปลี่ยนหลักสูตร เลยไม่เข้าเงื่อนไข ตอนนี้ผมเลยรักษาสภาพไว้ แล้วเลือกทำงานเก็บตังค์ค่อยยจะกลับไปเรียนต่อครับ

ซึ่งเขาถามนักศึกษาเพิ่มเติมว่า แล้วแม่กับพ่อละ ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเราเลยเหรอ

“แม่ก็ช่วยบ้างครับ ส่วนพ่อแยกทางกับแม่ตั้งแต่ผมเด็ก ล่าสุดผมได้ข่าวมา พ่อน่าจะเสียชีวิตเมื่อ 2 ปีที่แล้ว (น้ำตาไหลอีกรอบ) แล้วตอนนี้ก็ติดต่อแม่ไม่ได้ครึ่งปีครับ”

นอกจากนี้ เขาได้ถามนักศึกษาอีกครั้ง ว่า แล้วตอนนี้เราพักที่ไหน เงินละใครช่วยเหลือ พี่ชายเหรอ

“ผมทำงานพิเศษ หาเงินเองครับ พี่ชายก็ช่วยได้บ้างแต่ไม่ได้มากมาย ที่พักผมขอพักกับเพื่อน แล้วก็ย้ายไปเรื่อยๆ ครับไม่มีที่พักเป็นหลัก”

ส่วนที่บอกว่าอยู่กับญาตินั้น ตั้งแต่แม่ไม่ได้ช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่าย เขาก็ไม่ให้อยู่ด้วยครับ ผมเลยต้องมาขอเพื่อนๆ อยู่

โดยคนโพสต์ได้บอกนักศึกษาคนนั้นว่า เอายังงี้ พรุ่งนี้เข้ามาหาพี่ พี่จะปรึกษากับหน่วยงาน ใน มข. ที่พอจะช่วยได้ให้

วันนี้เด็กเข้ามา แล้วก็เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟังแบบละเอียดยิ่งน่าสงสาร น้ำตาไหลแบบ ชีวิตน้องแบบผ่านอะไรมาบ้างเนี่ย ซึ่งเขาถามนักศึกษาว่า ตอนนี้เรามีเงินติดตัวกี่บาท ได้กินข้าวหรือยัง

“ผมมีอยู่ 9 บาทครับ ยังไม่ได้กินข้าวครับวันนี้ ปกติจะไปกินที่ร้าน หลังเลิกงานผู้จัดการจะให้ทริปกินข้าว”

แล้วผมก็พาน้องไปติดต่อที่ต่างๆ ทั่ว มข.

น้องเรียนคณะวิทย์ เอกคณิตศาสตร์ ตอนนี้รักษาสภาพนักศึกษาไว้ เพราะไม่มีเงิน และกำลังทำงานพิเศษ อยู่ร้านไอติมบนห้าง รายได้น่าจะประมาณเดือนละ 8,000-9,000 บาท

แต่น้องเพิ่งทำงานได้เดือนแรก เงินเดือนก็ยังไม่ออก นิสัยโดยรวม เงียบ พูดน้อย มารยาทดี

ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ พี่เรียมหอสมุดที่ช่วยประสานงานเรื่องต่างๆ ให้ ขอบคุณพี่สุธีฝ่ายกฎหมาย มข. ที่แนะนำแนวทางการขอทุนการศึกษาต่างๆ ขอบคุณพี่สมพร ฝ่ายพัฒนานักศึกษา มข. ที่เดินเรื่องขอที่พักหอในให้และช่วยเหลือเรื่องขอทุนการศึกษา และขอบคุณพี่เหมียวฝ่ายพัฒคณะวิทย์ที่รับเรื่องต่อ ดูแล น.ศ.เคสนี้

ถ้าได้เรื่องยังไง เดียวมาอัพเดตให้ฟัง

“ขอให้น้องผ่านช่วงเวลานี้และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแกร่ง ต้นทุนชีวิตเราไม่เหมือนกัน พี่ขอเอาใจช่วยนะ และจะค่อยติดตามเคสน้องให้”

ล่าสุดทางผู้ใช้เฟซบุ๊กคนนี้ ได้อัพเดตการช่วยเหลือนักศึกษาคนนี้ว่า

“ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ ช่วยกันแชร์ ติดต่อเข้ามาให้ทุนการศึกษาและขอช่องทางการรับบริจากของให้น้องนะครับ

เบื้องต้น วันนี้ช่วงเวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง ทางคณะวิทย์ นัดน้องเข้ามาคุยรายละเอียดต่างๆ ครับ

ส่วนเรื่องข้อมูลส่วนตัวน้อง ผมจะต้องขออนุญาตน้องก่อน ว่าสามารถเปิดเผยได้มากน้อยเพียงใด น้องยินดีที่จะให้ข้อมูลไหม? อีกอย่างน้องทำงานอยู่นะครับไม่อยากโทรไปรบกวน รอคุยกับน้องช่วงบ่ายทีเดียวเลยครับ

ขอโทษด้วยนะครับที่ผมไม่สามารถตอบแชตได้หมด ผมทำงานอยู่ครับ ต้องขอโทษจริงๆ ถ้าได้ข้อสรุปกับทางคณะยังไง ผมจะรีบแจ้งอัพเดตให้อีกทีนะครับ ขอบคุณแทนน้องด้วยนะครับ ขอบคุณทุกๆ คนจริงๆ จากใจครับ”