วันนอร์​ แจงปิดประชุมรัฐสภาฯวานนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุด​ ยัน​ไม่ได้เอื้อฝ่ายใด โว​อยู่สภาฯมา​ 40 ปี​ ไม่เคยนำมติเก่ามาทบทวน​

5 ส.ค. 66 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา​ ประธานรัฐสภา​ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ที่อินโดนีเซีย ถึงประเด็นรีบปิดประชุมรัฐสภาเมื่อวานนี้(4 ส.ค.) พร้อมสั่งเลื่อนการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ในการตัดอำนาจ สว. ที่พรรคก้าวไกล เสนอ ว่า​ จากที่มีบุคคล บางฝ่ายกล่าวหาและให้สัมภาษณ์ว่าประธานรัฐสภารีบปิดประชุมเพื่อไม่ให้มีการอภิปราย การเสนอแก้ไขมาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์สว.​นั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง​เพราะการเปิดประชุมรัฐสภาเมื่อวานนี้มีวาระอยู่​ 2 เรื่อง​ คือการเลือกนายกรัฐมนตรี​ตามข้อบังคับที่​ 41 ในเสนอญัตติซ้ำ ที่ไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ​ เพราะจะมีการพิจารณาในประเด็นดังกล่าวในวันที่​16 สิงหาคมนี้​

พร้อมยืนยันว่า​ ตนตั้งใจให้มีการอภิปรายอย่างเต็มที่​ และพยายามถามหลายครั้ง ว่าหากเลื่อนวาระ 2 มาพิจารณาก่อนวาระที่ 1​ รัฐสภามีความพร้อมที่จะพิจารณา​หรือไม่​ แต่ปรากฎว่าระหว่างเลื่อนการพิจารณามาตรา​ 272 ขึ้นมา​นายรังสิมันต์​ โรม​ สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้เสนอญัตติด่วน ขอให้ทบทวนมติ ที่รัฐสภาได้มีการพิจารณาไปเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ในการเสนอชื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี​ ซึ่งได้มีการพิจารณาซึ่งเป็นไปตามมาตรา 151 แล้ว และมีมติไม่ให้มีการเสนอญัตติซ้ำ​ รวมไปถึงในมาตรา 151 วรรคแรก ก็ระบุไว้ว่าถ้าการลงมติถือว่าเด็ดขาด ฉะนั้นจะทบทวนมติที่เด็ดขาดไปแล้ว ตนและสมาชิกอีกหลายคนก็เข้าใจว่าจะกระทำไม่ได้ เพราะอยู่ในสมัยประชุมสภาเดียวกัน และเหตุการณ์ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง การจะขอให้ทบทวนเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเดียวกัน​ ซึ่งอยู่ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา ซึ่งตนมองว่า​ ทั้งหมดมีความเชื่อมโยงในประเด็นเดียวกัน​ ซึ่งที่ผ่านมาหากเรื่องอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล​ สภาฯจะยังไม่พิจารณาในเรื่องนั้น​เพราะเป็นการใช้อำนาจของศาล​ และมาตรา​ 211 เขียนไว้ชัดเจนว่า คำวินิจฉัยและคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นเด็ดขาด และมีผลผูกพันกับรัฐสภา​ คณะรัฐมนตรี และองค์กรอิสระทุกองค์กร เพราะฉะนั้นการที่เราจะตัดหน้าพิจารณาในวันที่ 4 สิงหาคม ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดวันพิจารณาไว้แล้ว​ จะเป็นการกระทำที่มีชอบ​ เพราะอาจย้อนแย้งกับศาลรัฐธรรมนูญ​กำลังพิจารณาในเรื่องเดียวกัน​ และหากวานนี้มีการลงมติในประเด็นดังกล่าวสวนทางกับศาลรัฐธรรมนูญ​ ขอให้ลองคิดดูว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นกับใคร​

ซึ่ง​ หากมีการรอถึงวันที่ 16 สิงหาคม และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาจบแล้ว ก็สามารถนำเรื่องที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาอีกครั้งได้

"เราไม่สามารถรู้ได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญ​วินิจฉัย​อย่างไร​ เหตุผลอะไรที่เราต้องทำ​ ผมไม่สามารถบอก​ได้​ แต่ในฐานะประธาน​สภาฯ​ ซึ่ง เป็นผู้นำขององค์กรคือรัฐสภา เราไม่สามารถนำองค์กรของเราให้มีปัญหา กับองค์กรซึ่งจะตัดสินเรา​ เราพร้อมที่จะทำตามสมาชิก​ ถ้าหากข้อเสนอนั้นเป็นข้อเสนอที่ไม่ไปย้อนแย้ง​ เพราะมันจะทำให้ความเชื่อถือลดลง"

นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวว่า​ ตนขออภัย​ ไม่ได้รีบปิดหนีเพื่อไม่ให้อภิปรายการแก้ไขมาตรา​ 272 พร้อมระบุว่าที่มีการรอเวลาเกือบชั่วโมงก็เพื่อให้สมาชิกครบและเริ่มการประชุม และเลื่อนวาระการพิจารณาแก้ไขมาตรา 272 ซึ่งสมาชิกหลายคนต้องการอภิปราย พร้อมยืนยันว่าตนอยากให้อภิปรายอย่างเต็มที่ แต่สมาชิกไม่ยอมที่จะเลื่อนเรื่องนี้มาพิจารณา และไม่ได้เอาเรื่องเร่งด่วนที่อยู่ในวาระซึ่งก็มีสิทธิ์เสนอได้​ แต่การที่จะมาทบทวนมติเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมของรัฐสภา ที่มีความเด็ดขาดไปแล้วตั้งแต่การพิจารณาครั้งนั้น

"ผมไม่ได้ปฏิบัติ​เพื่อฝ่ายใด หรือกีดกันเพื่อฝ่ายใด ไม่เช่นนั้นจะรอถึงชั่วโมงหรือ เพราะถ้าสมาชิกรัฐสภาไม่ครบแค่ครึ่งชั่วโมงก็สามารถเลิกประชุมได้"

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเวลาในการประชุมรัฐสภายังเหลือแต่กลับเร่งเพื่อปิดประชุมสภา กลับไม่มีการลงมติเพื่อเลื่อนการพิจารณาวาระ 2 ว่า​ เนื่องจากสมาชิกยังมีการถกเถียง และยังคงเดินหน้าเรื่องที่ยังอยู่ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา

ส่วนจะต้องมีการทำความเข้าใจกับสส.พรรคก้าวไกล​หรือไม่​ นายวันนอร์ระบุว่าเปิดสภาเมื่อไหร่ก็สามารถนำญัตติของนายรังสิมันต์ มาพิจารณาได้ รวมถึงญัตติของวุฒิสภา​

พร้อมยืนยันว่า “ตนอยู่ในสภามา 40 ปีไม่เคยมีการทบทวน มติที่รัฐสภาเคยลงมติไปแล้ว โดยไม่มีเหตุผล เพราะยิ่งทวนยิ่งไม่สง่างาม​ และเรื่องดังกล่าวก็เป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณา หากปล่อยไปมันก็จะเกิดความเสียหาย​ พร้อมย้ำว่า​ การปิดประชุมสภาเมื่อวานนี้ถือเป็นทางออกที่ดีของที่ดีสุดของบ้านเมือง​ ยืนยันตนไม่ได้หนี”

ทั้งนี้หากศาลมีการพิจารณาในวันที่ 16 สิงหาคมแล้วในวันที่ 17 สิงหาคมจะสามารถเปิดการประชุมได้เลยหรือไม่ นายวรรณโนระบุว่าวันที่ 17 อาจจะยังไม่มีความชัดเจน แต่จะทำให้เร็วที่สุด ภายใน 3 วันตามที่มีการกำหนดไว้​

ส่วนที่บอกว่าการทำหน้าที่ของประธานสภาได้ไม่สง่างาม​นั้น ตนคิดว่าถ้ามีมติออกมาสภาจะไม่สง่างาม​ เพราะต้องทบทวนตัวเองหลายรอบ​ ครั้งนี้ผู้ตรวจการ​แผ่นดิน​ก็ให้ทบทวน​ ตนต้องรักษาภาพลักษณ์​ของสภาฯ​ ยืนยันว่า​ ไม่มีหนี​ ไม่มีเหตุผลใดๆ​ อย่ามองว่า ประธานไม่ต้องการให้พิจารณามาตรา 272 มันไม่ใช่ข้อเท็จจริง​ ข้อปฏิบัติทั้งหลายยืนยันได้ชัดเจนว่าประธานต้องการให้อภิปราย แต่สมาชิกไม่อยากอภิปราย