จากกรณีคนร้าย ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จากจังหวัดตรัง บุกทวงหนี้ นายทนงศักดิ์ อายุ 39 ปี พ่อค้ารับซื้อทุเรียน แต่ตกลงกันไม่ได้ ก่อนรุมทำร้ายและใช้ปืนยิงนายทนงศักดิ์เสียชีวิต ต่อหน้าเมียและลูก ก่อนคนร้ายจะขับรถหลบหนีไป เหตุเกิดที่บ้านพักของนายทนงศักดิ์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี

จากนั้นตำรวจขอศาลออกหมายจับ 5 คน โดยจับตัวนายจีระศักดิ์ ได้แล้ว ซึ่งเป็นคนขับรถ

ทีมข่าวช่อง8 ได้ภาพกล้องวงจรปิด เวลา 09.39 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุขับรถฟอจูนเนอร์สีแดงเข้ามาบ้านผู้เสียชีวิต 09.39 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุ ชายและหญิงเดินลงจากรถ เพื่อไปคุยกับผู้ตายที่ห้องโถงหลังบ้าน

เวลา 09.50 น. เป็นต้นไป จับภาพกลุ่มผู้ก่อเหตุ เข้าไปพูดคุยกับผู้ตายที่ด้านหลังบ้าน โดยจะมีผู้ก่อเหตุชายและหญิง ที่เจรจากับคนตาย จับใจความได้ว่าเป็นการทวงหนี้ และเรื่องการทำธุรกิจเหมาทุเรียน ก่อนที่ฝั่งคนตายจะพูดทำนองว่า "ยังไม่มีเงิน"

เวลา 09.51 ได้ยินเสียงนายทนงค์ศักดิ์ ผู้ตาย พูดชึ้นมาว่า "อย่าชี้หน้ากูนะ" จากนั้นเวลา 09.51 กลุ่มผู้ก่อเหตุ และกลุ่มผู้ตาย มีการต่อยกัน ฉุดกระชากกันชุลมุน

เวลา 09.51 เห็นภาพชายคนหนึ่ง เอาปืนออกมา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนตาย ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุบางส่วน จะวิ่งออกจากจุดเกิดเหตุไป จากนั้นเวลา 09.51น. ผู้ก่อเหตุ เป็นชาย 1 ราย ที่ยืนอยู่ข้างโอ่งน้ำ ได้ยิงปืนสวนมาใส่ผู้ตายจำนวน 4 นัด

เวลา 09.52 น. ชายมือยิงคนดังกล่าว ได้วิ่งออกจากจุดเกิดเหตุเพื่อไปขึ้นรถหลบหนี

เวลา 09.52 น. ภรรยาผู้ตาย เดินออกมาจากบ้าน แล้วโทรแจ้งตำรวจ

ทีมข่าวช่อง 8 ได้มาพูดคุยกับนางกฤติยา อายุ 34 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าว่า กรณีช่วงเช้าวันนี้ที่ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย ตัวเองก็รู้สึกพอใจ ที่คดีมีความคืบหน้า และตำรวจก็รู้ตัวคนร้ายแล้ว แต่ก็อยากให้ตำรวจจับผู้ต้องหาทั้งหมดให้ได้โดยเร็วที่สุด

ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 5 รายนั้น ตัวเองก็ไม่รู้จักกับพวกเขามาก่อน ส่วนในกล้องวงจรปิดตอนเกิดเหตุ ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุมีการทวงเงินกับสามีนั้น ตัวเองก็ไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นเงินค่าอะไร ยอมรับว่า ช่วงระยะหลังมานี้ ตัวเองสังเกตเห็นสามีออกไปคุยโทรศัพท์กับใครบางคน โดยเดินไปคุยนอกบ้าน เท่าที่ได้ยินเสียงก็เห็นว่า มีคนโทรศัพท์มาทวงเงินกับสามี ขู่ให้สามีหาเงินไปให้ อยู่บ่อยครั้ง และสามีก็เคยบ่นกับตัวเองก่อนเกิดเหตุว่า หาเงินส่งไม่ทัน พร้อมกับมีสีหน้าเคร่งเครียด แต่ตัวเองก็ไม่ทราบว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินอะไร เพราะสามีไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟัง

นอกจากนี้ นางสาวกฤติยา ยังบอกทีมข่าวอีกว่า เมื่อคืนนี้ขณะตัวเองนอนอยู่ในห้องนอน ก็ได้ยินเสียงสามีไอ แค่กๆอยู่ในห้อง ซึ่งปกติสามีจะนอนอยู่ห้องเดียวกันกับตัวเอง แล้วเขาก็จะชอบไอ ทำให้ตัวเองติดว่าเมื่อคืนนี้สามีอาจห่วงตัวเองและลูก เขาจึงมาหาตัวเองที่บ้าน ซึ่งก็ได้บอกสามีไปว่า พี่ไม่ต้องห่วงหนูและลูก ขอให้พี่ไปสบายนะ โดยตอนสามีเสียชีวิต เขาก็ตายตาค้าง จึงคิดว่าเขาน่าจะเป็นห่วงตัวเองมากๆ

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่อง8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม ซึ่งจับภาพรถของนายจีระศักดิ์ 1ในคนร้าย พลิกคว่ำ พบผู้ต้องหา 2 ราย เดินออกมาจากรถ ก่อนมีกระบะดำถอยมารับ คาดเป็นพลเมืองดีที่อาจนำส่งโรงพยาบาล

เวลา 10.21 น. หลังรถกระบะขาวของกลุ่มผู้ต้องหาคว่ำ จะเห็นวินาทีรถกระบะดำ คาดว่าเป็นพลเมืองดีขับมาเห็นเหตุการณ์พอดี จากนั้นรถกระบะดำ ก็ถอยรถมาบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ

ต่อมาเวลา 10.22 น. จับภาพผู้ต้องหา 2 รายเดินออกมาจากรถ จากนั้นทั้ง 2 ก็เดินอยู่แถวๆนั้น ส่วนนายจีระศักดิ์ ผู้ต้องหาอีก 1 ราย น่าจะนอนบาดเจ็บอยู่ในรถ

ต่อมาเวลา 10.22 น. ผู้ต้องหา 2 ราย วิ่งไปขอความช่วยเหลือกับรถกระบะดำ ก่อนที่จะนั่งท้ายกระบะมากับรถคันดังกล่าว

เวลา 10.25 น. รถกระบะดำ ได้ขับออกจากจุดเกิดเหตุ แล้วยูเทิร์นรถกลับ มุ่งหน้า อำเภอท่าฉางต่อไป


ช่วงบ่ายวันนี้ ตำรวจนำตัวนายจีระศักดิ์ หนึ่งในผู้ต้องหามาสอบปากคำ ซึ่งหลังจากสอบปากคำเสร็จ เจ้าตัวได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตัวเองขอยืนยันว่าพวกตัวเองไม่ได้มีการวางแผนไปฆ่านายทนงค์ศักดิ์ ซึ่งวันเกิดเหตุ ซ้อแฟง และสามีได้ชวนพวกตัวเองไปทวงหนี้ค่าทุเรียนกับคนตาย ซึ่งคนตายเป็นหนี้ซ้อแฟง ที้งหมด 3 ล้านบาท แต่จู่ๆคนตายก็ชักปืนขึ้นมาก่อน ตอนนั้นตัวเองยังวิ่งหลบหนีออกมาพร้อมกับญาติผู้ตายอยู่เลย ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้นมาตามหลัง 4 นัด ซึ่งตัวเองขอยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด

ส่วนเพื่ออีก 2 คน ที่นั่งมาในรถ ได้โบกกระบะสีดำหลบหนีไป

ล่า "ซ้อแฟง" สั่งตายหนุ่มสวนทุเรียน 6 รุม 1 ดวลปืนเดือด พลเมืองดีซวยเผลอช่วยมือปืนหนี