จากกรณี “กัน จอมพลัง” ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกชายคนโตรายหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังแม่ของตัวเอง ถูกน้องชายแท้ๆ ลูกชายคนกลาง ก่อเหตุ ปลอมตัวเป็นโจร บุกเข้าบ้านของผู้เป็นแม่ โดยร่วมกับน้องสะใภ้ แฟนสาวน้องชาย ก่อเหตุทำร้ายร่างกายแม่ทั้งมัดมือมัดเท้า เอาผ้าปิดตา ก่อนเอาสากกะเบือฟาดหัวและท้ายทอยผู้เป็นแม่จนเกือบตาย โดยชิงทองคำ 3 สลึง , เงินสด 3,000 บาท และโทรศัพท์ 1 เครื่อง หลังก่อเหตุเสร็จ สะใภ้จะใช้มีดแทงแม่ซ้ำ แต่แม่ยกมือไหว้ร้องขอชีวิตไว้ก่อนจึงรอดตายมาได้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า ของวันที่ 16 กรกฎาคม 2566

และนาทีที่แม่มั่นใจว่า คนร้ายนั้นคือ ลูกชายตัวเอง ก็คือ ระหว่างแม่ยื้อแย่งมีด คนร้ายได้หลุดพูดออกมาคำหนึ่งว่า “ปล่อย” ซึ่งเป็นเสียงผู้ชาย ซึ่งแม่จำเสียงนายปอนด์ ลูกชายคนกลางของตัวเองได้ 1,000 %

หลังเกิดเหตุได้รีบแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านโป่งทันที ซึ่งในตอนแรก แม่พยายามจะปกปิดไม่ยอมบอกว่า คนร้ายที่เห็นคือใคร และตำรวจมาสอบปากคำแม่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้น วันที่ 14 กรกฎาคม นายปอนด์ ก็ยังตีเนียน เล่นละคร ทำทีมาเยี่ยมแม่ เมื่อแม่ฟื้นขึ้นมาก็เห็นนายปอนด์ นั่งอยู่ข้างเตียงจ้องหน้าแม่อยู่ ซึ่งขณะนั้นแม่บอกกับตนเองภายหลังว่า ตกใจมาก เพราะปอนด์ มาถามอาการว่า แม่เป็นยังไงบ้าง

แต่ตอนนั้นตำรวจมาสอบปากคำอยู่ด้วย แม่จึงไม่กล้าบอกว่า ลูกชายที่นั่งเยี่ยมแม่อยู่ข้างๆเตียงคือคนร้าย แต่หลังจากนายปอนด์ออกจากโรงพยาบาลไป แม่จึงบอกตนเองและแจ้งให้ตำรวจทราบว่า คนร้ายคือ นายปอนด์จริงๆ

ขณะเดียวกันความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้บาดเจ็บ ยืนยันชัดเจนว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุ คือ นายปอนด์ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนกลางและ น.ส.ดาว ซึ่งเป็นภรรยา (สะใภ้) โดยควบคุมตัวมาสอบสวน


ขณะเดียวกัน นายธวัชชัย หรือ ปาล์ม พี่ชายคนโต ซึ่งเดินทางมาที่บริเวณป้อมสายตรวจดังกล่าว เพื่อมาพบหน้าน้องชาย ทันที่มาถึงก็ได้ปรี่เข้าไปในห้องสอบสวน แล้วใช้ฝ่ามือตบหน้านางสาวดาว น้องสะใภ้ และชกหน้านายปอนด์ซึ่งเป็นน้องชาย คนละหนึ่งที นายปอนด์ปากแตก ก่อนที่จะโดนตำรวจห้ามปรามเอาไว้และกันตัวออกมา โดยโมโหอย่างมาก และได้ถามผู้ก่อเหตุทำกับแม่ได้อย่างไร ถ้าแม่เป็นอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร

และในระหว่างที่ตำรวจคุมตัว 2 ผู้ก่อเหตุออกมา ทั้งคู่บอกว่า ให้การปฏิเสธจากนั้นมีการโต้เถียงกัน ระหว่างแม่ของดาว กับ ลูกของผู้ได้บาดเจ็บ โดยยืนยันว่าลูกไม่ได้เป็นคนทำ และลูกเป็นคนดี

นอกจากนี้ ยังพบว่านายปอนด์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ประกาศจะเอาคืนคนที่มาทำร้ายแม่


ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ ภาพนิ่งวงจรปิดตัวที่ 1 ช่วงเวลา 07.34 น. ของวันที่ 13 กรกฎาคม จะเห็นนางมณีรัตน์ ผู้บาดเจ็บ ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดริมหน้าบ้านพัก และกำลังจะเดินเข้าไปภายในบ้าน

จากนั้นภาพกล้องตัวที่ 2 เวลา 07.55 น. จะเห็น นางสาวดาว ซึ่งสวมหมวกและใส่เเจ็กเก็ตสีแดง ปิดบังใบหน้า ยืนเฝ้าอยู่หน้าบ้าน ดูลาดเลา ซึ่งเป็นภาพหลังจากที่ นายวราวุธ หรือ ปอนด์ ผู้ก่อเหตุ ได้บุกเข้าไปในบ้านและกำลังลงมือทำร้ายร่างกายและปล้นทรัพย์แม่ของตัวเองอยู่ โดยภาพช่วงนายปอนด์เดินเข้าไป วงจรปิดไม่ได้บันทึกภาพไว้



จากนั้นจะเป็นภาพกล้องวงจรปิดเป็นภาพเคลื่อนไหว ตัวที่ 3 ช่วงเวลา 11.09.14 น. จะเห็นนายวราวุธ พร้อมกับ นางสาวดาว สองผัวเมีย ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาที่บ้านของเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นเวลาหลังเพื่อนบ้านไปพบนางมณีรัตน์ถูกมัดมือเท้าและนำส่งโรงพยาบาลไปแล้ว โดยจะเห็น ทั้งสองคนขี่รถย้อนกลับมา และทำทีมาถามเจ้าของบ้านฝั่งตรงข้ามว่า กล้องวงจรปิดบันทึกภาพหรือไม่หลังก่อเหตุ โดยเจ้าของบ้านบอกว่า กล้องใช้งานปกติ บันทึกภาพได้ทั้งหมด ทำให้ทั้งสองคน มีท่าทีลุกลี้ลุกรน เดินไปเดินมา ก่อนจะขี่รถกลับออกไป

โดยนายธวัชชัย หรือ ปาล์ม ลูกชายคนโตของคนเจ็บ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ที่ผ่านมาพยายามอดกลั้นที่จะไม่ทำร้าย และไม่เอาผิดน้อง เพราะแม่รักปอนด์มาก ซึ่งแม่ซื้อรองเท้าใหม่มาให้ปอนด์ด้วย แต่ถูกทำร้ายก่อน

ในส่วนคดี ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส โดยมีอาวุธ ร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่2คนขึ้นไป

ลูกทรพีสุมหัวเมียสากทุบ-เหยียบคอชิงทรัพย์แม่ พี่สุดกลั้นตบกบาลส่งคุก แม่สะใภ้ป้องลูกคนดี!