ทนายคนสวยชี้พิรุธ "แอม" แท้งลูก ทิ้งเวลา 2 วันถึงบอกญาติ ยายแด้ไหว้บอกหลานอย่าเสียใจมันไม่ใช่ลูกเอ็ง

24 มิ.ย. น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช​ ทนายความของ แอม ไซยาไนด์​ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ หลังได้รับมอบอำนาจจากครอบครัวของ แอม ไซยาไนด์ เพื่อขอให้แพทย์นิติเวชทำการผ่าชันสูตรพลิกศพ ทารกในครรภ์ อายุ 7 เดือน เนื่องจากติดใจการเสียชีวิต เพราะถือว่าเด็กในครรภ์ 7 เดือนสมบูรณ์ระดับหนึ่งที่ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตมีสิทธิสงสัยและสามารถทำการร้องเรียนได้ เนื่องจากคดียังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีการให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อของครอบครัวรวมทั้งทนายแต่กลับปล่อยให้เวลาล่วงเลย2วัน ถึงดำเนินการแจ้งเรื่องให้ทราบ อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้เข้าไปพบ แอม ที่เรือนจำ และแอม เล่าให้ฟังว่าถูกบีบคั้นอย่างหนัก จากเจ้าหน้าที่ตำรวจจนทำให้มีความดันและภาวะอาการเครียดสะสมทำให้ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรงจนทำให้ลูกดิ้นและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยทางแอม ได้ทำหนังสือถึง รพ.ราชทัณฑ์ เพื่อขอทราบสมเหตุการเสียชีวิตถึงแม้ว่าจะมีการแจ้งว่าจาก รพ.ราชทัณฑ์ มีอาการครรถ์เป็นพิษและก่อนหน้านี้เคยแท้งลูกมาก่อน มองว่าการนำข้อมูลส่วนตัวของบุคคลมาเผยแพร่สาธารณะชนเข้าข่ายกฎหมาย PDPA อีกทั้งการปล่อยให้ลูกในครรภ์เสียชีวิตก็เข้าข่าย พ.ร บ.อุ้มหายฯ ดังนั้นหากอัยการสั่งฟ้องในคดีหลัก ตนก็จะมีการส่งเรื่องนี้ให้อัยการพิจารณานัดสืบพยานในชั้นศาล

ส่วนที่มองว่าการที่เด็กทารกในครรภ์เสียชีวิตก่อนพิจารณาคดีจะมีผลต่อัตราโทษของผู้ถูกกล่าวหานั้น ยืนยันว่าไม่ได้กดดันเพราะสิทธิของประชาชนไม่ควรถูกแบ่งแยกว่าคนนั้นคนนี้ตั้งครรภ์ ไม่ตั้งครรภ์หรือปกติในการรับโทษ การที่ทุกคนทำผิดไม่ต้องจำกัดหรือแบ่งแยกสถานะทุกคนต้องรับโทษเหมือนกัน

 
ทนายพัช กล่าวว่ากรณีที่ตนเองถูกเรียนว่าผิดมรรยาทนายความนั้น จากการตรวจสอบไม่เคยถูกตั้งกรรมการสอบเรื่องมรรยาทความ โดยยังเป็นทนายความที่บริสุทธิ์ ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ที่สภาทนายความ ส่วนคดีที่ถูกกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนช่วยเหลือคดีของแอมไม่เหมาะสมที่จะว่าความคดีนั้น ยืนยันว่าตนเองมีพยานหลักฐานชี้แจงห้วงเวลาต่างๆที่ถูกระบุว่าทำผิดและส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวลที่ถูกกล่าวหาและว่าความให้กับแอม เพราะทุกคนมีสิทธิ์ถูกกล่าวหาได้ แต่ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน เพราะคนที่กล่าวหาตนเองก็มีคดีเหมือนกัน ซึ่งตนเองมีข้อมูลด้วยว่าทนายคนดังกล่าวเป็นทนายที่ว่าความให้กับดาราด้วย พร้อมยืนยันว่าจะเดินหน้าดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนที่ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อไปทั้งนี้ ในการมาติดต่อร้องเรียนของทนายพัช พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตรอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง หรือรองอ๊อฟ อดีตสามีแอม ได้เดินทางมาที่สถาบันนิติเวช ฯ โดยทนายพัช ให้รออยู่ในรถโดยไม่ให้ปรากฎตัวต่อสื่อมวลชน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักของ นายสิทธิศักดิ์ หรือแด้ สามี ของ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ ตั้งอยู่ใน ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อพบกับ นางวันเพ็ญ ตนายะพันธุ์ หรือ ยายเพ็ญ ซึ่งเป็นยายของนายแด้ เพื่อสอบถามความคิดเห็น หลัง แอม ผู้ต้องหาในคดีวางยาไซยาไนด์ แท้งลูก เนื่องจากภาวะครรภ์เป็นพิษ

โดยยายเพ็ญ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้ไม่นาน ตนได้ย้ายที่อยู่จากบ้านเดิม มานอนอยู่ที่บ้านของแด้หลังดังกล่าว เพราะคววามคิดถึง ห่วงว่าแด้จะไม่มีเพื่อน กลัวหลานเหงา โดยเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยครอบครัว และเพื่อนๆ ของหลานชาย ได้จัดทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลครบ 100 วัน ให้กับหลานชาย ซึ่งเป็นช่วงวันเดียวกับที่ตนได้ทราบข่าวว่า แอมได้แท้งลูก

ตนยอมรับว่า รู้สึกดีใจที่แอมจะได้รับโทษสูงสุดกับสิ่งที่กระทำลงไปทันที หากการพิจารณาคดีสิ้นสุดลง ขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งใจที่เด็กเสียชีวิตไป ที่ออกมาพูดแบบนี้ อย่าหาว่าตนเป็นคนใจร้ายใจดำ แต่หากสงสารเด็กเพราะเป็นผู้บริสุทธิ์ หากลืมตาดูโลก เขาจะไปอยู่กับใคร และเมื่อโตขึ้นต้องมารับรู้ถึงสิ่งที่แม่ทำไว้ แล้วเขาจะมีชีวิตอยู่อย่างไร และสังคมจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไร โดยตนยังคงเชื่อว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของแด้ เพราะแอมไม่ยอมตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ความจริง

ยายเพ็ญ เล่าว่า ตั้งแต่แด้จากไป ตนไม่เคยรับรู้หรือสัมผัสถึงการมีอยู่ของแด้เลย แต่เพื่อนๆ แด้ เคยได้ยินเสียงเดินในบ้านหลังนี้ ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ กระทั่งช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 03.00 น. วันนี้ หลังจากทำบุญ 100 วัน ตนคิดมาก นอนไม่หลับ จึงเดินไปยืนคุยกับรูปภาพหน้าศพของแด้ว่า ตอนนี้เด็กไม่อยู่แล้ว แอมทำกับแด้ไว้อย่างไร แด้ก็ไปคิดบัญชีเอาเอง เพราะตนรู้นิสัยหลายชายคนนี้ดีว่า เป็นคนรักพรรคพวกเพื่อนฝูง แต่ถ้าใครทำให้เจ็บ แด้จะอาฆาต และจะต้องแก้แค้น นอกจากนั้นยังพูดอีกว่า ยายทำบุญส่งไปให้แล้วนะ แด้ได้รับหรือยัง หรือหากต้องการอะไร ขอให้เข้าฝันมาบอก ก่อนจะลงมานอนที่เตียงตามปกติ แล้วตนก็ได้ฝันเห็นหลานชายสุดที่รัก โดยภาพในฝัน นายแด้ไม่ได้พูดคุยอะไร เห็นเพียงแต่ยื่นหน้ามาให้ถ่ายรูป พร้อมกับพาเด็กผู้ชายมาด้วยหนึ่งคน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าใครในส่วนของคดี ตนอยากให้แอมได้รับโทษสูงสุดเท่าที่จะมีในกฎหมายไทย และไม่เห็นด้วยหากแอมจะได้รับการลดหย่อนโทษ ยกเว้นแต่ว่า หากลดโทษแล้ว ตนได้ชีวิตหลานชายคืนกลับมา