ช็อก! ศพน้องเบนซ์ซี่โครงตับไตหาย หมอแจงแรงอัดดับเพลิง หวังเห็นพิธาเป็นนายกฯ

จากกรณีเหตุถังแก๊สระเบิดภายในโรงเรียนราชวินิตมัธยม ถนนพิษณุโลก เมื่อช่วงสายวันนี้ (23 มิ.ย. 66) ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 10 คน และในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือนายขุมทอง เปรมมณี นักเรียนชั้นม.6 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ได้ออกมาเปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการนำตัวผู้เกี่ยวข้องซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่สาธิตกว่า 7 ราย ไปสอบปากคำแล้ว รวมถึงนำบรรดาครูและบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ไปแยกสอบปากคำเพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ และอาจมีการพิจารณาแจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการสาธิตเมื่อช่วงเช้า ได้มีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจเก็บทั้งหมด เพื่อดูว่ามีถังแก๊สใดบ้าง ทนแรงดันได้หรือไม่ หรือมีถังแก๊สที่ถูกนำมา Reuse (ใช้ซ้ำ) และต้องสอบการบรรจุแก๊สที่มาทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ผู้มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบ เบื้องต้น 3 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ที่สาธิตการอัคคีภัยในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ ตนขอแสดงความเสียใจไปยังผู้ปกครองของนักเรียนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมันสะเทือนใจกับการที่เห็นสภาพน้องเช่นนั้น

พล.ต.ท.ธิติ เผยอีกว่า ตนมองว่าไม่มีใครรู้ ทั้งเจ้าหน้าที่สาธิต คุณครู นักเรียน ว่าอุปกรณ์อยู่ในสภาพอย่างไร แต่ได้ให้เจ้าหน้าที่ พฐ. เก็บไปตรวจสอบทั้งหมด และจะประสานไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้ดูว่าตัวถังแก๊สมีมาตรฐานหรือไม่ ส่วนสภาพเหตุการณ์นั้น นักเรียนที่เสียชีวิตไม่ได้ร่วมทดลองแต่นั่งชมการสาธิต แต่คนสาธิตอยู่ด้านหน้า ส่วนถังเเก๊สสาธิตอยู่หน้าคนสาธิต และตั้งอยู่กลางแดด ทำให้เกิดความร้อนขึ้น เมื่อถังระเบิด จึงปลิวถึงน้องนักเรียนเข้าช่วงหน้าอก อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างการสาธิตได้มีครูฝ่ายปกครองคอยดูแลนักเรียนชั้น ม.5-ม.6 ทั้งนี้ เจ้าของคดีจะเป็นในส่วนของ สน.นางเลิ้ง ในการแจ้งข้อกล่าวหา และนำผู้เกี่ยวข้องไปสอบปากคำ ทั้งการสอบคำคุณครูและพยานที่เกี่ยวข้องในที่เกิดเหตุ รวมทั้งจะมีการเก็บรวบรวมคลิปพยานหลักฐาน เพื่อนำพิจารณาประกอบการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไปพล.ต.ท.ธิติ ระบุว่า สภาพถังแก๊สเป็นถังสำหรับการสาธิต คาดว่าจะมีการใช้งาน อาจจะมีการเติมแก๊ส เพราะเราได้หลักฐานการเติมแก๊สมาแล้วว่าเติมที่ไหนอย่างไร ซึ่งบริษัทที่เติม จะต้องมาตรวจสอบด้วยรวมถึงอุปกรณ์เซฟตี้ต่างนั้นๆ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมเก็บทั้งหมดแล้ว


นางสาวสรัญชลี เปรมมณี อายุ38 ญาติ น้องเบนซ์ เด็กนักเรียนชายที่ถูกแรงระเบิดจากถังดับเพลิงเสียร่ำไห้ เสียใจ ไม่คิดเด็กที่โดนถังดับเพลิงระเบิดใส่ จะเป็นน้องเบนซ์พร้อมระบุ น้องกำลังจะบวชให้ หลังเรียนจบ แต่สุดท้ายต้องจากไปเสียก่อน ก่อนบอกความฝันของน้อง อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ ระบุด้วยว่าน้องไม่ได้บอกว่าจะมีการซ้อมดับเพลิงอะไรให้ฟังเลยมาก่อน ตอนเกิดเหตุตนเองก็ทำงานอยู่ และได้ยินคนพูดกันถึงได้รู้ ซึ่งตนก็ได้โทรมาหาน้องแต่ก็ไม่รับสาย ตอนนั้นใจก็เริ่มเสีย พอมาถึงเจ้าหน้าที่ก็พาไปดูร่างน้องตนถึงกับเป็นลม เพราะซี่โครงน้องไม่มีเลย อวัยวะกระจัดกระจายดูไม่ได้และพบเพื่อนที่อยู่ข้างๆน้องเขาก็ช็อค ส่วน ผู้อำนวยการของโรงเรียนระบุว่าเสียใจ และจะดูเเละทุกอย่างพรุ่งนี้ก็จะเชิญพระมาทำพิธี

นายพิรุณ เปรมมณี อายุ 60 ปี ลุงของน้องเบนซ์เหยื่อที่ถูกถังดังเพลิงระเบิดใส่ เปิดเผยว่าตอนแรกที่รู้ข่าว ไม่เชื่อว่าเป็นหลานตน เลยเข้าไปสอบถามครูว่าเป็นหลานตนจริงหรือไม่ ครูตอบว่าใช่ ซึ่งหลานตนเพิ่งอายุครบ 18 ปี เขาดีใจ เขาอยากไปเลือกตั้ง โดยเขาเลือกพรรคก้าวไกล เขาอยากให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ แต่ทำไมไม่อยู่ดูนายพิธาเป็นนายกฯ  ตอนนี้พ่อและแม่ของน้องเบนซ์ ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะยังช็อค ส่วนตอนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำป้าของน้องเบ๊นซ์ ซึ่งเป็นผู้ปกครองโดยตรงของน้องเบนซ์ โดยช่วงเกิดเหตุตนวิ่งรถวินจักรยานอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงเรียนในช่วงเวลาประมาณ 10-11 โมงกว่าๆ ก่อนได้ยินเสียงคล้ายกับหม้อแปลงระเบิด เสียงดังมาก ตอนแรกไม่ได้เอะใจอะไร แต่พอเปิดทีวีฟังข่าวและมีคนมาบอกตัวเองว่า “หลานชายโดนถึงดับเพลิงระเบิดใส่” ตอนนั้นช็อคมากทำอะไรไม่ถูก และไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อรรีบมาที่โรงเรียนทันที

พอมาถึงหน้าโรงเรียน ตนยังไม่อยากเชื่อ ก่อนล้มทั้งยืนเมื่อทราบว่าเป็นหลานจริงๆ โดยทางโรงเรียนให้ข้อมูลว่า เหตุที่เกิดขึ้นเบื้องต้นมาจากถังดับเพลินตรงวาว์ลหน้าจะรั่ว เพราะมันพุ่งระเบิด โดนบริเวณหน้าท้องของหลานเต็มๆ ทำให้อวัยวะภายในออกมาทั้งหมดเลยส่วนน้องเบนซ์หลานชายอยู่ชั้น ม.6 และเพิ่งคุยกันว่าจะบวชให้ป้าถ้าหากเรียนจบ โดยวันนี้ทางโรงเรียนให้น้องเบนซ์มาดูสาธิตสอนดับเพลิงซึ่งจังหวะนั้นนั่งอยู่กับเพื่อนประมาณ 5-6 คน แต่หลานชายกลับถูกระเบิดหนักสุด ส่วนเพื่อนๆ ก็ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นไม่ได้ติดใจสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้ เพราะเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ และไม่ได้จะเอาผิดกับทางโรงเรียน แต่ยอมรับว่าติดใจกับเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ถังดับเพลิงที่นำมาจาก กทม.สาธารณภัยสามเสน และคิดว่าเอาจะเอาเรื่อง กับต้นทางให้ถึงที่สุด

นายแพทย์จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล เปิดเผยว่าแพทย์นิติเวชได้มีการผ่าชันสูตรศพเบื้องต้น พบว่า พบอาการบาดเจ็บมีร่องรอยบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณกระดูกต้นแขน และมีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่บริเวณหน้าอก พร้อมกับมีอวัยวะภายในทรวงอกฉีกขาด ซึ่งระบุเป็นสาเหตุให้ถึงแก่ชีวิต

 


น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่าส่วนการเยียวยาต้องยอมรับว่าตอนนี้นักเรียนมีอาการตกใจเราได้ประสานกับกรมสุขภาพจิตให้เข้ามาดูแลเยียวยาเด็กๆนักเรียนที่อยู่ภายในเหตุการณ์และมีอาการตกใจผวา ส่วนน้องที่เสียชีวิตทางโรงเรียนมีประกันและกองทุนที่จะมาช่วยดูแลให้กับผู้เสียชีวิตและครอบครัว

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมเปิดเผยว่า สำหรับนักเรียนที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ วชิระฯ มี 5 ชาย คือชาย 4 ราย หญิง 1 ราย ซึ่งตอนนี้ทุกรายมีอาการปลอดภัยหมดแล้ว แต่จะมีบางรายที่ยังมีอาการหูอื้อ และบางรายที่ อยู่ใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งอาจจะกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กนักเรียนคนดังกล่าว เพราะเด็กนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ ก็ยังคงมีอาการร้องไห้อยู่บ้าง ส่วนผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ รพ.กลาง มี 4 ราย ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว

ส่วนถังดับเพลิงที่เกิดเหตุ เบื้องต้นตนเองได้เช็คข้อมูลและพูดคุยกับทาง ปภ. ซึ่งได้รับรายงานว่าตามระเบียบการดูแลรักษาหากตามมาตรฐาน จะมีการตรวจทุก 5 ปี ซึ่งการตรวจจะเป็นการฉีดแรงดันน้ำเข้าไป เพื่อตรวจสอบ แต่สำหรับชุดถังดับเพลิงที่นำมาสาธิตนุ้น จะต้องไปตรวจสอบประวัติว่าได้มาตราฐาน หรือไมีการทดสอบหรือไม่

ด้านนายกฤษคมศร ศรีเณหะ พ่อของน้อง กฤษณภูมิ ศรีเณหะ ผู้บาดเจ็บ ที่เดินทางมาเยี่ยมลูกชายที่โรงพยาบาลวชิระ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ขณะนั้นตัวเองทำงานอยู่ ลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่า ที่โรงเรียนเหิดอุบัติเหตุ ตอนนั้นตัวเองนึกว่าอุบัติเหตุหน้าโรงเรียน แต่ลูกชายนั้นเสียงสั่นมากจนผิดปกติ ตัวเองจึงโทรกลับไป ก็ทราบว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น เพราะจากการสาธิตการดับเพลิงของโรงเรียน ซึ่งลูกเล่าว่า นั่งอยู่แถวหน้า ห่างจากถังดับเพลิง ประมาณ 5-6 เมตรเท่านั้น และเมื่อเกิดระเบิด ถังก็กระเด็นไปโดนเพื่อน(คนที่เสียชีวิต)ที่ยืนอยู่ด้านหลังลูกชาย  พอตนรับรู้เหตุการณ์ก็ตกใจ ถึงกับเข่าอ่อน เพราะไม่คิดว่าโรงเรียนที่เป็นที่ที่ปลอดภัยจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น และโดยปกติโรงเรียนหากมีการสาธิตอะไรลูกชายจะบอกเสมอ แต่ครั้งนี้ไม่มีการแจ้งอะไรเลย ส่วนการเยียวยา อยากให้หน่วยที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบดูแลค่ารักษาพยาบาล

ซี่โครงหาย!