ผัวเหี้ยมบุก บขส.ปาดคอสาวฉุนถูกบอกเลิก โชคดีเพื่อนกระโดดช่วยแต่ซวยถูกลูกหลงเจ็บ

หนุ่มหึงโหดหลังจากแฟนสาวขอหย่า คว้ามีดบุกถึงโต๊ะทำงานกลาง บขส. กาญจนบุรี หวังปาดคอแต่เพื่อนร่วมงานช่วยคว้าแขนไว้

โดยภาพวงจรปิดจะเห็นว่า นายสุกฤษณ์ หรือปลั๊ก อายุ 44 ปี ผู้ก่อเหตุได้เข้ามายังบริเวณชานชาลา บขส. จังหวัดกาญจนบุรี ในเวลา 18.37 น.จากนั้นได้เดินไปยังบริเวณข้างรถมินิบัส ที่จอดอยู่ในชานชาลา A3 หลังจากนั้นก็ยืนแอบอยู่เป็นเวลาประมาณ 5 นาที ในระหว่างนั้นนายสุกฤษณ์เหมือนคุยโทรศัพท์กับใคร และมีลักษณะการลังเลและเตรียมการที่จะเข้าไปทำร้าย น.ส.พิรุฬลักษณ์ หรือก้อย อายุ 41 ปี

จากนั้นเวลา 18.42 น. นายสุกฤษณ์ ได้เดินเข้าไปบริเวณโต๊ะขายตั๋ว ซึ่งฝ่ายหญิงนั่งทำงานอยู่ แล้วชักมีดปอกผลไม้ออกมาทำร้าย โดยมีลักษณะเหมือนจะปาดคอ แต่ในระหว่างนั้น เพื่อนร่วมงานของฝ่ายหญิงได้เข้ามาช่วยคว้าแขนผู้ก่อเหตุไว้แน่น หลังจากนั้นจึงมีคนเข้ามาช่วยหลายคน แต่ก็ทำให้ น.ส.พิรุฬลักษณ์ ถูกคมมีดบริเวณปากจนถึงแก้ม ต้องเย็บถึง 30 เข็ม

จากนั้น เวลา 18.43 น. ผู้ก่อเหตุจึงเดินหลบหนีออกจาก บขส. มาขึ้นรถกระบะขับออกไป

ทีมข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกาญจนบุรีซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ทราบว่า นายสุกฤษณ์เป็นคนขับรถตู้ และ น.ส.พิรุฬลักษณ์ เป็นคนขายตั๋วที่ บขส.กาญจนบุรี เมื่อมาพบกันและร่วมงานกันจึงได้อยู่กินจดทะเบียนเป็นสามีภรรยากัน จากนั้นจึงได้ลาออกและตกลงไปทำธุรกิจส่วนตัวร่วมกัน แต่หลังจากนั้นนายสุกฤษณ์มีพฤติกรรมชอบทำร้ายและยังเคยนำรถตู้ที่น้องชายของฝ่ายหญิงเป็นผู้ออกให้ ขับหนีไปที่จังหวัดชลบุรี จนน้องชายของฝ่ายหญิงต้องไปตามกลับมา ซึ่งระหว่างนั้นฝ่ายชายก็ได้โทรมาข่มขู่ตลอด จนต้องไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ทับสะแก จ. ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฝ่ายหญิง จากนั้นฝ่ายหญิงจึงได้กลับมาทำงานที่บริษัทเดิมแต่ได้ย้ายไปทำงานที่ขนส่งสายใต้ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ โดยวันเกิดเหตุ (22 มิ.ย. 66) ฝ่ายหญิงเพิ่งย้ายกลับมาทำที่ขนส่งจังหวัดกาญจนบุรีเป็นวันที่สอง และพอถึงช่วงเย็นก็ถูกทำร้าย

ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้พบกับคุณปริศนา หรือมิ้ว อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ช่วยเหลือก้อยไว้ตอนเกิดเหตุ โดยเป็นคนดึงแขนผู้ก่อเหตุไว้ คุณมิ้ว เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุ ช่วงก่อนเกิดเหตุตนเห็นแล้วว่านายปลั๊กเดินมาด้านหลังโต๊ะขายตั๋ว ซึ่งตนเองยังถามว่ามาทำอะไร แล้วโพกผ้าปิดหน้าทำไม แต่นายปลั๊กก็ไม่ตอบอะไร และเข้ามาด้านหลังมาจับตัวก้อย และมือล้วงกระเป๋าที่สะพายมา ก้อยจึงสะบัดตัวออก จังหวะนั้นนายปลั๊กจึงชักมีดออกจากกระเป๋า แล้วทำท่าจะปาดคอของก้อย เมื่อตนเห็นเช่นนั้นจึงรีบคว้าแขนและมือข้างที่ถือมีดของนายปลั๊ก และใช้ตัวกดลงกับโต๊ะไม่ให้นายปลั๊กนำมีดไปทำร้ายก้อยได้ โดยจังหวัดนั้นตนไม่ได้คิดถึงสิ่งใดเลยว่าตัวเองจะเกิดอันตรายหรือไม่ เพียงแต่ต้องการช่วยให้ก้อยไม่ถูกทำร้ายร่างกายจนเจ็บสาหัส ส่วนตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อยมีเพียงรอยฟกช้ำบริเวณแขนและข้อศอก

ทีมข่าวยังพบว่า ก่อนเกิดเหตุเพียงหนึ่งวัน นายสุกฤษณ์ ได้โพสต์ Facebook ว่า "โว้ว กาญจนบุรีก็แค่ปากซอย" และมีคนมาถามในคอมเมนต์ว่า “ มาตามหารักแท้หรอ” โดยนายสุกฤษณ์ได้ตอบกลับไปว่า “มาตามปาดคอ”

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้โทรศัพท์ไปหานายปลั๊ก โดยมีผู้ชายรับสายแต่ปฏิเสธว่าไม่ใช่นายปลั๊ก แต่เมื่อทีมข่าวถามว่าแล้วตอนนี้ใครพูดสาย ผู้ชายคนดังกล่าวตอบลักษณะอ้ำอึ้งว่า ผมอยู่รีสอร์ตครับ ทีมข่าวจึงถามย้ำอีกหนึ่งครั้งว่าใช่นายปลั๊กหรือไม่ ผู้ชายคนดังกล่าวตอบว่าไม่ใช่ครับ แล้ววางสายไป

สอบถามข้อมูลจากตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุได้แจ้งว่าจะเข้ามอบตัว แต่แจ้งว่าจะรอญาติพาเข้ามา หลังจากนั้นก็เงียบหายไป ซึ่งตอนนี้ตำรวจ อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว คาดว่าคงจะได้ตัวในไม่ช้า

เมืองกาญจน์ แค่ปากซอย บุกปาดคอแฟน