เปิดนาทีโจ๋นัดดวลอริรัวยิงเด็ก 17 ดับ แม่ร่ำไห้ชี้ลางก่อนตายลูกขอซื้อผ้าห่อศพ

จากเหตุการณ์ยิงกันที่บริเวณตลาดนัดอัศวิน ถ.เพชรเกษม ต.อ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร เมื่อเวลาประมาณ 02.15 น. ของวันที่ 18 มิถุนายน 2566 จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลมหาชัย 2 เมื่อตำรวจไปตรวจสอบพบว่า นายสุทธิภัทร อายุ 17 ปี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดบริเวณหน้าอกด้านขวา เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล และนายชิน อายุ 17 ปี ถูกยิงบริเวณชายโครงด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบสวนทราบว่า กลุ่มผู้เสียชีวิตประมาณ 13 คน ได้นัดมารวมตัวกันที่บ้านนายฟิล์ม โดยได้มานั่งเล่นเกมกัน ต่อมาเวลาประมาณ 02.05 น กลุ่มผู้เสียชีวิตได้เดินทางออกมาจากบ้านนายฟิล์มเพื่อจะกลับบ้าน โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ โดยใช้เส้นทางซอยนวลทอง ถนนพุทธสาคร มุ่งหน้าแยกสาครเกษม แต่เมื่อมาถึงสะพานข้ามแยกสาครเกษม กลุ่มผู้เสียชีวิตไม่ได้ข้ามสะพานข้ามแยกกลับใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมย้อนศรมุ่งหน้า กทม.

ต่อมาได้มีกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ประมาณ 17-18 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาจากแยกอ้อมน้อยมุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพฯ มาถึงหน้าตลาดอัศวินกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงข้ามฝั่งไปที่กลุ่มผู้เสียชีวิต ถูกนายสุทธิภัทร และนายชิน จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ยูเทิร์นข้ามฝั่งไปไล่ยิงกลุ่มผู้เสียชีวิตอีก โดยกลุ่มผู้เสียชีวิตได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าแยกอ้อมน้อย

ความคืบหน้าคดีนี้ ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมกับเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่หาร่องรอยของคนร้ายและวัตถุพยานอื่นๆ รวมถึงวิถีกระสุน โดยในบริเวณที่เกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบวัตถุระเบิดปิงปองพร้อมใช้งาน 1 ลูก ตกอยู่ในดงหญ้าเกาะกลางถนน จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานพร้อมนำไปตรวจหารอยนิ้วมือแฝงอีกด้วย

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ และได้ภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงเกิดเหตุ เวลาประมาณ 02.23 น. (เวลาไม่ตรง) จะเห็นวัยรุ่นกลุ่มที่ก่อเหตุประมาณ 7-8 คัน ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้ากล้องมาจอดบริเวณหน้าร้านค้าฝั่งตรงข้าม ก่อนที่ทั้งหมดจะลงจากรถและวิ่งไปอีกฝั่งถนน

ส่วนภาพอีกมุมหนึ่ง เวลา 02.07 น. เป็นช่วงเวลาเกิดเหตุจะได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง และได้ยินเสียงปืนดังตามมาอีก 3 ครั้ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลังจากกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ ข้ามฝั่งถนนมาไล่ยิง โดยจะได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นคนเจ็บ

ขณะที่ ภาพอีกมุมจะเห็นแสงของปืนวาบขึ้นในกล้อง 3 ครั้ง ซึ่งเป็นนาทีที่กลุ่มวัยรุ่นได้ไล่ยิงวัยรุ่นฝั่งผู้ตาย

และคลิปสุดท้าย 4 เวลา 02.25 น.จะเห็นกลุ่มวันรุ่นที่ก่อเหตุ หลังยิงเสร็จได้วิ่งข้ามถนนกลับมายังรถมอเตอร์ไซค์ของพวกตัวเองที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนขี่หลบหนีไป

ทีมข่าวได้ไปที่วัดนางสาว จ.สมุทรสาคร พบกับนางสาวลักขณา อายุ 40 ปี แม่ของผู้ตาย เล่าให้ทีมข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า ลูกชายของตนเองเมื่อคืนนี้ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปตอน 2 ทุ่ม ก่อนจะกลับมาบ้านและนั่งกินข้าวด้วยกัน

จากนั้นไม่นานตนเองได้ยินเสียงลูกชายเปิดประตูบ้านและขี่รถออกจากบ้านไปอีกรอบเวลา 4 ทุ่ม และกลับมาบ้านอีกครั้งช่วงเกือบตี 2 ตอนนั้นตนเองจึงได้บอกลูกชายว่า “เอารถเข้าบ้านแล้วก็นอนได้แล้วนะลูก” จากนั้นลูกชายก็ได้เข้านอน จึงคิดในใจว่า ตนเองได้นอนหลับแล้ว เพราะลูกกลับบ้านแล้ว โล่งใจ

แต่ผ่านไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงลูกชายเปิดประตูบ้านอีกครั้ง และได้ยินเสียงลูกชายเบิ้ลรถมอเตอร์ไซค์ขี่ออกจากบ้าน ด้วยความเป็นห่วงตนเองจึงรีบลุกออกจากที่นอนและวิ่งไปบอกลูกทันที แต่ไม่ทัน ลูกชายได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปแล้ว

กระทั่ง 02.45 น. มีโทรศัพท์จากหมอโทรมาบอกว่า ลูกชายถูกยิงให้ไปที่โรงพยาบาลด่วน และมารู้ว่า ลูกชายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

ตนเองเสียใจมากที่ไม่สามารถห้ามลูกได้ โดยก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ลูกชายได้ขอเงินไป บอกอยากได้ผ้าดิบใส่ ซึ่งตนเองได้ให้เงินไปซื้อ 300 บาท ซึ่งญาติยังแซวลูกอยู่เลยว่า “ผ้าดิบเขาไว้ใส่กับศพคนตายนะ” แต่ก็ไม่คิดว่าลูกจากกลายเป็นศพจริงๆ

ที่ผ่านมา ยอมรับว่า ลูกชายเป็นเด็กติดเพื่อน และชอบขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านดึกๆ เพื่อไปแข่งรถ และไปนั่งเล่นเกมบ้านเพื่อน ตนเองเคยเตือนลูกชายบ่อยมาก บอกว่า “ถ้าลูกคบเพื่อนดีก็ดีไป แต่ถ้าคบเพื่อนไม่ดี จะมีแค่ 3 อย่างของชีวิต คือ 1.พิการ 2.ตาย 3.ติดคุก”

แต่ลูกชายก็บอกกลับมาว่า “แม่ไม่ต้องห่วงผมหรอก รุ่นพี่รักผมทุกคน ไม่เคยทิ้งผม รุ่นพี่ช่วยผมอยู่แล้ว” ซึ่งตอนนี้ตนเองหวังว่าลูกชายคงจะรู้แล้วว่ารุ่นพี่ช่วยอะไรได้ไหมที่ลูกถูกยิง ลูกชายฝันอยากเป็นวิศกรไฟฟ้า เคยรับปากกับตนเองไว้ว่าจะตั้งใจเรียน ไม่คิดเลยว่าลูกชายจะมาถึงจุดจบแบบนี้

เธอยังเล่าถึงลางบอกเหตุร้ายอีกว่า 3 วันก่อนจะเกิดเหตุ สามีตนเองฝันแปลกๆ ว่าตัวเองตาย ไม่คิดว่าจริงๆ ลูกชายจะมาตายแทน และ 2 วันก่อนเกิดเหตุ ลูกชายก็ได้โทรศัพท์ไปบอกน้องสาวที่เรียนอยู่ต่างประเทศว่า ให้น้องตั้งใจเรียน “พี่คงไปไม่ถึงฝั่งฝันแล้ว” ซึ่งก็ไม่รู้ว่าลูกชายทำไมถึงพูดแบบนั้น

และเมื่อ 1 ปีก่อน ลูกชายเคยพูดไว้ว่า “ถ้าผมตาย แม่ไม่ต้องเอาศพผมกลับอุดรฯ นะ ให้เผาที่วัดนางสาวใกล้ๆ ได้เลย” ซึ่งทั้งหมดไม่คิดเลยว่า ลูกชายจะตายไปจริงๆ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับหนึ่งในเพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปกติกลุ่มของตนเองจะขี่รถรวมตัวกันที่บ้านของเพื่อนๆ และไปนั่งเล่นเกมรวมกลุ่มกันที่บ้านเพื่อนแต่ละคน ไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร และเพื่อนที่เสียชีวิตก็เป็นคนดีมาก รักเพื่อนรักฝูง ไม่เคยทอดทิ้งกัน

วันเกิดเหตุ ตนเองพอทราบข่าวว่าเพื่อนถูกยิงก็รีบตามไปที่เกิดเหตุ ก็พบว่าเพื่อนได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว วันนี้มารู้ว่าเพื่อนเสียชีวิตก็เสียใจมากๆ และกลุ่มพวกตนเองไม่รู้เหตุผลจริงๆ ว่า ทำไมอีกฝ่ายบุกมาไล่ยิงฝั่งตนเอง ซึ่งจากเท่าที่ทราบอีกฝั่งมีพวกเกือบ 30 คนได้ ฝั่งของตนเองขณะนั้นมีแค่ 10 กว่าคน

อยากให้ตำรวจเร่งจับตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุให้ได้ เพราะไม่อยากให้เพื่อนตายฟรี

ซื้อผ้าดิบ อีกวันเป็นศพ