รักของพ่อ! ไม่ทนเห็นลูกสาวโดนผัวตีบุกแทงคาที่ ลั่นเตือนไม่ฟังก็ต้องตาย
จากเหตุการณ์เมื่อ 14 มิ.ย. มีคนถูกฆ่าตายอยู่ในก่อหญ้าข้างทาง ริมทางรถไฟ ที่เกิดเหตุเป็นแอ่งน้ำพบชายไม่สวมใส่เสื้อนุ่งแต่กางเกงขาสั้นสีดำ ครึ่งตัวแช่อยู่ในน้ำ ส่วนท่อนบนและแขนขวาถูกอาวุธมีดฟันจนเป็นแผลเปิดกว้าง
เวลาต่อมาทราบชื่อคนตายคือ นายกฤษฎา อายุ 35 ปี ขณะที่คนก่อเหตุทราบคือ นายชาติชาย เป็นพ่อตา และเจ้าตัวยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่8 โดยหลังจากก่อเหตุได้เดินไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้านเพื่อที่จะไปมอบตัวพร้อมกับอาวุธมีดยาว
ขณะเดียวกันที่ สภ.ลำสนธิ พนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำนายชาติชาย พ่อตา ผู้ก่อเหตุ โดยการสอบปากคำนั้น ได้มีการให้การได้สารภาพกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับชนวนเหตุ ที่อ้างว่า เกิดจากความแค้น ที่คนตายชอบทำร้ายตบตีลูกสาว และเคยไล่ทำร้ายเมีย จึงเก็บสะสมมานาน โดยบรรยากาศการสอบมาคำ นั้น เจ้าตัวค่อนข้างเคร่งเครียด และ นั่งให้การอยู่ภายในห้องสอบสวน มีทนายร่วมฟังการให้ปากคำด้วย และ พนักงานสอบสวน จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”
ทีมข่าวช่อง 8 สอบถามนางสาวดวงจันทร์ ภรรยาของคนก่อเหตุ เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองเชื่อว่าตัวของสามีมีความเครียดสะสม เพราะเนื่องจากล่าสุดมีการทำร้ายตบตีลูกสาว ประกอบกับก่อนหน้านี้มีการทำลายข้าวของในบ้าน และตนเองก็เคยถูกเอามีดไล่ฟันจนต้องวิ่งหนีไปบ้านญาติเพื่อเอาตัวรอด โดยเหตุการณ์ที่คนในครอบครัวถูกทำร้ายบ่อยครั้ง จึงเชื่อว่าเป็นชนวนเหตุสะสมที่ทำให้สามีเกิดความเครียดและเก็บกดมาโดยตลอด และตนเองมีโอกาสได้ไปเยี่ยมสามีซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ยอมเผยถึงสาเหตุที่แท้จริง พูดแต่ว่าเครียดสะสมกับเขยที่ทำมานานแค่นั้น
โดยเบื้องต้นตนเองก็คงจะไม่ประกันตัว ว่าให้ไปตามกระบวนการของกฎหมาย ในเมื่อเจ้าตัวทำผิดก็ต้องรับโทษ ส่วนเขยตนเองก็ขอไม่พูดอะไร เพราะถือว่าเค้าตายไปแล้วคนตายก็พูดไม่ได้
ขณะที่นางสาวธัญพร หรือ ตุ๊กตา ภรรยาของคนตายในฐานะลูกสาวของคนก่อเหตุ เปิดใจกับช่อง 8 ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ตนเองก็ไม่คิดว่าคนที่ตายก็คือสามี ที่คบหากันมานานกว่า 10 ปี ส่วนคนที่ก่อเหตุก็มีศักดิ์เป็นพ่อ แต่ก็ยอมรับว่าสามีของตนเองไม่ใช่คนดี เพราะเวลาเมาก็ชอบหาเรื่องตบตีตนเองและหาเรื่องคนในบ้าน แต่พ่อถือว่าเป็นคนดีนิ่งเงียบและไม่เคยมีเรื่องราวอะไรกับใคร แต่การก่อเหตุครั้งนี้ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นปุ่มความแค้นที่พ่อเก็บสะสมมานาน ที่แม่โดนเอามีดไล่ฟัน ข้าวของในบ้านเสียหาย รวมทั้งตนเองก็เคยถูกตบตีต่อหน้าพ่อ แต่แม้ว่าตนเองจะเคยถูกสามีทำร้ายร่างกาย ก็เข้าใจว่าเกิดจากอาการมึนเมา ให้อภัยมาทุกครั้ง แต่ในความเป็นพ่ออาจจะทนไม่ได้จึงได้ก่อเหตุครั้งนี้ขึ้นก็ได้ ส่วนตัวจึงรู้สึกเสียใจ ที่สามีของตัวเองต้องจากไป และพ่อก็ต้องมาติดคุก
โดยในวันเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันที่ตนเองกลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ10วัน เพราะก่อนหน้านี้พาสามีย้ายไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นบ้านของฝ่ายชาย โดยไปช่วยกันทำมาหากินตัดอ้อยอยู่ด้วยกัน และหลีกเลี่ยงไม่ให้สามีของตนเองต้องประเชิญหน้ากับพ่อ ไม่ต้องมาทำร้ายคนในบ้าน ซึ่งก็พาเจ้าตัวไปย้ายออกไปอยู่ข้างนอกพักใหญ่แล้ว และช่วงนี้พากันเดินทางกลับมาบ้านในพื้นที่ลพบุรีเพื่อมาเยี่ยมญาติ แต่ก็ไม่คิดว่าทั้งคู่ไปกินเหล้าด้วยกันแล้วจะเกิดเหตุขึ้นแบบนี้ ก่อนที่ทั้งคู่จะออกจากบ้านก็ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะอะไรกัน ยังคุยกันตามปกติ สามีออกไปกินเหล้าก่อนที่บ้านคอกวัว ส่วนพ่อเดินตามหลังออกไป มารู้อีกทีก็เกิดเหตุทำร้ายกันแล้ว
"ตนเองยอมรับว่าเสียใจมาก และคงไม่กล้าที่จะไปร่วมงานศพหรือส่งสามีเป็นครั้งสุดท้าย เพราะญาติฝั่งของสามีค่อนข้างโกรธแค้นฝั่งของตนเอง จึงทำให้ตนเองไม่กล้าที่จะไปงาน จึงอยากจะฝากขอโทษผ่านสื่อ ไปยังครอบครัวของคนตาย ว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะพาลูกเขามาตายที่นี่ เพราะฝ่ายของตนเองเป็นคนก่อเหตุจึงไม่กล้าที่จะสู้หน้าเขาอีกแล้ว"
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พบนายชาติชาย ผู้ต้องหา เปิดใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเป็นชนวนเหตุที่เก็บสะสมมานานนับตั้งแต่ที่นายกฤษฎาหรือป้อมเข้ามาคบหากับลูกสาว มีการทำลายข้าวของ มีการตบตีลูกสาว และยังเคยไล่ทำร้ายภรรยาของตนเอง จึงทำให้เป็นชนวนเหตุสะสม
ส่วนในวันเกิดเหตุนั้นตนเองก็ออกไปกินเหล้าตามปกติ แล้วปรากฏว่าตัวของนายกฤษฎาลูกเขยก็กินอยู่ด้วยที่คอกวัว ตอนนั้นตนเองสังเกตท่าทีของคนตาย เดินวนเวียนเข้าไกลมีดได้มเดียวกันกับที่ตนเองจะใช้ก่อเหตุ ทำนองว่าจะหยิบเอาอาวุธมีดมาทำร้ายตนเองก่อน หลังจากที่ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงคว้าเอาอาวุธมีดฟันเขย แต่วันนั้นก็ไม่ได้มีอะไรกระทบกระทั่งรุนแรง มีเพียงแค่ความคิดของเขยที่จะทำร้ายตนเอง ทำให้ตนเองจึงต้องลงมือก่อน
และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตนเองตัดสินใจก่อเหตุฆ่าเขย เป็นเพราะว่าหลานของตนเองไปทำเบ็ดตกปลาของน้าคนตายหัก แล้วมาเรียกเก็บเงินจากฝั่งตนเอง ซึ่งก็มีการพูดจาไม่ดี จึงทำให้ตนเองกว่าที่จะมีเรื่องกับน้าของคนตาย แต่ด้วยในวันนั้นไม่เจอตัวนะคนตายจึงได้ไปก่อเหตุกับเขยแทน เพราะมีชนวนเหตุเก่ามาก่อน, และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ตนเองก็พร้อมที่จะรับผิด ไม่ต้องการให้ลูกเมียเดือดร้อน ไม่ต้องหาเงินมาประกันตัว พร้อมที่จะติดคุก และไม่มีอะไรฝากขอโทษหรือฝากไปยังครอบครัวคนตาย