"นายกฯ" ปลื้ม ชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจกล้วยและผลิตภัณฑ์กล้วยแปรรูปของไทย สร้างมูลค่าทางการค้าแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมผลักดันความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย - ญี่ปุ่น (JTEPA) ขยายการส่งออกตลาดญี่ปุ่น

วันนี้ (15 มิถุนายน 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้รับทราบว่า กล้วยสดและผลิตภัณฑ์กล้วยแปรรูปของไทยได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น โดยกระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางการค้าได้ถึง 1,070.55 ล้านบาท พร้อมใช้ประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (Japan-Thailand Economic Partnership Agreement : JTEPA) เป็นอีกช่องทางสำคัญในการขยายการส่งออกสู่ตลาดญี่ปุ่นต่อเนื่อง 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการจัดงาน THAIFEX – Anuga Asia 2023 ที่ผ่านมาของไทย มีผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นรวม 10 บริษัท ทั้งจากซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ อาทิ Gyomu Super ซึ่งมีกว่า 1,050 สาขา และ Beisia ซึ่งมีกว่า 130 สาขาทั่วญี่ปุ่น และผู้ประกอบการที่มีศักยภาพต่างให้ความสนใจในสินค้ากล้วยสดและผลิตภัณฑ์กล้วยแปรรูปจากไทย ทำให้เกิดการเจรจาการค้าร่วมกับผู้ส่งออกชาวไทยจาก 23 บริษัท จำนวน 38 ราย จากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหอม ผู้ผลิตกล้วยแปรรูป และผู้ประกอบการกล้วย GI ของไทยที่ได้รับการรับรองจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่าจะมียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2,000 ตัน รวมเป็นมูลค่าทางการค้าได้ถึง 1,070.55 ล้านบาท สอดคล้องกับข้อมูลที่ระบุว่า ชาวญี่ปุ่นนิยมบริโภคกล้วยเป็นอย่างมาก เพราะเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อย มีคุณค่าทางอาหารสูง อีกทั้งยังมีราคาที่เข้าถึงได้และสามารถนำไปใช้แปรรูปเป็นขนมได้อีกมากมาย โดยในแต่ละปี ญี่ปุ่นจะนำเข้ากล้วยบริโภคในประเทศถึงปีละกว่า 1 ล้านตัน เนื่องจากสภาพภูมิอากาศของญี่ปุ่นไม่เอื้ออำนวย ทำให้ปลูกกล้วยได้ในปริมาณน้อย

นอกจากนี้รัฐบาลยังเล็งเห็นถึงโอกาสจากการมีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย - ญี่ปุ่น (JTEPA) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2550 เพื่อขยายช่องทางการค้าระหว่างกัน รวมถึงการอำนวยความสะดวกทางการค้าและความร่วมมือสาขาต่าง ๆ โดยญี่ปุ่นได้ให้สิทธิพิเศษการยกเว้นภาษีนำเข้ากล้วยจากประเทศไทยเป็นจำนวน 8,000 ตัน ซึ่งไทยยังสามารถส่งออกกล้วยได้อีกจำนวนมาก ควบคู่กับการเตรียมแผนงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งออกให้แก่กลุ่มเกษตรกรไทย โดยในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 นี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะนำผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นลงไปให้ความรู้และเตรียมความพร้อมในการส่งออกแก่กลุ่มสหกรณ์ผู้ปลูกกล้วยไทย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการหรือเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายด่วน 1169 บริการให้คำปรึกษาด้านการค้าระหว่างประเทศ

“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในคุณภาพของผลไม้ไทยที่หลายประเทศต่างให้การยอมรับ ซึ่งผลการเจรจาการค้าดังกล่าวจะเป็นลู่ทางสำคัญที่สามารถขยายโอกาสทางการค้าได้ โดยกล้วยสดและผลิตภัณฑ์กล้วยแปรรูปของไทย มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ มีนวัตกรรมแปรรูปสินค้าได้น่าสนใจ ซึ่งสามารถดึงดูดตลาดผู้บริโภคได้หลากหลายกลุ่ม โดยรัฐบาลพร้อมที่จะผลักดันผลไม้ไทยให้เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ ควบคู่กับการพัฒนาและสนับสนุนภาคการผลิต ทั้งจากผู้ประกอบการและกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตให้มีความพร้อมเพียงพอ สามารถรองรับตลาดต่างประเทศได้อย่างเต็มศักยภาพ” นายอนุชาฯ กล่าว