"เลขา กกต." ชี้ ต้องรับรอง "พิธา" เป็น ส.ส.ก่อนถึงจะมีช่องสอบคุณสมบัติ ตอนนี้สอบได้แค่คดีอาญา ม.151 รู้ว่าสมัครไม่ได้แต่ยังลงสมัคร เผยมีสถานะ ส.ส.แล้ว สมาชิกสามารถเข้าชื่อ 1 ใน 10 ร้องถึงศาล รธน.ได้เลย

9 มิ.ย. 66 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการพิจารณาคำร้องตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีถือหุ้น itv ว่า เรื่องนี้มีปัญหาทางเทคนิคอยู่เล็กน้อย คือผู้ร้องมาร้องก่อนวันเลือกตั้ง 2 วัน แต่กฎหมายกำหนดกรณีมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ต้องร้องภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง สำนักงานจึงต้องพิจารณาว่าสิ่งที่ร้องมีเหตุหรือมีมูลที่จะดำเนินการต่อไปหรือไม่ เพื่อเสนอให้ กกต.พิจารณา และทาง กกต.มีความเห็นว่า ให้ทำให้รอบคอบและเสนอขึ้นไปใหม่ ดังนั้นเรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของสำนักงาน

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวจะดำเนินการตามมาตรา 151 คือรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. แต่ยังคงลงสมัคร นายแสวง กล่าวว่า เรื่องการมีลักษณะต้องห้ามของการลงสมัครรับเลือกตั้ง หากเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งต้องส่งศาลฎีกาวินิจฉัย แต่ระหว่างรอประกาศผลการเลือกตั้ง ยังเป็นช่องโหว่อยู่ ทำให้ตอนนี้ สามารถทำได้แต่คดีอาญา ตามมาตรา 151 คดีคุณสมบัติยังพิจารณาไม่ได้ เพราะยังไม่เป็นส.ส.

ส่วนเมื่อประกาศรับรองผลไปแล้ว การให้พ้นจาก ส.ส. ก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 คือ สมาชิกรัฐสภา 1 ใน 10 เข้าชื่อ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึง กกต.ก็สามารถยื่นได้แต่เราต้องมีพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง

"คำร้องร้องว่า คุณไม่มีคุณสมบัติในการลงสมัคร ส.ส. เพราะคุณมีลักษณะต้องห้ามที่กฎหมายกำหนด เมื่อคุณไม่มีคุณสมบัติก็จะไปสู่ ข้อหารู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติ แต่ยังลงสมัคร ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 151 แต่เรื่องของการพ้นเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ซึ่งตอนนี้ยังเป็นอนาคตที่มาไม่ถึง ยังไงก็ต้องประกาศผลให้เป็น ส.ส.ไปก่อน เพราะพ้นในช่วงการยื่นของศาลฎีกามาแล้ว กกต.ไม่มีอำนาจไม่ประกาศ แต่สามารถพิจารณาคดีอาญาได้"