เกิดเหตุลูกเขยคลุ้มคลั่ง ยิงถล่มพ่อตาแม่ยายตาย 2 ศพ ในพื้นที่ ต.บ้านปรก จ.สมุทรสงคราม เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 พ.ค.2566 พ.ต.ต.ชุติมา บรรจงปรุ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุคลุ้มคลั่งยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสในบ้าน เลขที่ 11/1 ม.2 ต.บ้านปรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสงคราม จึงไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรโณ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม นำกำลังชุดสืบสวน สอบสวน ป้องกันและปราบปราม ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.สมุทรสงคราม เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว และมีเสียงปืนดังออกมาประมาณ 3 ชุดๆละประมาณ 9 นัด เจ้าหน้าที่จึงถอยออกมาห่างประมาณ 100 เมตร โดยไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปรับคนเจ็บ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่งยังถือปืนอยู่ในบ้าน ต่อมาได้ให้ญาติเจรจาจนผู้ก่อเหตุทราชื่อต่อมาคือ นายไพโรจน์ เป็นเขยของผู้ตาย ถือปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 ม.ม. ซึ่งอาวุธก่อเหตุที่ใช่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเข้าให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บแต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย คือ นายโชติพัฒน์ อายุ 56 ปี สมาชิกสภา อบต.บ้านปรก หมู่ 2 นอนเสียชีวิตอยู่ลานหน้าบ้านสภาพนอนหงาย เบื้องต้นพบถูกยิงที่ลำคอ 1 นัด และ นางพัชรีย์ อายุ 57 ปี ภรรยานอนคว่ำเสียชีวิตบริเวณประตูเข้าบ้านถูกยิงด้านหลัง โดยมีสุนัขคู่ใจนอนเฝ้าไม่ห่างสีหน้าโศกเศร้า บริเวณหน้าบ้านพบปลอกกระสุนและหัวกระสุนหลายสิบนัด

นายไพโรจน์ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเขยเล็ก เล่าว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่แต่งานมาตนถูกกดดันจากพ่อตาแม่ยายมาโดยตลอด เวลาเงินไม่พอใช้ในบ้านก็ให้คนเป็นคนออกให้ตลอด กระทั่งสุดทำให้ถึงขีดสุดเนื่องจากคู่เขยใหญ่เข้ามาอยู่บ้านไม่ถึงเดือน และทำเว็บพนัน ตนกลัวจะมีปัญหาจึงปรึกษาแม่ยาย แต่แม่ยายกลับไปฟ้องเขยใหญ่ อีกทั้งคู่เขยยังไปยุพ่อตาว่าตนจะไปยิงพ่อตาเพื่อหวังฮุบสมบัติ และยังขู่จะยิงลูกหลานของตน ซึ่งตนมีคลิปเป็นหลักฐาน อีกทั้งคู่เขยยังขโมยไฟหลวงใช้ ตนก็กลัวจะมีปัญหา ที่ผ่านมาตนไม่อยากมีปัญหากับใคร เพราะเคยติดคุกมาก่อน อยากกลับตัวเป็นคนดี แต่กลับถูกกดดันมาโดยตลอด วันนี้ตนจึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบก่อเหตุในครั้งนี้

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานให้ละเอียด เพื่อแจ้งข้อหานายไพโรจน์ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดต่อไป