"ทนายอั๋น" บุรีรัมย์เรียกร้องให้ ส.ส. และ ส.ว. แสดงความกล้าโหวตให้ "พิธา" เป็นนายกรัฐมนตรี อย่าฟืนฉันทามติเสียง อย่าถ่วงเวลาเพื่อเห็นแก่ผลประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติ

19 พ.ค.66 นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น ทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นกรณีที่ ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนมาเป็นอันดับ 1 ถือเป็นเจตจำนงค์ของประชาชนคนไทยที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง ซึ่งถ้าเป็นต่างประเทศเขารู้ตัวนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ประเทศไทยทำไมมีเงื่อนไขเยอะแยะมากมาย แล้วเงื่อนไขเหล่านั้นไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์เลย แต่เป็นเงื่อนไขที่เอามาสกัดถ่วงเวลา ดังนั้นในฐานะที่เป็นคนบุรีรัมย์ ก็อยากจะเป็นตัวแทนเรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้รับคะแนนเป็นอันดับ 3 อย่าสวนมติของพี่น้องประชาชน ด้วยการโหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี อยากให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ถึงแม้พรรคภูมิใจไทยว่าจะไม่ได้ถูกเทียบเชิญให้ไปเป็นพรรคร่วมก็ตาม


ทั้งนี้ยังได้ฝากถึง ส.ว. เมื่อการเลือกตั้งมันชัดเจนที่ประชาชนต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง อยากเห็นคนรุ่นใหม่มาบริหารประเทศ ก็ไม่ควรจะสวนมติ ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกวิถีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เชื่อว่า สว.ที่ต่างเป็นผู้ที่มีคุณวุฒิ และก็เป็นการโหวตครั้งสุดท้ายด้วย ควรทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับคนไทย และเชื่อว่าน่าจะเป็นสิ่งที่คนไทยอยากเห็นมากที่สุดก็อย่าได้ฟืนมติของประชาชนเสียงส่วนใหญ่เลย


นอกจากนั้นยังอยากเห็นการแสดงความกล้าหาญของพรรคการเมืองอื่นๆไม่ว่าจะเป็นพรรคลุงตู่ ลุงป้อม รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ ถึงแม้จะพรรคเหล่านี้ถ้าจะไปรวมกับ สว. แล้วอาจจะมีคะแนนที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็อยากเห็นพรรคเหล่านี้แสดงความกล้าหาญยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชน เพราะผลคะแนนที่ออกมามันชัดเจนมาก เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ เพราะหากถ่วงเวลาออกไปนานยิ่งทำให้ประชาชนขาดโอกาสจะได้รับการแก้ไขปัญหาต่างๆ และอาจกระทบถึงเศรษฐกิจของประเทศด้วย