เจ้าหน้าที่ จากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย , กรมโยธาธิการและผังเมือง ลงพื้นที่ตรวจอาคารหลังตลาดประชานิเวศน์ทั้ง 177 คูหา หลังเมื่อวานนี้เกิดเหตุอาคารส่วนหนึง ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารเดียวกันพังถล่มลงมา จากการตรวจสอบพบเป็นอาคารอันตราย และเตรียมหารือให้ผู้อยู่
เจ้าหน้าที่จาก กรุงเทพมหานคร หรือ กทม. ประกาศเขตอันตรายรอบพื้นที่อาคารหลังตลาดประชานิเวศ หลังเมื่อวานนี้เกิดเหตุ อาคารพานิชย์ 3 ชั้น 14 คูหา พังถล่มลงตั้งแต่ชั้นบนลงมา ทำให้รถยนต์ ที่จอดอยู่ด้านล่างได้รับความเสียหายประมาณ 5 คัน
ผู้อำนวยการเขตจตุจักรเปิดเผยว่า อาคารที่ถล่มลงมา เป็นอาคารกลุ่มเดียวกันที่สร้างอยู่รอบตลาดประชานิเวศ มีทังหมด 19 กลุ่มอาคาร 177 คูหา ซึ่งสำนักงานตลาด กทม เป็นเจ้าของ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย,กรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่กทม พบว่าอาคารทั้งหมดเสื่อมสภาพ และประกาศเป็นเขตอันตราย ต้องเร่งหารือเพื่อ อบพยบผู้อยู่อาศัยออกนอกอาคารโดยด่วนในช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากอาจเกิดเหตุแบบอาคารที่พังถล่มลงมาได้ ก่อนที่จะเกิดเหตุอาคารถล่ม ผู้อำนวยการสำนักงานตลาด กทม เปิดเผยว่า ไม่ได้เก็บค่าเช้า ตั้งแต่ทำการยกเลิกสัญญาเช่าอาคารตั้งแต่ปี 2557 และทำหนังสือแจ้งเป็นยังผู้อยู่อาศัยมากกว่า 3 ครั้งแล้ว ว่าอาคารทั้ง 177 คูหา เป็นอาคารอันตราย และต้องออกจากพื้นที่ แต่ผู้อาศัยไม่ยอมออก จึงดำเนินการดำเนินคดีทางแพ่งผู้อาศัยทั้ง 177 คูหา แต่คดียังไม่สิ้นสุดและเกิดเหตุอาคารถล่มก่อน
ทีมข่าวสอบถามผู้อาศัยอาคารดังกล่าวให้ข้อมูล ว่า มีทั้งที่เป็นผู้เช่าอาศัยเดิมอยู่จริง และและมีการเช่าช่วงต่อ แม้ กทมจะยกเลิกสัญญาการเช้าและไม่เก็บค่าเช่ามานานแล้ว แต่ผู้เช่าช่วงต่อบางรายยังต้องจ่ายค่าเช่าให้กับเจ้าของเดิมที่อยู่อาศัย ซึ่งในประเด็นนี้ทาง กทม จะไปพิจารณาทางกฎหมายต่อว่าจะดำเนินการฟ้องร้องได้หรือไม่ ส่วนทรัพย์สิน โดยเฉพาะรถยนต์ที่พังเสียหาย ยังอยู่ระหว่างการหารือว่าจะมีแนวทางเยียวยาอย่างไร แต่เบื้องต้นจะจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้อาศัยที่พังถล่มลงมา ครบครัวละ 3พันบาท