เดือด "ทิพานัน"ชี้ "ทักษิณ"กลับไทยได้ทุกเวลา แต่ไม่ยอมกลับเอง ยกชะตากรรมอดีต3รมต.ยุครัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ และ บิ๊กธนาคาร ติดคุกเพราะเอื้อประโยชน์ธุรกิจคนในตระกูลชินวัตร

25 มี.ค. 66 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ พร้อมกลับประเทศไทยหลังการเลือกตั้งว่า นายทักษิณสามารถกลับประเทศไทยได้ทุกเวลา แต่ที่ผ่านมาไม่ยอมกลับมาเอง ทั้งที่มีรัฐมนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้องในยุครัฐบาลทักษิณ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับโทษจำคุกในคดีทุจริตที่เอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจและคนในตระกูลชินวัตร ไม่ว่าจะเป็น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ถูกศาลฎีกาฯ ตัดสินจำคุกในคดีแก้ไขสัญญาสัมปทานเอื้อประโยชน์ บริษัท ชินคอร์ปฯ ที่ตระกูลชินวัตรเคยถือหุ้นใหญ่ โดยถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา จนได้รับการพักโทษ


น.ส.ทิพานันกล่าวว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ศาลฎีกาสั่งจำคุก 2 ปี กรณีสมัยเป็นรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยเซ็นคำสั่งราชการเกี่ยวกับเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟและหมู่บ้านอัลไพน์ ที่เป็นของตระกูลชินวัตร และนางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ถูกศาลฯตัดสินจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ จากกรณีสมัยรับราชการอยู่กรมสรรพากร ได้ร่วมกับพวกช่วยเหลือนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของนายทักษิณ เลี่ยงเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสีย ในการซื้อหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น


น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นอกจากนี้ยังนายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย ที่ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 18 ปี ในคดีปล่อยกู้ให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร ที่มีการขยายผล จนมีการสอบสวนเอาผิดนายพานทองแท้ ชินวัตร และฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ แต่ศาลยกฟ้องนายพานทองแท้ในเวลาต่อมา


“นายทักษิณ ที่หลบหนีคดีไปใช้ชีวิตสุขสบายในต่างแดน กลับบอกว่าตนเองทรมานมามากแล้ว แม้มันไม่ใช่ราคาที่จำเป็นจะต้องจ่าย มันเทียบไม่ได้เลยกับการที่พวกเขาเหล่านี้ล้วนได้รับบทลงโทษติดคุกสูญเสียอิสรภาพ และต้องดิ้นรนต่อสู้คดี และไม่เคยมีสักครั้งที่นายทักษิณจะออกมาขอโทษในสิ่งที่ตนเองทำ มีแต่กล่าวโทษกระบวนการยุติธรรม”น.ส.ทิพานัน กล่าว