เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง บุกเข้าตรวจยึด ไม้นนทรี 150 ท่อน ที่บริเวณว่าการอำเภอละงู จังหวัดสตูลหลังผู้นำท้องถิ่น ยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล สงสัยการทำงานของนายอำเภอละงู และปลัดอำเภอ ว่าเรียกรับผลประโยชน์และทำงานร่วมกันยากลำบาก
ความคืบหน้าหลังผู้นำท้องที่และท้องถิ่น ในพื้นที่อำภอละงู จังหวัดลุกขึ้นมาขับไล่ นายศิลปชัย เรือนสูง นายอำเภอละงู และ นายเชิดพงษ์ ใจตรง ปลัดป้องกันออกจากพื้นที่ด้วยอ้างเหตุเรียกรับผลประโยชน์และทำงานร่วมกันยากลำบาก โดยยื่นหนังสือผ่านนายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ก่อนจะมีการสั่งย้ายภายใน 24 ชั่วโมง
ล่าสุด เย็นวานนี้เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สต.2 ทุ่งหว้า เข้าตรวจสอบหลังรับแจ้งว่ามีการซุกซ่อนไม้จำนวนมากไว้ที่สนามกีฬายิงปืนอำเภอละงู (สนามร้าง) ตั้งอยู่ในบริเวณที่ว่าการอำเภอละงูหมู่ที่ 12 ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นไม้นนทรีถูกตัดกองเป็นท่อนๆ ขนาดความยาว 2-3 เมตร 150 ท่อน เส้นกว้างรอบวง 120-130 เซนติเมตร ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นไม้ถูกต้องหรือไม่ ต้องตรวจสอบไปทางที่ว่าการอำเภอละงูก่อนว่าไม้ที่พบมาจากที่ใด หากนำมาจากพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ก็ถือว่าถูกต้อง แต่หากนำมาจากพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์การครอบครอง ก็จะมีความผิดในทันที เนื่องจากเป็นไม้หวงห้ามตาม พ.ร.บ.ป่าไม้หากครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตรถือว่ามีความผิดซึ่งต้องให้ทางอำเภอละงูชี้แจงอีกครั้ง เบื้องต้นจะตรวจยึดไว้ตรวจสอบก่อน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ มีนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง อบต.และเทศบาลรวมทั้ง 7 แห่ง พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล เข้าพบ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ขอให้พิจารณานายอำเภอละงู และปลัดอำเภอละงู ย้ายออกจากพื้นที่จังหวัดสตูล โดยมีนายอภิชาต ราโอบ กำนันตำบลเขาขาว ประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอละงู เป็นตัวแทนมอบหนังสือ ทั้งนี้ ในหนังสือดังกล่าวระบุกล่าวหานายอำเภอละงูว่า อปท.ทั้ง 7 แห่งใน อ.ละงู รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อ.ละงู ต่างประสบความยากลำบากในการบริหารงาน ทำให้การทำงานติดขัดล่าช้าไม่ประสบความสำเร็จ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านไม่ได้ เนื่องจากการบริหารงานของนายศิลปชัย เรือนสูง นายอำเภอละงู ที่พบว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทำงานไม่โปร่งใส ที่สำคัญไม่เข้าใจต่อระเบียบกฎหมายของ อปท. ไม่ยอมเซ็นอนุมัติในบางเรื่อง ขาดภาวะความเป็นผู้นำ ทำให้เกิดความแตกแยก และในวันเดียวกัน กรมการปกครองมีคำสั่งย้ายนายศิลปชัย เรือนสูง นายอำเภอละงู เข้ากรมทันทีหลังมีข้อร้องเรียน ขณะที่นายศิลปชัย ระบุว่า ยินดีให้ตรวจสอบ และพร้อมจะชี้แจงทุกข้อกล่าวหา เพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง และพร้อมจะรับคำสั่งจากทางกรมฯ หากมีคำสั่งย้ายในทันที