"พิธา" ยันเบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท ทำได้จริง จากการรีดไขมันงบกองทัพฯ ย้ำ"โปลิตบูโร"คือกก.บห.ออกมติคัดว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. มั่นใจ "คริส"ออกจากพรรคไม่กระทบฐานเสียงกทม.

11 ก.พ. 66 นายพิธา ลิมเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงเรื่องนโยบายเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุ3000บาท ที่ปัจจุบันมีกลุ่มผู้สูงอายุ 12ล้านคน คิดเป็นเงิน 4.2แสนล้านบาท ต่อปี ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้นำมาจากการรีดไขมันกองทัพ และบางส่วนจากงบกลาง รวมถึงงบจากกำไรรัฐวิสาหกิจ และการเก็บภาษีที่ดินรวมแปลง ซึ่งงบประมาณเหล่านี้หากนำมารวมกันก็จะมีงบประมาณ 5แสนล้านบาท ก็จะเป็นงบรัฐสวัสดิการประชาชน ซึ่งจะทำให้เห็นว่ามีเงินจ่ายและทำได้จริง

 

ส่วนประเด็นการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคก้าวไกลบริหารพรรคด้วยระบบโปลิตบูโร ที่มีคนควบคุมกรรมการบริหารพรรคอีกทีหนึ่งเป็นคนคัดเลือกผู้สมัครลงเลือกตั้งส.ส. ในฐานะหัวหน้าพรรคยืนยันว่า การเลือกว่าที่ผู้สมัครส.ส.มาจากมติกรรมการบริหารพรรค และย้ำว่าโปลิส บูโรคือกรรมการบริหารพรรค ซึ่งหวังว่าจะมีความชัดเจนเพียงพอเป็นคำตอบ และไม่จำเป็นต้องทบทวนมติการเลือกว่าที่ผู้สมัครส.ส. และยืนยันว่าได้ทำอย่างดีที่สุด ส่วนการถอนตัวของว่าที่ผู้สมัครส.ส ในบางเขต ต้องมีการคัดสรรใหม่ เลือกคนมีอุดมการณ์และมีประสิทธิภาพ

 

ขณะที่การออกไปของนายคริส โปตระนันทน์ อดีตว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตพญาไท จะกระทบต่อฐานเสียงของพรรคหรือไม่นายพิธา กล่าวว่า ฐานเสียงของกทม.ของพรรคแน่นอยู่แล้ว โดยเฉพาะเป็นฐานเสียงที่มีความแตกต่าง จากพรรคอื่น คือรัฐสวัสดิการ และกรณีการใช้มาตรา112 มารังแกผู้เห็นต่างทางการเมือง ซึ่งกลุ่มฐานเสียงทั้ง2กลุ่มเป็นแฟนพันธุ์แท้ของพรรคก้าวไกลที่ไม่หายไปไหน หรือไม่ได้ทำให้พรรคเล็กลงแต่อย่างใด โดยอ้างถึงตัวเลขยอดเงินบริจาคให้กับพรรคสูงสุด 4 ปีซ้อนและยอดสมาชิกตอนนี้ เกือบ70,000คน ซึ่งพรรคที่เคยมีสมาชิกสูงสุดคือ100,000คน และเป็นเป้าหมายของพรรคก้าวไกล จึงเชื่อว่าการออกไปของนายคริสไม่ได้ทำให้พรรคเล็กลง

 

สำหรับข้อครหาเรื่องนักรบห้องแอร์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลชี้แจงว่าข้อมูลจะไม่โกหกใคร อย่างตนเองได้เดินทางลงพื้นที่มามากกว่า50,000กิโลเมตร ซึ่งหากจะเดินรอบโลกคือ 45,000กิโลเมตร พร้อมเปรียบเปรยว่า ทุกคนเคยเป็นตัวร้าย ในเรื่องเล่าของคนอื่นมาทั้งนั้น แต่ตัวเลขที่ตนกล่าวมาโกหกไม่ได้