"สมศักดิ์" แจง แก้กฎกระทรวงครอบครองยาบ้า ชี้หากมียาบ้าเกิน 1 เม็ดขึ้นไป ถูกตำรวจจับขังทันที นำตัวส่งศาลพิจารณา ว่าเป็นผู้เสพหรือค้า เผยเหตุต้องใช้ยาแรง เพราะการฟื้นฟูและการบำบัดทำไม่ทัน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมร่างแก้ไขกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ การครอบครองยาบ้า เกิน 1 เม็ด ถือเป็นผู้ค้าว่า เดิมทีการถือครองยาบ้า 5 เม็ด หากถูกตำรวจ หรือ ปปส.จับ จะสอบถาม กับผู้ที่เสพกับพกพามาว่า จะสมัครใจบำบัด หรือไม่สมัครใจ ก็ต้องส่งศาลพิจารณาคดี ซึ่งก่อนส่งศาลต้องถูกขังในห้องขังสถานีตำรวจ แต่หากเปลี่ยนกฎหมาย มาครอบครองเกิน 1 เม็ด จะเป็นผู้ค้านั้น ถ้ามียาบ้า 2 เม็ด ทุกคนจะต้องเข้าห้องขังทั้งหมด เมื่อครบ 48 ชั่วโมงแล้ว ต้องนำตัวส่งศาล ให้พิจารณาว่าเป็นผู้เสพ หรือเป็นผู้ค้า ดังนั้นหากใครครอบครองยาบ้าเกิน 1 เม็ด ก็ต้องถูกนำตัวเข้าไปขังทันที ซึ่งการใช้ยาแรง เป็นเพราะสถานการณ์ในช่วงเวลานี้ ที่การฟื้นฟูบำบัดยาเสพติดทำไม่ทัน เนื่องจากประมวลกฎหมายอาญา เรื่องยาเสพติด มอบหมายหน้าที่นี้ให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเห็นว่า แพทย์และพยาบาล ต้องเจอคนติดยาบ้า ที่มีอาการหลอนมากๆ ก็เป็นอันตราย จึงไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับตรงนี้มาก ในความเข้าใจของตน จึงให้มีการจับเข้าห้องขังทันที มี 2 เม็ดก็นำเข้าห้องขังไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย ของคนทำงาน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คงมองว่า ถ้าปล่อยไปแบบนี้ เป็นช่วงรอยต่อของการเลือกตั้ง ก็จะยิ่งไม่มีคนดูแลฟื้นฟู จึงตัดสินใจไปดำเนินการเวลานี้

 

เมื่อถามว่า นายสมศักดิ์ เห็นด้วยกับแนวคิดนี้หรือไม่นั้น นายมศักดิ์ระบุว่าก็ต้องดูผลที่เกิดขึ้น ตนไม่มีสิทธิ์ที่จะไปบอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ต้องทำไปตามนี้ เพราะไม่สามารถที่จะบำบัดฟื้นฟู ผู้ติดยาเสพติดได้ทัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าจะดี

 

ส่วนกฎหมายดังกล่าวจะทำให้สถานการณ์ยาเสพติดดีขึ้นหรือไม่  นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่เกี่ยวกัน เรื่องของยาเสพติดต้องยึดทรัพย์ แต่ในสถานการณ์ของคนที่ติดยา การฟื้นฟูบำบัด

 

เมื่อถามว่า ห้องขังจะพอหรือไม่ นายสมศักดิ์ ระบุว่า ตำรวจต้องขังได้ แต่หากส่งมาเรือนจำค่อยว่ากันในระยะต่อไป