เพื่อไทยแจ้งความเอาผิดอาญา - ร้อง กกต. เหตุ ‘ทิพานัน’ ใส่ร้ายพรรค ออกนโยบายคิดใหญ่ โกงเป็น ชี้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองควรทำประโยชน์ให้ประชาชน

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ได้ดำเนินคดีเอาผิดกับนางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 14  ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา หลังเผยแพร่ข่าวผ่านเว็บไซต์รัฐบาลไทย  www.thaigov.go.th  ระบุว่า ‘ทิพานัน ห่วงเพื่อไทยเปิดนโยบาย ซ้ำรอยอดีต คิดใหญ่ โกงเป็น จี้หยุดวาทกรรมเศรษฐกิจไม่ดี ยกผลประกอบธุรกิจตระกูลชินวัตร ตอกกลับขณะที่ภาคธุรกิจ 112 องค์กรจ่อขึ้นเงินเดือน’  โดยใช้ถ้อยคำในลักษณะที่ทำให้ผู้เห็นและอ่านข้อความ  มีความเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่ไม่ดี คิดทำนโยบายเรื่องใหญ่เพื่อหวังจะโกงหรือทุจริต  ซึ่งล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น   พรรคเพื่อไทยจึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน ให้ดำเนินคดีกับนางสาวทิพานัน ศิริชนะ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง กรณีนำเสนอข่าวดังกล่าว ทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง  ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และมาตรา 328 และความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง จนกว่าคดีจะถึงที่สุด 

 

นอกจากนี้ ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ยังได้ยื่นคำร้องต่อประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  ขอให้ดำเนินการสืบสวนและไต่สวน และดำเนินคดีกับนางสาวทิพานัน ตามมาตรา 169 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ 2561 เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 73(5) เป็นความผิดตามมาตรา 159 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ 2561  เนื่องจากการกระทำของนางสาวทิพานัน เป็นการเจตนาใส่ร้ายด้วยความเท็จ เพื่อจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครและพรรคเพื่อไทย และจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งงดเว้นการลงคะแนนให้กับผู้สมัครและพรรคเพื่อไทย

   

“การวิพากษ์วิจารณ์แนวนโยบายอย่างสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่สังคมสามารถทำได้ 

แต่ที่ผ่านมานางสาวทิพานัน ได้เผยแพร่ข่าวในลักษณะที่สร้างความเสียหายและความเข้าใจผิดต่อพรรคเพื่อไทยหลายครั้ง  แม้พรรคจะชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง และเตือนว่าให้ระมัดระวังอย่าพูดจาอะไรที่ล้ำเส้น  แต่นางสาวทิพานันยังไม่หยุด พรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฏหมาย ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ  การเป็นนักการเมือง  และเป็นสมาชิกพรรคการเมือง มีส่วนได้เสียโดยตรง ควรมุ่งหวังไปที่การหาวิธีการที่ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน แก้ปัญหาที่พี่น้องประชาชนประสบอยู่ ไม่ใช่เอาแต่ใส่ร้ายทางการเมืองกันแบบนี้” นางสาวตรีชฎา กล่าว