"เจ๊จิม" เจ้าของฟาร์มหมูเมืองคอน ร้อง รพ. ผ่าตัดทำคลอดลูกคนที่ 4 ทิ้งผ้าก๊อซก้อนใหญ่ไว้ในช่องท้องนานเกือบ 4 ปี จังหวะล้มป่วยแพทย์เอกซเรย์พบวัตถุคล้ายก้อนเนื้อคิดว่าเป็นมะเร็ง ทำสภาพจิตทรุด เพ้อสั่งเสียสามีและญาติๆ เลี้ยงดูลูก 4 คนให้ดี ก่อนตรวจอีกครั้งจนพบความจริง

วันที่ 11 ธ.ค. 2565 สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ได้รับการร้องเรียนจากนางสุภาวดี หรือ "เจ๊จิม" อายุ 40 ปี เจ้าของธุรกิจฟาร์มหมูขนาดใหญ่ในเทศบาลเมืองปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่า เข้ารับการผ่าตัดคลอดบุตรเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2562 ที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง แต่หลังจากออกจาก รพ. ได้ล้มป่วย โดยมักจะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จับไข้ จนไม่สามารถเลี้ยงดูลูกและทำงานได้ คิดว่าสาเหตุมากจากการผ่าตัดคลอดลูก จึงเข้าๆ ออกๆ รพ.ต่อเนื่องหลายโรงพยาบาล ทั้ง รพ.รัฐและเอกชนแต่ก็ไม่หาย กระทั่งทำการเอกซเรย์ พบว่ามีวัตถุลักษณะคล้ายก้อนเนื้ออยู่ติดกับปีกมดลูกด้านหน้า ตนและสามีพร้อมด้วยญาติ ๆ ทุกข์ใจมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเกรงว่าก้อนที่เห็นในท้องจะเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็ง ถึงขั้นเพ้อและสั่งเสียสามีและญาติ ๆ ให้เลี้ยงดูลูก 4 คนของตนให้ดีที่สุด

ต่อมา ได้ตัดสินใจเดินทางไป รพ.มหาราช ตรวจ CT scan จนแพทย์จาก รพ.มหาราช พบว่า ก้อนที่เห็นอยู่บริเวณติดกับปีกมดลูกด้านหน้า ไม่ใช่เนื้อร้าย แต่เป็นเพราะทีมแพทย์ผ่าตัดทำคลอดลืมผ้าก๊อซไว้ในช่องท้องของตน มีขนาดประมาณ 7.0 x 9.4 x 7.8 ซม. ซึ่งทาง รพ.มหาราช ออกใบรับรองให้อย่างเป็นทางการ จึงนำผลการตรวจ CT scan จาก รพ.มหาราช พร้อมใบรับรองมาแจ้งกับทาง รพ.ที่ทำการผ่าท้องคลอดบุตรคนที่ 4 ให้กับตน ทำการผ่าตัดเอาผ้าก๊อซในช่องท้องออกเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2565 และนอนพักที่ รพ. 3 คืน ออกจาก รพ.วันที่ 3 พ.ย. 2565 รวมระยะเวลา 3 ปี กับ 8 เดือน ที่ตนต้องทนทุกข์ทรมานจากความบกพร่อง ประมาท สะเพร่าของแพทย์และทีมผ่าตัดคลอดบุตรให้กับตน ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังมีอาการเจ็บปวดแผลจากการผ่าตัดอยู่เล็กน้อย

หลังจากผ่าตัด ปรากฏว่าทางผู้บริหารและแพทย์ของ รพ. ดังกล่าว นำกระเช้าผลไม้ ดอกไม้ มามอบให้กับตน แต่ไม่ได้พูดเรื่องความรับผิดชอบแม้แต่น้อย และหายเงียบไปไม่มีการประสานงานติดต่อตนและครอบครัว ล่าสุดตนจึงเดินทางไปที่ รพ.ดังกล่าว ขอเข้าพบแพทย์และผู้บริหารโรงพยาลบาลเพื่อสอบถามถึงความรับผิดชอบในกรณีนี้ แต่ทาง รพ.ให้คำตอบว่าไม่มีนโยบายในการจ่ายเงินเชยค่าเสียหายให้กับคนไข้ที่มาเข้ารับการรักษาพยาบาลจาก รพ. ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินค่าเสียหายในกรณีนี้จำนวน 8 แสนบาทเศษ ในขณะที่ทาง สปสช.ได้จ่ายให้ตามสิทธิ์ของผู้ถือบัตรทองจำนวน 1 แสนบาทเศษ ซึ่งไม่เกี่ยวกับความรับผิดชอบของ รพ. และแพทย์ผู้กระทำการบกพร่องแต่อย่างใด และทาง รพ.เสนอให้สิทธิ์ตนในการเข้ารับการรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลดังกล่าวในอนาคตครั้งต่อ ๆ ไปเป็นกรณีพิเศษ

นางสุภาวดี กล่าวอีกว่า เกือบ 4 ปีที่ตนต้องทนทุกข์ทรมาน เจ็บป่วยเข้า ๆ ออก ๆโรงพยาบาล เสียโอกาสในการทำงานหรือประกอบธุรกิจ จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้ทาง รพ. และคณะแพทย์ที่ผ่าตัดทำคลอดตนเมื่อเกือบ 4 ปีก่อนออกมาแสดงความรับผิดชอบให้เหมาะสมด้วย หากยังเงียบหายไม่มีความคืบหน้าใดๆ จะเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีต่อไป