"ทนายตั้ม" แฉยิบวีรกรรม "ทนายคดีกกกอก" ข่มขืนสาว 16 หลอกให้กินน้ำส้มก่อนกระทำชำเรา ยันไม่ใช่เป็นการดิสเครดิตทนายด้วยกัน

7 ธ.ค. 65 ที่สน.บางยี่ขัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงกรณีที่โพสต์เฟซบุ๊ก โดยระบุว่า มีเด็กผู้หญิงอายุ 16 เขียนจดหมายมาหาผม ว่าถูกอดีตทนายคดีดัง กกกอกข่มขืน ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีนานกว่า 2 เดือน แต่คดีไม่คืบ ตามที่นำเสนอไปแล้ว


ว่า ตนเห็นจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ที่โต๊ะในสำนักงานเมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.) ก่อนจะเปิดออกมาและเห็นข้อความจากน้องคนหนึ่งที่เขียนเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองที่ถูกกระทำ โดยเนื้อหาเกี่ยวข้องกับทนายคนหนึ่งที่ตอนนี้ทำคดีของลุงพลอยู่ที่บ้านกกกอก ซึ่งทนายคนนี้เขาเป็นคนเข้ามาช่วยเหลือเรื่องการเรียนของน้องผู้เสียหาย แต่ปรากฏว่ากลับก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศน้องถึง 3 ครั้ง โดย ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.64 ซึ่ง ทนายคนนี้ได้มาที่ห้องพักของน้อง ก่อนเอาน้ำส้มมาให้น้องผู้เสียหายดื่ม และก่อเหตุล่วงละเมิศโดยที่น้องเขาไม่ยินยอม

 

เบื้องต้นหลังจากได้รับจดหมาย ตนจึงโทรศัพท์ไปพูดคุยกับน้องผู้เสียหายแล้วถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยได้รับการยืนยันว่า ผู้เสียหายถูกล่วงละเมิดจริงโดยไม่ได้เต็มใจ แต่ยอมรับว่าทนายคนนี้เป็นคนรับน้องมาส่งเสียเลี้ยงดู ซึ่ง หลังเกิดเรื่องจึงไปแจ้งความเอาไว้ที่ สน.สุทธิสาร เมื่อช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา

 

นายษิทรา กล่าวต่ออีกว่า ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามร้อยเวรที่ทำคดีนี้ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีมูลความจริงหรือไม่ด้วย ซึ่งทางตำรวจ กล่าวในเบื้องต้นมีหลักฐาน คือ แชทไลน์ที่คุยกันระหว่างเด็กกับทนาย และคลิปวิโอบางส่วน โดยหลังจากนี้ตนจะต้องนัดให้เด็กมาพูดคุยสอบถามอีกครั้งว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร แต่แน่นอนว่าเด็กอายุเพียง 16 ปี แม้ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ยินยอม แต่แน่นอนว่าผิดในฐานพรากผู้เยาวน์อยู่แล้ว

 

ทั้งนี้นายษิทรา ยืนยันว่า โดยส่วนตัวไม่ได้รู้จักกับทนายคนดังกล่าวเป็นการส่วนตัว และยอมรับว่าไม่ได้รู้เรื่องราวลึกๆ ของเหตุการณ์นี้ จึงยังไม่สามารถฟันธงอะไรได้ แต่เท่าที่เห็นในใบแจ้งความลงบันทึกประจำวันก็บ่งบอกได้ว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศจริง พร้อมยืนยันว่าการที่ออกมาพูดไม่ใช่เป็นการดิสเครดิตทนายด้วยกันหรือไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีของลุงพล โดยหลังจากนี้จะมีการนัดให้น้องมาพูดคุยก่อนในช่วงวันที่ 15 ธ.ค. นี้ เบื้องต้นได้ประสานทางตำรวจถึงแนวทางความคืบหน้าคดีแล้ว รวมถึงยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายที่น้องผู้เสียหายเรียกร้องไป 100,000 บาท สำหรับสภาพจิตใจของผู้เสียหายนั้น เบื้องต้นเท่าที่พูดคุยกัน สภาพจิตใจไม่ค่อยดีเท่าที่ควร