หนุ่มผู้ค้ำประกัน ร้องพ่อพระเอกช่องหลายสีไม่ผ่อนรถยนต์ จนต้องถูกบังคับคดียึดทรัพย์ ประสานลูกชายก็เงียบ วอนให้รับผิดชอบด้วย

นายคำสิงห์ อายุ 43 ปี ร้องเรียนว่าตนเองได้ไปการค้ำประกันการซื้อรถ ราคา 528,000 บาท ให้กับบุคคลรายหนึ่งซึ่งเป็นบิดาของพระเอกช่องมากสี แต่ถูกคำบังคับคดีศาล ให้ทำการยึดทรัพย์ของตนเอง ในฐานะคนค้ำ เนื่องจากผู้ซื้อ ไม่จ่ายค่างวด และไม่ยอมคืนรถยนต์ที่ผ่อนซื้อ 

 

นายคำสิงห์ เผยว่า เมื่อปีพ.ศ. 2562 ตนเองได้ไปค้ำประกันรถยนต์ให้พ่อดาราคนหนึ่ง ซึ่งแกไม่ผ่อนรถตามสัญญา โดยนำรถไปจำนำและขายต่อ ซึ่งในการนำสืบของบริษัทที่เช่าซื้อทราบว่ารถยนต์คันนี้ไม่สามารถนำไปคืนไฟแนนซ์ได้ ถูกขายทอดตลาดไปแล้ว จนกระทั่ง 2 ปีต่อมา มีหมายศาลมาให้ ผู้เช่าซื้อไปขึ้นศาล แต่แกก็ไม่ยอมไปตามหมายศาล กระทั่งเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ได้มีหมายบังคับคดีมาที่ตนเองในฐานะที่เป็นผู้ค้ำ ตรวจสอบรายละเอียด ว่าตนเองจะโดนยึดบ้าน ยึดที่ดิน ยึดทรัพย์สิน ซึ่งบุคคลดังกล่าว ไม่รับผิดชอบอะไรเลย บ้านก็จะโดนยึดในสองสามวัน ตัดสินใจไปหาครอบครัวบุคคลดังกล่าว แต่ทางนั้นเขาไม่ช่วยอะไรสักอย่าง ตนจึงตัดสินใจเด็ดขาดนำรถยนต์ของตนเองไปเข้าไฟแนนซ์ ราคา 3 แสนกว่าบาท เพื่อไปจ่ายกับบังคับคดี เนื่องจากเกรงทรัพย์สินจะถูกยึด 

 

แต่เรื่องยังไม่จบ หลังจากที่ตนเองหาเงินไปปิดคดีไม่ให้ถูกยึดบ้านและที่ดิน ยังมีหนี้สินระหว่างตนกับบุคคลดังกล่าว เนื่องจากตนเองมีความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จากการที่นำเงินไปปิดบัญชีรถ และดอกเบี้ยเงินกู้ไฟแนนซ์ที่มันสูงมากแต่ละเดือน จึงนัดพูดคุยไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.น้ำพอง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 โดยได้ตกลงกันว่าทางผู้กู้ จะขอแบ่งจ่ายเป็น 12 งวด ๆ ละ 25000 บาท โดยงวดแรกเริ่มวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 โดยมีข้อแม้ว่า หากผู้กู้ผิดสัญญาชำระเงินกู้ ผู้กู้ยินยอมจ่ายดอกเบี้ยร่วมให้กับผู้ให้กู้เป็นเงินจำนวน 27000 บาท โดยสัญญาในการกู้ยืมเงินจำนวน 300000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) ซึ่งได้ลงบันทึกการทำสัญญากันต่อหน้าพนักงานสอบสวน

 

หลังจากที่ได้ทำสัญญากัน ทางผู้กู้ไม่ได้จ่ายเงินตามสัญญา จนเวลาล่วงเลยผ่านไป ทางบุคคลดังกล่าว ได้แจ้งว่าจะจ่ายให้เพียง 25000 บาท และไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ยที่ทำสัญญาข้อตกลงกันไว้ โดยล่าสุดก็มีการนัดกันว่าไปไกล่เกลี่ยเรื่องการชำระเงินที่โรงพัก เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา สุดท้ายแกก็ไม่ไป โทรศัพท์หาก็ไม่รับสาย จึงตัดสินใจโทรไปหาลูกชายของบุคคลดังกล่าว โดย ลูกชายรับปากว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก่อนที่ตนเองจะนำเงินไปปิดกรมบังคับคดี จะไม่มาถึงแน่นอน แต่ถ้าหากว่าจวนตัวจริง ๆ ลูกชายจะจ่ายหนี้ให้ได้ แต่ตอนนี้ผมจวนตัวแล้ว ทางครอบครัวเขาไม่ทำตามคำพูด ไม่สามารถช่วยผมได้เลย ผมต้องแบกภาระอยู่เพียงคนเดียว ไหนจะเงินที่บุคคลดังกล่าวไม่รับผิดชอบ และหนี้สินที่ตนต้องเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ ซึ่งตนเองขอแค่ให้ทางฝ่ายครอบครัวดาราให้มาปิดปัญชีทั้งหมดให้กับตนเองเท่านั้นเอง