สาวถูกสามีเมายาเสพติด ซ้อมจนใบหน้าปูดบวม ก่อนถูกฝ่ายชายท้าทาย ให้ตัดนิ้วตัวเอง หรือใช้เชือกผูกคอ เพื่อพิสูจน์รักเเท้ สุดท้ายหญิงสาวตัดสินใจตัดนิ้วตัวเอง

เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ นครปฐม จุดบางเลน เร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ หลังจากรับแจ้งเหตุ สามีภรรยาทะเลาะเเละทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ ที่ห้องเช่าหลังหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลนราภิรมย์ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

โดยพบหญิงสาวอายุ 16 ปี นั่งรออยู่ในบ้าน ในสภาพหน้าตาบวมเขียวช้ำ นิ้วชี้ข้างขวาพันด้วยพลาสเตอร์ และนิ้วก้อยข้างขวาพันด้วยกระดาษมีคราบเลือดเปียกชุ่ม

หญิงสาว บอกว่า ทะเลาะกับสามี (นายโอ๋) อายุ 21 ปี ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 23 ตุลาคม กระทั่งช่วงบ่ายของวานนี้ ก็ได้เกิดมีปากเสียงกับนายโอ๋ถึงขั้นลงไม้ลงมือ จนได้รับบาดเจ็บ ใบหน้าปูดบวม ส่วนนิ้วก้อยมือขวาที่ขาด เป็นคนตัดนิ้วเอง เพื่อพิสูจน์ให้สามีเชื่อในสิ่งที่ตนเองพูด

จากนั้นได้นำนิ้วที่ขาดไปใส่ถุงแช่น้ำแข็งไว้ แต่พอเอามาให้เจ้าหน้าที่ดู ปรากฎว่าน้ำแข็งละลาย ทำให้เซลล์ตาย ไม่สามารถต่อนิ้วได้ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล

ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปยังอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม โดยพบกับ "นายวุฒินันท์ กุลพญา" เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ ประจำจุดบางเลน เล่าว่า สภาพจิตใจของหญิงสาวตอนนั้นยังอยู่ในอาการช็อก และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยรู้เพียงว่าเธอทะเลาะกับสามีอย่างรุนแรงและถูกทำร้าย ก่อนจะใช้กรรไกรตัดนิ้วของตัวเอง เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่างให้กับสามีได้เห็น จากนั้นเธอได้ถูกสามีทำร้าย ก่อนที่จะมีพลเมืองดีแจ้งตำรวจให้เข้าช่วยเหลือ

จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่า เมื่อวานนี้ช่วงบ่าย ได้ยินเสียงสามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันอย่างรุนแรง ได้ยินเสียงลักษณะเหมือนกับจับหัวโขกผนังห้อง ที่ผ่านมามักได้ยินสามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่ไม่รุนแรงเท่ากับเมื่อวานนี้มาก่อน จากนั้นเธอได้รีบไปแจ้งเจ้าของห้องเช่าและโทรศัพท์แจ้งตำรวจเพื่อให้เข้าระงับเหตุ

ขณะที่ทางครอบครัวฝ่ายหญิง เล่าว่า บ้านเช่าหลังที่เกิดเหตุ เป็นบ้านของฝั่งสามี โดยน้องได้มาอยู่ด้วยประมาณ 6 เดือนแล้ว
ที่ผ่านมาก็ได้ยินข่าวมาว่าน้องมักถูกทำร้ายอยู่บ่อยครั้ง จนบางครั้งก็ต้องหนีกลับมาบ้านที่กรุงเทพฯ แต่มักถูกสามีรายนี้ข่มขู่และจะนำคลิปมาประจาน ด้วยความหวาดกลัวน้อง จึงต้องกลับไปอยู่อีก ล่าสุด ทางครอบครัวนำน้องมาพักรักษาตัวที่บ้านพักในกรุงเทพฯ แล้ว ซึ่งใบหน้ายังคงปวดบวมอยู่

ส่วนนิ้วก็ไม่สามารถต่อได้แล้ว ยืนยันว่าหลังจากนี้ทางครอบครัวจะไม่ให้น้องกลับไปที่บ้านของสามีอีก เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย เเละสภาพจิตใจของน้องตอนนี้ก็ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

"เราก็รู้อยู่บ้างว่า เวลาเขาทะเลาะกัน ทางฝั่งผู้ชายเหมือนชอบทำร้าย ลงไม้ลงมือ แต่เราไม่แน่ใจว่าในแต่ละครั้งคำว่า ทำร้ายร่างกายมากน้อยแค่ไหน

เราก็กลัวหลานเราจะเเอบกลับไป ดังนั้นทางที่ดีที่สุดที่จะไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้น คือต้องเป็นไปตามแนวทางกฎหมายว่ามันจะต้องดำเนินไปแบบไหน"

ส่วนการดำเนินคดี ตำรวจคุมตัวนายโอ๋ มาที่สถานีตำรวจภูธรบางเลน และอยู่ระหว่างการสอบสวน

โดยแม่ของนายโอ๋ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาลูกชายมักจะทำร้ายลูกสะใภ้เป็นประจำ แต่ตัวเองก็ไม่ได้นิ่งดูดายและพยายามห้ามปราม บางครั้งจะเรียกตำรวจมาแล้วหลายครั้ง แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็กลับมาดีกันอีก ส่วนที่นิ้วถูกตัดนั้น ตัวลูกสะใภ้เป็นคนใช้กรรไกรตัดเอง เพื่อประชดและพิสูจน์ให้ลูกชายเชื่อใจกรณีทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องหึงหวง หลังจากนี้ก็เตรียมประกันตัวลูกชาย โดยหวังว่าหากสิ้นสุดคดีแล้ว ก็อยากให้ลูกชายเข้าไปเป็นทหารเพื่อปรับปรุงวินัย

เบื้องต้นจากการตรวจร่างกายของนายโอ๋ พบว่ามีปัสสาวะสีม่วง สอดคล้องจากการสอบปากคำก็พบว่านายโอ๋ ได้เสพยาเสพติดก่อนลงมือก่อเหตุ

เบื้องต้นตำรวจ เตรียมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ ข่มขู่ให้ผู้อื่นตกใจกลัว และเสพยาเสพติด

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ระหว่างทั้งคู่พยายามเคลียร์ใจ นายโอ๋ได้บอกภรรยาว่า ถ้าหากรักกันจริง ก็ให้ใช้เชือกผูกคอหรือจะใช้กรรไกรตัดนิ้ว เพื่อพิสูจน์ ทำให้น้องเลยตัดสินใจเลือกใช้กรรไกรตัดนิ้วแทน