ร่าง 1 ใน 2 ฝีพาย เคลื่อนถึงบ้านเกิด ที่จ.บุรีรัมย์แล้ว ขณะที่แม่ร่ำไห้ยังทำใจไม่ได้ เผยลูกพายเรือตั้งแต่อายุ 15 ปี ไม่คิดจะเกิดเรื่องร้ายแรง

วันที่ 12 ต.ค. 65 กรณีเรือ 40 ฝีพาย ชนกับตอม่อสะพานทำให้เรือคว่ำ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือมาได้เพียง 37 คน ฝีพายอีก 3 คนจมน้ำ รอดชีวิต 1 จมน้ำหายไป 2 คน เหตุเกิดในการแข่งขันเรือยาว ในงานไหลเรือไฟประเพณีออกพรรษาที่มหาสารคาม เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา และมาพบศพ 2 ฝีพายในวันที่ 11 ต.ค.

โดย 1 ในนั้นคือ นายสุนันต์ พิชัยลึก อายุ 24 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเมืองแก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ศพได้ถูกส่งมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดแล้ว บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

โดยเฉพาะนางศศิ แย้มรัมย์ อายุ51 แม่ของผู้เสียชีวิต ที่ยังรับกับเหตุการณ์ยังไม่ได้ นางศศิ บอกว่า ลูกชายเป็นฝีพายมาตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยจะพายคู่กับแฝดพี่ชายเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุ ลูกชายได้โทรมาบอกแม่ว่า ไปแข่งที่ จ.อุบลราชธานี ฉลองกับเพื่อนๆ ที่ชนะเลิศ แล้วจะกลับไปแข่งที่ จ.มหาสารคาม ต่อ คือจุดที่เกิดเหตุ ไม่คิดว่าคำพูดดีใจของลูกจะเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย ส่วนผู้จัดงานได้ประสานจะมาร่วมงานแล้ว ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องเวรกรรม

ขณะที่ นายสุนันต์ หรือออย พิชัยลึก อายุ 24 ปี แฝดพี่ ของผู้เสียชีวิต บอกว่า ปกติจะพายเรือด้วยกัน แต่ตนไม่อยากเดินทางไปต่างจังหวัด จึงให้น้องเดินสายแข่ง หลังจากหยุดแข่งเรือมา 3 ปีเพราะโรคโควิด-19

นายสนันต์ ยังบอกด้วยว่า สิ่งที่เจ้าของงานแข่งเรือแต่ละแห่งควรจะใส่ใจ คือความปลอดภัย เพราะที่ผ่านมาจะไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่มาคอยเฝ้าจุดเสี่ยงที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ เนื่องจากเรือขนาด 40 ฝีพาย ถือว่าเป็นเรือขนาดใหญ่ หากเกิดอะไรขึ้นแบบนี้ เจ้าหน้าที่มักจะช่วยเหลือไม่ได้ทั้งหมด