“พลเอกประวิตร​“ เป็นประธานการประชุมการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล​  เคาะร่าง “แผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล 2566-2570 มุ่งเสริมสร้างความมั่นคงแบบองค์รวม

 

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ​ นปท. ครั้งที่ 1/2565 (ผ่านระบบ Video Conference​ ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ชั้น 3 สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล

 

โดยที่ประชุมรับทราบสถานการณ์ความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาค และการประเมินท่าทีของไทยต่อสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งผลการศึกษาการปรับปรุงกฎหมายตามพันธกรณีระหว่างประเทศ และผลการดำเนินงานขับเคลื่อนแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล 2558-2564

 

จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบ (ร่าง) แผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล ปี 2566-2570 โดยมุ่งเน้นเสริมสร้างความมั่นคงแบบองค์รวม ครอบคลุมทุกมิติความมั่นคง มีเป้าหมาย สามารถรับมือและควบคุมภัยคุกคามทางทะเลทุกมิติ โดยไทยสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลอย่างสมดุลและยั่งยืน มีการบริหารจัดการความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและมีธรรมาภิบาล สู่การอนุรักษ์การใช้ประโยชน์ทางทะเลที่ยั่งยืน และให้ความเห็นชอบ (ร่าง) คำสั่งแต่งตั้งอนุกรรมการ 2 คณะ ขับเคลื่อนการแบ่งเขตและการใช้ประโยชน์ รวมทั้งการจัดทำดัชนีตัวชี้วัด 

 

พลเอกประวิตร ยังย้ำว่า ความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล มีความซับซ้อนในหลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ด้านกฎหมายและความร่วมมือต่างประเทศ ด้านระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งด้านพลังงานและการคมนาคมขนส่ง โดยเป็นผลประโยชน์ชาติที่ต้องการความเข้าใจร่วมกันและขับเคลื่อนในทิศทางเดียวกัน ตอบโจทย์เป้าหมายที่กำหนดร่วมกัน ขณะเดียวกัน จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์การขยายอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจในภูมิภาค และกำหนดท่าทีให้เหมาะสมกับการรักษาดุลยภาพระหว่างประเทศ ซึ่งการตระหนักรู้ต่อสถานการณ์ร่วมกันมีความสำคัญยิ่ง

 

นอกจากนี้ ยังกำชับให้ สมช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้ของคนในชาติ และการเสริมสร้างความร่วมมือกันมากขึ้น ตลอดจนต้องกระตือรือร้นขับเคลื่อนแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ที่ให้ความสำคัญกับการกำหนดตัวชี้วัดและการประเมินผลให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม เพื่อการใช้ประโยชน์ทางทะเลและความมั่นคงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดที่มุ่งความยั่งยืนร่วมกัน