เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ก.ย.65 ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ (ศคอ.) พาผู้เสียหายถูกหลอกลงทุนกว่า 10 ราย เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ สคบ.

 

กรณีแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง เป็นผู้ทำหน้าที่ไลฟ์สดจำหน่ายสินค้าผ่านเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งอยากให้ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวว่า ได้ดำเนินธุรกิจขายสินค้าตลาดแบบตรง ตามที่ได้จดทะเบียนต่อ สคบ. หรือไม่ โดยมีการเปิดให้มีตัวแทน มีแผนการตลาด มีการจ่ายผลตอบแทน และมีการระดมทุนเปิดคลังสินค้าในจำนวนเงินสูงถึง 500,000 บาท และมีผู้เสียหายจำนวนมาก

และขอให้ตรวจสอบการโฆษณาและขายสินค้าของบริษัทดังกล่าวต่อประชาชนว่า เป็นไปอย่างถูกต้องตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 หรือไม่ อย่างไร โดยเฉพาะการจัดโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม มีการโฆษณาขายสินค้าด้วยโปรโมชั่นที่อาจเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีการหาตัวแทนและจ่ายผลตอบแทน ซึ่งปรากฏได้ว่าเกิดความเสียหายแก่ทั้งตัวแทน ผู้ผลิต หรือเกิดความเสียหายต่อผู้บริโภคหรือไม่

 

พร้อมกันนี้ ได้นำเอกสารหลักฐานที่ได้รวบรวมจากผู้เสียหาย และประชาชนผู้บริโภคส่งข้อมูลมาให้ เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานการซื้อขายออนไลน์ ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี และเพื่อให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่อ และมีการป้องกันภัยก่อนการเสียหายต่อไปจึงมาร้องเพื่อให้หน่วยงานรัฐตรวจสอบ

 

น.ส.แอน อายุ 42 ปี ผู้เสียหายรายหนึ่งเปิดเผยว่าตนเป็น CEO ของโรงงานผู้ผลิตสินค้าประเภทกาแฟ ชามาะนาว คอลลาเจน และโกโก้ ส่งลูกค้าจำหน่ายออนไลน์ โดยให้เครดิต 30 วัน หากฝ่ายใดผิดสัญญาจะถูกปรับเป็นเงิน 1 % ระยะแรกเมื่อส่งสินค้าแล้ว แม่ค้าออนไลน์รายดังกล่าวก็จ่ายเงิน แต่ผ่านไปไม่กี่งวดก็ไม่จ่ายเงินค่าสินค้าอีกเลย เขาจะสั่งซื้อสินค้าเป็นล็อต ๆ ละ 300,000 กล่อง เห็นว่าเขาขายดี สั่งสินค้ามา จึงส่งให้ทุกวัน จนมียอดสะสมกว่า 40-50 ล้านบาท เขาอ้างว่ารอเงินจากคลังสินค้าอยู่ ค้างจ่ายมา 4 เดือนแล้ว

 

"เราเห็นโปรไฟล์เพจเขาดูดี มีโกดังสินค้า มีที่มาที่ไปดูน่าเขื่อถือ และที่สำคัญเขาขายเก่ง และขายดีมากๆ ระยะแรกเขาก็จ่ายเงินตรงเวลาทุกครั้ง  ขอเพิ่มยอดสินค้ามาเราก็ส่งเพิ่มให้ จนมีปัญหาเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา เราก็อยากให้โอกาสเขาทำธุรกิจต่อไป แต่การทำแบบนี้เป็นการตัดอนาคต ไม่อยากให้เขาไปทำกับคนอื่นอีก จึงจำเป็นต้องออกมาแฉพฤติกรรมของเขาวันนี้"

 

เบื้องต้นได้แจ้งความดำเนินคดี พรบ.เช็ค ฐานจ่ายเช็คเด้งจำนวน 16 ล้านบาท และเตรียมฟ้องแพ่งต่อไปด้วย

 

ด้านนายแบงค์ อายุ 37 ปี CEO เจ้าของแบรนด์ซากูระ คอลลาเจน หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เขานำโปรไฟล์ในอดีตมาโชว์ให้ดู มีการไปออกรายการทีวีดังๆ หลายรายการ จนเราเชื่อถือจึงตัดสินใจให้เงินลงทุนเขาไปจำนวน 14 ล้าน หลังจากนั้นก็มีการจ่ายเงินปันผลคืนกลับมาในช่วงแรก ก่อนจะขอทุนเพิ่มในภายหลัง เพื่มจาก 2 ล้าน เป็น 5 ล้าน เป็น 10 ล้าน และ 20 ล้านบาท ครั้งแรกเขาสร้างความน่าเชื่อถือให้เห็นว่าเขาขายจริง ทำธุรกิจได้มีการจ่ายเงินปันผลจริง ระยะหลังมาพบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกมาลงทุนอีกจำนวนหลายราย เฉพาะค่าเสียหายกับโรงงานคุณแอนก็ 40-50 ล้านบาทแล้ว จะอ้างเหตุผลต่างๆ เช่น โรงงานมีปัญหา พายุเข้าบ้าง แล้วแต่จะอ้างมาเป็นเหตุไม่จ่ายเงินปันผล ขอถอนทุนก็ปฏิเสธไม่ให้ถอน เงินที่จ่ายปันผลก่อนหน้าก็แจ้งว่าเป็นเงินดอกเบี้ยผิดกฎหมาย ถ้าจะเอาเรื่องเขาก็ขู่จะฟ้องกลับ จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงให้ลงทุนกับเขา

 

น.ส.กฤษอนงค์ กล่าวเพิ่มเติม การทำธุรกิจขายตรงวันนี้ทำกันง่าย หลอกลวงคนมาลงทุนกันได้โดยง่าย อาศัยช่องทางกฎหมาย สุดท้ายก็จะกลายเป็นคดีแพ่ง เอาผิดคดีอาญาไม่ได้ ผู้ขายรายนี้มีประสบการณ์สูง ไลฟ์สดสร้างภาพขายตรงจำหน่ายสินค้าได้จำนวนมากๆ ทุกวันหลอกคนมาร่วมลงทุนรายใหญ่ๆ ได้คราวละมากๆ

 

หลังจากนี้ ศคอ. เตรียมพาผู้เสียหายแจ้งความกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในเร็วๆ นี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ สคบ. ได้รับเรื่องไว้เสนอต่อเลขาธิการ สคบ. เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับแม่ค้าออนไลน์เจ้าของบริษัทที่ผู้เสียหายมาร้อง สคบ. รายนี้ มีชื่อติดประกาศแจ้งเตือนใน www.blacklistseller.com ด้วย