คณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา เตรียมเชิญ "ธานี" เข้าชี้แจง 12 ก.ย. พร้อมทำหนังสือถึงเจ้าอาวาสวัดบางลี่ ประเด็นเงินบริจาค ชี้ สว.ทำพิธียกน้ำชากับ ส.ต.ท.หญิง เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ให้ตำแหน่งเอื้อก็ต้องสอบ โวยถูกดึงเป็นการเมืองดิสเครดิต สว.

นายสมชาย แสวงการ สว.ในฐานะโฆษกคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีมติประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 8 ก.ย. ซึ่งจะเป็นการพิจารณาเอกสาร โดยจะไม่มีการเชิญใครมาให้ข้อมูล และประชุมอีกครั้งในวันที่ 12 ก.ย. เวลา 13.00 น. เพื่อดูเอกสารจากนั้นเวลา 14.30 น. โดยจะเชิญให้นายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา มาให้ข้อมูล ซึ่งยังไม่มีหนังสือเชิญไป แต่คิดว่านายธานี คงไม่ปฏิเสธมาชี้แจง ส่วน พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ นั้นทางกรรมการฯ ยังไม่ได้เชิญมาให้ข้อมูล เพราะเบื้องต้นเชิญผู้ร้องและผู้ถูกร้อง แต่หากข้อมูลไม่เพียงพอก็เชิญได้หมด และหากเจ้าตัวประสงค์จะชี้แจงก็มาได้

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ส่วนที่ก่อนหน้านี้กรรมการฯ ได้มีมติขอข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการกองทัพไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และกอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้านั้น ซึ่งจะได้เอกสารตอบกลับภายใน 7 วัน และวันนี้ที่ประชุมมีมติขอข้อมูลเพิ่มเติมจากหน่วยงานดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อสอบถามเรื่องการขอตัวคนมาช่วยราชการ

ส่วนกรณีที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ มาให้ข้อมูลนั้น ทางกรรมการฯได้รับข้อมูลเพิ่มเติมอีก 16 ประเด็น แต่จะเป็นประเด็นใดบ้างนั้นขอเป็นความลับ ยืนยันว่ากรรมการฯ จะทำงานหนักและดำเนินการตามกรอบกฎหมาย ทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรน่ากังวล และจะเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุด

เมื่อถามว่า นายวัชระ ระบุว่าชาวจังหวัดราชบุรี ให้ข้อมูลเรื่องการยกน้ำชาของ สว.ท่านหนึ่งกับสุภาพสตรี นายสมชาย กล่าวว่า กรรมการฯ เพิ่งทราบเรื่องจากนายวัชระ แต่ไม่ทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อใดและที่ไหน และเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัว เรายังไม่มีข้อมูลต้องรอตรวจสอบเพิ่มเติม ทั้งนี้นายวัชระ ร้องหลายข้อที่ผิดจริยธรรม ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการทำหน้าที่ สว.ก็ถือว่าผิดจริยธรรม แต่เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ถ้าใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปเอื้อต่อความสัมพันธ์ส่วนตัวก็ถือว่าผิดและต้องดำเนินการ ส่วนเรื่องที่นายวัชระ ระบุเกี่ยวกับเงินบริจาคให้วัดบางลี่เจริญธรรมนั้น ที่ประชุมมีมติให้ทำหนังสือสอบถามไปยังเจ้าอาวาสวัด ว่าเงินบริจาคดังกล่าวเกี่ยวกับงานอะไร และเป็นเงินของใคร

เมื่อถามว่า สรุปแล้ว ส.ต.ท.หญิง ทำงานให้กรรมาธิการกี่ชุด นายสมชาย กล่าวว่า ทางสำนักเลขาธิการวุฒิสภา แจ้งว่า ส.ต.ท.หญิงคนดังกล่าว เป็นเลขานุการ 1 คณะ เป็นนักวิชาการ 1 คณะ และเป็นที่ปรึกษา 1 คณะ แต่ทุกอย่างดำเนินการตามมติของกรรมาธิการ ส่วนคุณสมบัติและการเข้าร่วมประชุมก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป โดยขณะนี้ให้ฝ่ายเลขาธิการวุฒิสภา ตรวจสอบต่อว่าได้มาปฏิบัติงานหรือไม่ และดูสถิติการเซ็นชื่อว่ามีกี่ครั้ง

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการพูดถึง ส.ต.ท.หญิง ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วย นายสมชาย กล่าวว่า  ประธานวุฒิสภา ได้ตอบคำถามนี้ไปแล้ว ว่าการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาและเลขานุการกรรมาธิการ จะมีเงินเดือน หากทำงานได้ 1-2 ปีก็มีสิทธิ์ได้รับเครื่องราชฯ แต่ทั้งนี้ต้องไปตรวจสอบรายละเอียด ซึ่งคนผู้นั้นต้องมาช่วยราชการตามกรอบเวลา เพราะหากเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ จะไม่มีเงินเดือนและจะไม่ได้รับเครื่องราชฯ

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายเกรงว่าจะมีการโอบอุ้มช่วยกันหรือไม่ นายสมชาย กล่าวยืนยันว่า กรรมการฯ ส่วนใหญ่เป็นประธานคณะกรรมาธิการ มีเกียรติ ศักดิ์ศรี มีความหนักแน่น ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด อะไรถูกก็ว่าไปตามถูก เพราะกรรมการฯ จะต้องรับผิดชอบทางสังคมและคดีอาญา ทั้งนี้มีบางส่วนพยายามดึงให้เป็นเรื่องการเมืองเพื่อลดเครดิต สว. ซึ่งคิดว่ากรรมการฯ จะไม่เล่นตามนั้น  และเราทำตามหน้าที่เต็มที่แข่งกับเวลา ส่วนมติจะถูกผิดอย่างไร ทางกรรมการฯ จะต้องรายงานเข้าที่ประชุมใหญ่วุฒิสภา เพื่อลงมติต่อไป โดยเราจะไม่เอนเอียงไปตามกระแส