ตำรวจตามรวบคู่ผัวเมียแสบ แอบอ้างรู้จักคนสนิทบิ๊กป้อม สามารถฝากเข้าโรงเรียนรัฐและโรงเรียนนายร้อยได้ ทำให้ลูก 2 คนเสียเวลาเรียนทิพย์ 1 ปี สูญเงินอีก 2 ล้านกว่าบาท หัวอกคนเป็นแม่สงสารลูกจับใจ ลั่นจะทำทุกทางให้ผู้ต้องหาเข้าคุก
วันที่ 31 ส.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำกำลังเข้าจับกุมนางสาวภัณฑิลา หรือแอน อายุ 33 ปี ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยเป็นเท็จ" โดยจับกุมได้ในวัดคูหาสวรรค์ ซอยเพชรเกษม 28 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องมาจาก นางสาวภัณฑิลา ผู้ต้องหารายนี้ได้ร่วมกับสามีซึ่งรับราชการทหาร มียศเป็น จ.ส.อ. ออกอุบายหลอกเหยื่อที่เป็นเพื่อนสนิทว่า สามารถฝากลูกของผู้เสียหายเข้าเรียนโรงเรียนช่างฝีมือทหารได้ เนื่องจากสามีของผู้ต้องหาทำงานอยู่กับคนสนิทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินไปเป็นค่าดำเนินการกว่า 2 ล้านบาท ต่อมาทางผู้เสียหายได้ไปสอบถามรายละเอียดในการเข้าเรียนโรงเรียนช่างฝีมือทหาร แต่ทางสองสามีภรรยาบ่ายเบี่ยงและรับปากว่าจะหาเงินมาใช้คืน แต่ถึงเวลาไม่มาชดใช้เงินคืนและได้หลบหนีไป ทางผู้เสียหายจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางเขน จนมีการออกหมายจับไว้ กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
โดยเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (31 ส.ค. 65) แม่ผู้ต้องหาได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหา พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า จากการสอบถามลูกสาวว่าไปเอาเงินเขามาจริงไหม ลูกสาวบอกว่าตนเองไม่รู้เรื่อง มีเพื่อนข้างบ้านของสามีเข้ามาหา แล้วบอกว่าอยากให้ลูกเข้าโรงเรียนช่างฝีมือทหาร สามารถจะช่วยให้เข้าได้ไหม เพราะเขาเห็นสามีเป็นทหาร ลูกสาวเลยให้คุยกับสามีโดยตรง แล้วเขาก็ตกลงรายละเอียดกันเอง จากนั้นสามีก็ใช้บัญชีตนเองเป็นคนรับโอนเงิน วันนี้ตนเองไม่มีเงินประกันตัวลูก แค่ค่ารถมาเยี่ยมลูกสาวยังจะไม่มีเลย
ล่าสุด ทีมงานได้ติดต่อไปยังนางบี (นามสมมติ) ผู้เสียหายในคดีนี้ทางโทรศัพท์ ผู้เสียหายเล่าทั้งน้ำตาว่า ช่วงปี 2564 ตนเองได้ไปปรึกษากับนางสาวภัณฑิลาว่า ได้พาลูกไปสมัครเรียนที่โรงเรียนช่างฝีมือทหาร และลูกคนเล็กเข้า ม.1 ที่โรงเรียนชื่อดังของรัฐแห่งหนึ่ง โดยนางสาวภัณฑิลากับสามี บอกว่าช่วยได้ แต่ต้องจ่ายเงินค่าเข้าเรียน ซึ่งตนเองก็ยินดีหาเงินมาจ่ายทุกอย่าง โดยจ่ายไปทั้งหมด 2,100,000 บาท ต่อมามีผู้อำนวยการโรงเรียนโทรมาคุยทั้ง 2 โรงเรียน ว่ารับลูกตนเองเข้าเรียนแล้ว แต่ให้เรียนออนไลน์ไปก่อน และจะสอนลูกตนเองแบบวีไอพีเพราะเป็นเด็กพลเอกประวิตร ไม่ต้องเรียนผ่านแอปฯ ซูม ต่อมาก็ได้มีการสอนออนไลน์จริงทุกวิชา โดยเน้นสั่งการบ้านให้ทำและให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ให้ถ่ายคลิปวิดพื้น 20 ครั้ง ถ่ายคลิปวิ่งหลายกิโลเมตร ยืนตรงเคารพธงชาติทุกเช้า คัดภาษาอังกฤษ 20 คำ โดยแต่ละวันจะสอนหนักมาก จนลูกตนเองร้องไห้เพราะเรียนไม่ไหว แต่ลูก ๆ ก็สู้ อดทนเรียนแบบนี้มาเกือบ 1 ปี แล้วยังบอกว่าลูกตนเองได้สิทธิพิเศษเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อย จปร. อีก โดยเรียกเงินไป 300,000 บาท แล้วให้ตนเองไปพบนาย ที่จังหวัดนครนายก ไปรออยู่ 3 วัน แต่ไม่ได้พบ อ้างต่าง ๆ นานา ตนเองเลยเริ่มคิดแล้วว่าจะถูกหลอกหรือเปล่า จนตนเองมาสงสัยว่าทำไมถึงไม่ให้ลูกทั้ง 2 คนไปเรียนที่โรงเรียน จึงบุกไปที่บ้านนางสาวภัณฑิลาเพื่อสอบถามความจริง โดยนางสาวภัณฑิลากับสามีได้ยอมรับผิด และยินยอมจะจ่ายเงินคืนให้ โดยผ่อนจ่ายเดือนละ 50,000 บาท แต่ตนเองไม่รับข้อเสนอเพราะสงสารลูกที่ต้องเรียนทิพย์ไป 1 ปี แถมให้ลูกตนเองเรียนหนักมาก ตนเองยอมเสียเงิน เพื่อให้ผู้ต้องหาทั้งหมดติดคุก