"ทิพานัน" ย้ำ "พล.อ.ประยุทธ์" บริหารประเทศเพื่อประโยชน์ประชาชน ไม่ต้องหนีคุกลี้ภัย ชี้ "ทักษิณ" บิดเบือนข่าวค่าจ้างแรงงาน เรื่องโกงจำนำข้าวคงอยู่ในจิตใต้สำนึก ลั่นยุติหรือไม่ยุตินายกฯ เป็นวาระตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่วาระสุดท้ายแบบใครบางคน

 

วันที่ 31 ส.ค. 65 นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่เฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่ข้อความที่นายทักษิณ ชินวัตร กล่าวพาดพิงด้วยข้อมูลที่คลาดเคลื่อนว่า ตนเองไม่ทราบว่านายทักษิณได้อ่านข่าวด้วยตนเองหรือไม่ ทำให้ออกมาวิจารณ์กันไปคนละเรื่องเช่นนี้ จนเกือบเข้าใจว่าเป็นปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารดิสเครดิตของฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ที่มักนำข้อมูลหรือคำให้สัมภาษณ์ของตนเองไปบิดเบือน แต่เมื่อตรวจสอบดูปรากฏว่า เป็นนายทักษิณที่ออกมาให้ความเห็นจริง ๆ ก็ทำให้รู้สึกเห็นใจนายทักษิณที่หลบหนีโทษจำคุกอยู่ไกลในต่างแดน ต้องขออภัยที่ข่าวสารจริงไม่ถึงท่าน หรือมีผู้นำไปถ่ายทอดให้ฟังแบบผิด ๆ ถูก ๆ หรืออาจสะเทือนใจกับคำว่า "นายกฯ เถื่อน" ที่เป็นวาทกรรมของพรรคเพื่อไทยเอง ทำให้เข้าใจไขว้เขว แล้วรีบออกมาให้ความเห็น ซึ่งอาจทำให้ประชาชนสับสน จึงอยากชี้แจงความจริงให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้
 
1. การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำไม่ได้ขึ้นแค่บางจังหวัด ความจริงคือ ถ้าผ่าน ครม. ก็จะขึ้นทั้งหมด 77 จังหวัดทั่วประเทศ แต่แบ่งเป็น 9 อัตราตามกลุ่มจังหวัดที่แตกต่างกัน เพราะมีสภาพเศรษฐกิจ สังคม ขนาดอุตสาหกรรมและความจำเป็นที่ต่างกัน ตามข้อสรุปการประชุม 3 ฝ่าย
 
2. ไม่เคยชี้แจงว่า ที่ขึ้นค่าแรงไม่ได้เพราะต้องเอาเงินไปจ่ายหนี้จำนำข้าว ความจริงคือ ได้ชี้แจงประชาชนไปว่า รัฐบาลพยายามหาแนวทางดำเนินการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำมาตลอด แต่เมื่อเจอวิกฤตโควิด-19 จนกระทบธุรกิจของสถานประกอบการในทุกภาคส่วน การขึ้นค่าจ้างในเวลาดังกล่าวจึงไม่เหมาะสม แต่ก็จะทำให้เร็วที่สุดเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยคำนึงผลกระทบทั้งของนายจ้าง-ลูกจ้าง ซึ่งแม้ไม่ใช่เงินของรัฐ เป็นเงินของเอกชนก็ตาม แต่การบริหารนโยบายที่มีหลายส่วนเกี่ยวข้องต้องรอบคอบระมัดระวัง กระทรวงแรงงานจึงมีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการค่าจ้าง 3 ฝ่าย คือ ลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาล โดยหาสมดุลระหว่าง "ค่าจ้าง-เงินเฟ้อ-ค่าครองชีพ" ก่อนออกนโยบายเพื่อให้ทั้งนายจ้างอยู่ได้และลูกจ้างอยู่ดี จึงมีตัวเลขค่าจ้างขั้นต่ำออกมา
 
ทั้งนี้ นางสาวทิพานัน กล่าวต่อว่า ในส่วนกรณีการกล่าวพาดพิงถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องลี้ภัย แล้วให้ไปเช่าบ้านนายทักษิณอยู่ได้ รวมถึงเป็นผู้นำต้องมองหลักนิติศาตร์และรัฐศาสตร์ คนเราต้องรู้จักพอ และเรื่องจริยธรรมเป็นเรื่องที่ผู้นำต้องแคร์นั้น ต้องขอชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจทำประโยชน์ให้ประเทศชาติมาโดยตลอดด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่จำเป็นต้องลี้ภัยใด ๆ และยังสามารถทำคุณประโยชน์ให้ชาติในทุก ๆ ด้านได้ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นเพียงปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ใช่ปัญหาที่ผู้นำไม่เคารพกฎหมายหรือไม่มีจริยธรรม เอามาเปรียบเทียบกับการไร้จริยธรรมและการทุจริตคอร์รัปชันหนีคดีอย่างนายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ได้ และถึงแม้หาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยุติหรือไม่ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ท่านยังดำเนินชีวิตตามปกติได้ เพราะเป็นเพียงการกำหนดวาระตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่วาระสุดท้ายแบบใครบางคน