"อนุชา" เผย ครม. รับทราบ 3 แนวทาง ปมพิจารณาวาระ 8 ปี "นายกฯ" ชี้หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องก็สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พร้อมขอประชาชนเคารพคำวินิจฉัยของศาลฯ ด้วย

 

วันที่ 23 ส.ค. 65 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึง การดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้วเมื่อวานนี้ (22 ส.ค. 65) จากนี้ไปต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องก็สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้หากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่อง สิ่งแรกที่ต้องดำเนินการก็คือรัฐบาลต้องส่งคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนที่สองคือหากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายกฯ หยุดการปฏิบัติหน้าที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จะรักษาการนายกรัฐมนตรีแทน และปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับคณะรัฐมนตรีเป็นปกติ โดยในคณะรัฐมนตรียังมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในคณะเนื่องจากมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

แต่หากศาลไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกฯ และคณะรัฐมนตรียังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ดังนั้นในส่วนของฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำที่ปฏิบัติหน้าที่ยังคงทำงานตามปกติทุกอย่าง

โดยนายอนุชา กล่าวอีกว่า แนวทางการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมองได้ 3 รูปแบบ คือ

1. ถ้าเริ่มนับจากพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก คือเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2557 ตามมาตรา 19 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2557 ก็จะครบ 8 ปีในวันที่ 23 ส.ค. 2565

2. ถ้าเริ่มนับจากการเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2562 ตามมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 จะครบ 8 ปี ในวันที่ 8 มิ.ย. 2570

3. ถ้าเริ่มนับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 6 เม.ย. 2560 เพราะมีบทเฉพาะกาลมาตรา 264 ที่ให้คณะรัฐมนตรีเก่า เริ่มเป็นคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะทำให้พลเอกประยุทธ์ครบ 8 ปี ในวันที่ 5 เม.ย. 2568

โดยแนวทางทั้งหมดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบแล้ว ซึ่งนายกฯ ยินดีให้ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ แต่สุดท้ายแล้ว ขอให้ประชาชนทุกคนได้เคารพกฎหมาย โดยเฉพาะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ถือเป็นที่สิ้นสุด พร้อมขอให้ทุกคนหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และไม่นำความคิดเห็นส่วนตัวมาตัดสิน เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้ง